เหมียวเมืองอิตาลี_กรุงโรม : โคลอสเซียม


...สิ่งที่น่าประทับใจคือ เมื่อได้รู้ว่าโคลอสเซียมเป็นการเปลี่ยน สถานที่ที่เคยเป็นทะเลสาบหย่อนใจส่วนตัวของจักรพรรดิเนโรคนดังให้กลายเป็นของส่วนรวมของประชาชนชาวโรมัน...

ตอนหนี่ง : 

อิตาลี่ : โรม…โคลอสเซียม 

 

                         หน้าหนาวแบบนี้ใครๆก็เก็บแมวเข้าบ้านกันหมด กว่าจะเจอกันอีกทีก็คงปลายๆเมษา เพราะยังหาใคร walk the cat ได้ยาก  บางคนมองเป็นการทรมานแมวทั้งที่แมวอาจจะชอบก็ได้นะ  ไม่เหมือน walk the dog ที่พบเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ทุกที่ทุกเวลา ขอย้ำว่าทุกเวลา เคยเจอหลายคู่ตอนเดินกลับบ้านตอนตีสองสามสี่ คนชอบแมวอย่างเราก็เหงาเล็กน้อย คิดถึงเจ้าเคที่ กับ โซอี้ ข้างบ้านที่เราแอบมุบมิบเป็นแมวตัวเองโดยที่ทั้งมันและเจ้าของไม่รู้ตัว มาสำรวจรูปถ่ายตั้งแต่โบราณกาล มีรูปแมวชาวบ้านที่แอบถ่ายไว้หลายรูปทีเดียว หน้าตาเจ้าเหมียวที่มองตอบมาจากรูปถ่ายช่วยเรียกความทรงจำที่เกี่ยวข้อง ความสุข ความทุกข์ ในเวลานั้นกลับคืนมา

 

แมวเมืองโรม

 

                      

                   แมวน้อยนั่งชมวิวยามเช้าอยู่ที่ริมสนาม เรากับเพื่อนเดินผ่านหน้าบ้านมันระหว่างทางจากโรงแรมไปโคลอสเซียม (Colosseum) บ้านสีกุหลาบส้มละมุนเข้ากับสีเจ้าเหมียวน้อย จำได้ว่าสวยมาก ตั้งใจไว้ว่าจะกลับมาบังคับพ่อเปลี่ยนสีบ้านตัวเอง บ้านเล็กบ้านน้อยสีสันสดใสเป็นบรรยากาศที่ต่างไปจากบ้านเมืองเรา ทางเดินไปโคลอสเซียมผ่านสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองต้องไต่บันไดขึ้นไป เพื่อนชวนให้ลองเสี่ยงไปเดินในสวนแทนเดินดมควันอยู่ข้างถนน พอโผล่พ้นบันไดก็ดีใจที่ตัดสินใจไม่ผิด ต้นไม้ใหญ่เรียงรายร่มรื่นเขียวชื่นใจ พอเห็นว่าทางเริ่มจะเลี้ยวห่างไปจากโคลอสเซียมที่เห็นอยู่ไม่ใกล้ไม่ใกล พวกเราก็กลับลงมาข้ามถนนไปหาที่ซื้อตั๋วเข้าชม  โคลอสเซียมอยู่ซะกลางเมืองเชียว อย่างนี้ไม่โดนควันรมดำปี๋เหรอเนี้ย แต่ตามข่าวแล้วจักรพรรดิเวสปาเชียนตั้งพระทัยสร้างให้อยู่ใจกลางเป็นศูนย์รวมชาวเมืองมาตั้งแต่ต้น

  

        "As long as the Colosseum stands, Rome will stand.
         When the Colosseum collapses, Rome will collapse.
         When Rome collapses, the world will collapse."

                      Prophecy by the Venerable Bede, 700 AD ca.

 

                       โคลอสเซียมเบื้องหน้าตระหง่านค้ำฟ้า เราหยุดมองอยู่อึดใจใหญ่ เป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่มีโอกาสย่างเท้าเข้าไปในสถานที่ที่อัดแน่นไว้ด้วยความทรงจำผ่านกาลเวลายาวนาน พานพบทั้งความรุ่งโรจน์และเสื่อมถอยสลับกันมาเป็นเจ้าเข้าครอง สะสมเป็นบารมีที่เพียงแค่มองก็ทำให้เราได้คิดในความเล็กน้อยของชีวิตเราเอง อยากมีตาวิเศษเห็นภาพจริงในอดีตยามรุ่งเรือง

                      เมื่อได้เข้าไปข้างในจึงเข้าใจว่าทำไมสถานที่ใหญ่โตถึงระบายคนเป็นพันเป็นหมื่นได้ในพริบตา ก็ด้วยการออกแบบให้มีทางเข้าออกกระจายทั่วสำหรับรองรับมหาชนที่เข้ามาชมมาเชียร์กีฬา Gladiator ในสมัยโรมัน เมื่อได้เข้าไปข้างในก็ได้เห็นพื้นล่างที่เขาเปิดไว้ให้เห็นโครงสร้างใต้ดิน (hypogeum) เป็นทางเดินคดเคี้ยว ห้องหับ กรง ที่เคยเป็นที่เก็บ “นักกีฬา” พอถึงเวลาต่อสู้ก็จะขึ้นลิฟท์ชักรอกมาโผล่ตรงระดับพื้น และเข้าประตูมาในสนามตรงกลางรูปไข่ที่เรียกว่าอารีน่า (Arena) ในสมัยโบราณเป็นพื้นไม้ (วางทับ hypogeum) แล้วถมด้วยทราย นัยว่าจะได้ซับเลือดจากการต่อสู้ เพื่อนบอกว่าอารีน่าแปลว่าทรายนั่นเอง ถึงตอนนี้อารีน่าหายไปหมดแล้ว เค้าทำเป็นทางเดินไม้ไว้หน่อยนึงตรงกลาง ใครได้ดูหนัง The Gladiator ก็คงรู้ว่านักสู้ในสังเวียนนี้มีชีวิตเป็นเดิมพัน แถมชนะแล้วก็ยังมีสิทธิตายได้เหมือนกันถ้าจักรพรรดิไม่ปลื้ม บางทีเราก็นึกสงสัยว่ามันสนุกตรงไหนที่ได้เห็นคนฆ่ากันอยู่ตรงหน้า สิงโตกินคนคาวเลือดคละคลุ้ง หรือว่ามีบริบทใดในอดีตที่ทำให้กิจกรรมนี้เป็นสิ่งจำเป็น แต่โคลอสเซียมก็ถูกใช้สำหรับการอื่นเช่นกัน การแสดงดนตรี ละครเทพปกรณัม จำลองฉากสงครามที่จักรวรรตโรมันอันยิ่งใหญ่ได้ชัยมา รวมถึงการซ้อมรบก่อนเข้าสู่สงครามจริง แอบฟังไกด์อธิบายคุณตาคุณยายกลุ่มใหญ่ที่เดินมาหยุดใกล้ๆ ได้ความว่าจำลองฉากรบทางทะเลด้วยนะ เริ่ด!! ทำได้เพราะมีระบบทดน้ำเข้าออกอารีน่าได้ตามสั่ง ฟังดูไม่น่าเชื่อ เอ้ะฟังผิดหรือเปล่า หันไปดูเพื่อนทำตาโตอยู่แสดงว่าฟังได้ความเดียวกัน

 

               

                   ไปเที่ยวกันเองแบบนี้ต้องทำตัวเป็นมัคคุเทศน์ให้ตัวเองตามเคย รอบนี้มีทั้งหนังสือนำเที่ยวยืมมาจากห้องสมุด แล้วยังมีนิยายของ Dan Brown เรื่อง Angels & Demons แต่ที่นี่มีเทปบรรยายให้เช่ามาฟังด้วย (self-guided audio tour) หน้าตาเหมือนโทรศัพท์เชยๆสีฟ้าสดเชียว ราคามิตรภาพ ให้รายละเอียดดีมาก แต่เจ้ากรรมที่เราเป็นคนที่จำรายละเอียดเกี่ยวกับปีไม่ได้ สิ่งที่ยังไม่ลืมคือโคลอสเซียมมีอายุประมาณ 2000 ปี จุคนได้ 50,000 คน คุณไกด์ฟ้ารายงานว่าผู้ชมที่เป็นกลุ่มคนรวยมีชื่อเสียงหรือข้าราชการจะมีที่นั่งเฉพาะ มีตัวอักษรสลักชื่ออยู่ และหินที่นั่งก็บ่งบอกสถานะได้ด้วย มีทั้งหินธรรมดาและหินอ่อน มีทางออกที่กันไว้สำหรับกลุ่มคนชั้นสูง (elites) สี่ประตู นอกนั้นอีกเจ็ดสิบหกประตูให้คนทั่วไป มีหมายเลขสลักไว้ชัดเจนด้วยค่ะ ส่วนที่นั่งจะจัดลำดับตามสถานะ และ ฐานะ ในสังคม คงเดากันได้ว่าชั้นที่ใกล้อารีน่าที่สุดเป็นของราชสำนัก และยังมีชั้นสูงสุดที่มองลงมาเห็นสิงโตตัวเท่าแมว กำลังขย้ำนักสู้ตัวเท่าลูกกรอก มีไว้สำหรับคนจ๊นจน ทาส และผู้หญิงชาวบ้าน สันนิษฐานว่าชั้นบนสุดนี้อาจต้องยืนดูหรือไม่ที่นั่งก็คงชันมากๆ

 

                   ที่ผ่านมาโคลอสเซียมโดนภัยธรรมชาติถล่มหลายครั้ง แถมที่เห็นแหว่งๆ ไปมากขนาดนี้ก็เพราะในช่วงทรุดโทรม คนก็มาขนมาขโมยหินไปสร้างบ้านตัวเอง (stone robbers) แต่โคลอสเซียมก็ยังยืนหยัด ขนไปก้อนหนึ่งท่าจะได้บ้านครึ่งหลังเลยนะนั่น

 

 ที่จริงแล้วโคลอสเซียมชื่อว่า Amphitheatrum Flavium เป็นภาษาลาติน

เห็นที่นั่งหินอ่อนสีขาวมั้ยคะ                               ข้างนอกมี Gladiator มาให้ถ่ายรูปคู่คิดตังส์แพงด้วย

             

 

                      สิ่งที่เราประทับใจที่สุดคือ เมื่อได้รู้ว่าโคลอสเซียมเป็นการเปลี่ยน สถานที่ที่เคยเป็นทะเลสาบหย่อนใจส่วนตัวของจักรพรรดิเนโรคนดังให้กลายเป็นของส่วนรวมของประชาชนชาวโรมัน เป็นหลักฐานแสดงวิสัยทัศน์กว้างไกลของจักรพรรดิเวสปาเชียนผู้เกรียงไกรและเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวโรมัน แต่เนโรที่ใครๆก็เกลียดกลัวกลับมาเป็นที่มาของชื่อโคลอสเซียมจนได้ เพราะสมัยก่อนที่ด้านหน้ามีรูปปั้นทองเหลืองมหึมาของเนโรยืนเด่นอยู่เรียกว่า Colossal statue of Nero นั่นเอง เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วโดนโค่นลงมาหลอมเอาทองแดงไปทำอย่างอื่น ไม่ทราบใครมีภาพติดตาจักรพรรดิเนโรยืนเล่นพิณมองดูไฟไหม้กรุงโรมเหมือนกันบ้าง มาจากหนังเรื่องไหนก็ลืมซะแล้ว ชื่อจริงๆ ของโคลอสเซียมสลักไว้เป็นภาษาลาตินคือ Amphitheatrum Flavium

 

                    มองไปจากโคลอสเซียมจะเห็นโรมันฟอรัม (Roman forum) อันเลื่องลือระบือไกลที่เราหมายมั่นปั้นมือจะไปขอเดินถนนเดียวกับที่จูเลียส ซีซ่าร์ กับมาร์ค แอนโทนี ผู้เรืองนาม เคยเดินคุยกันซักครั้ง แต่ไม่ถึงกับอยากเอาชีวิตมาทิ้งจุดเดียวกับท่านซีซ่าร์คนดังหรอกนะ

 

                   แล้วมาตามเหมียวพาไปเดินด้วยกันนะคะ :)

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #colosseum#rome
หมายเลขบันทึก: 424232เขียนเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2011 12:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • สวัสดีค่ะ
  • สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

                        

สวัสดีค่ะคุณบุษรา

      ขอให้เป็นวันวาเลนไทน์ที่ประทับใจของคุณบุษราเช่นกัน แล้วจะพาไปเที่ยวกันอีกนะคะ รอบนี้ไปเมืองโรมัน รอบหน้าไปไหนดีคะ

จ๋า :)

เข้ามาเยี่ยมชมได้สิ่งที่ยังไม่รู้เยอะ ขอบมากครับ

สวัสดีค่ะคุณประทีป

     ยินดีที่ไปเที่ยวด้วยกันค่ะ เมื่อซักอาทิตย์ที่แล้วมีข่าวมหาเศรษฐีบริจาคเงินเพื่อบูรณะโคลอสเซียม น่าสนใจเชียวค่ะว่าทำแล้วจะออกมาในรูปแบบไหน

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

จ๋า :)

แวะมาเยี่ยมชมครับ เกือบจะได้ไปอิตาลีอยู่แล้ว เมื่อพาภรรยา ลูกๆ ไปเที่ยวยุโรบเมื่อสิบกว่าปีก่อน  ชอบบรรยายเก่าๆ มากๆ เหมือนเคยได้อยู่อาศัยมาก่อนครับ

สวัสดีคุณคนบ้านไกล

        ขอบคุณที่ให้โอกาสนำเที่ยวค่ะ โลกนี้แสนกว้างใหญ่ เที่ยวยังไงก็ไม่ครบ ถ้าได้โอกาสไปเที่ยวอิตาลีอีกที ฝากกินไอติมด้วยนะคะ ถ้าชอบบรรยากาศเก่าๆต้องลองไปโรมันฟอรัม หรือไม่ก็อินเดีย จะได้ความรู้สึกแปลกบรรยายไม่ถูก อยากให้ก้อนหินเล่าเรื่องได้

จ๋า :)

อ่านตอน 2   แล้วต้องย้อนกลับมาอ่านตอนหนึ่ง

รู้สึกดีจัง มีความสุข  ที่ได้อ่านบทความดีๆ

 

ลืมไป....   เอาเจ้าลายและเพื่อนๆมาฝากจ้ะ

 

สวัสดีค่ะคุณครู

       ขอบคุณสำหรับรูปเจ้าลายค่ะ ท่าทางมีความสุขและภูมิใจในความหล่อของตัวเอง ไม่ทราบคนถ่ายรูปปลอดภัยดีเปล่าคะ พี่ลายเกิดหวงสาวๆ ในฮาเร็มขึ้นมาหรือเปล่า ครูเขียนอีกเยอะ ๆ นะคะ จ๋าชอบมาก ตามไปอ่านจนครบทุกเรื่องแล้ว :)

จ๋า :D

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท