ครั้งหนึ่งเคยเดินผ่านวงสนทนาของครูสอนชั้น ป.๑ , ป.๒ และชั้นอื่น ๆ ในยามพักกลางวันของครูหลังการทานอาหารแล้วก็มานั่งผ่อนคลายอารมณ์และความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมาเมื่อช่วงเช้า
มีหลายอย่างที่พวกครูชอบคุยกัน “วันนี้กินข้าวไม่อร่อยเลย” “แต่งตัวสวยจัง ซื้อเสื้อมาจากที่ไหนล่ะ” “นักเรียนมาเยอะไหม” เด็กทะเลาะอะไรกัน” “เด็กเขียนหนังสือไม่สวยเลย”
มาสะดุดตรงที่ได้ยินว่า “เด็กเขียนหนังสือไม่สวยเลย” ก็เลยเข้าไปนั่งคุยด้วย ครูคนนั้นเล่าให้ฟังว่า เด็กที่ห้องเขียนหนังสือไม่สวยเลยเกือบทั้งห้อง เวลาจะเอาไปประกวดคัดลายมือไม่รู้จะเลือกใครเขียนไม่สวยเหมือนกันหมดเลย ก็เลยถามว่า “ครูทำอย่างไร” ก็ได้คำตอบมาว่า ก็ให้ฝึกเขียนบ่อย ๆ มีการบ้านทุกวัน ไปคัดลายมือมาวันละ ๑๐ บรรทัด เด็กก็ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง แต่ลายมือก็เหมือนเดิม และอีกหลายห้องหลายชั้นก็มีปัญหาเหมือนกัน
ผู้เขียนก็เก็บมาคิด มันจำเป็นไหมเด็กต้องเขียนสวยทุกคน ผู้เขียนเองก็ลายมือไม่สวย เขียนแล้วคนอื่นอ่านไม่ออกแต่เราอ่านของเราออกก็ไม่เห็นมีปัญหาในการทำงานเลย หลายคนเคยไปโรงพยาบาลหมอตรวจเสร็จก็เขียนไปสั่งยา ทุกคนอ่านไม่เห็นออกเลยภาษาไทยแท้ ๆ แต่ทำไม่อ่านไม่รู้เรื่อง ก็ไม่เห็นมีใครไปว่าหมอเลยให้ไปหัดเขียนหนังสือมาใหม่คนอื่นจะได้อ่านออกบ้าง แต่กลับชื่นชมหมอว่าท่านเก่ง รักษาโรคได้
มีคำกล่าว “เขียนสวยเป็นเสมียน เขียนไม่รู้เรื่องเป็นนายคน” ผู้เขียนถูกใจอย่างมาก เพราะตรงกับใจผู้เขียนเลย เราเขียนไม่สวยก็ต้องชอบเป็นธรรมดา แต่ไม่ใช่เพราะเหตุผลดังกล่าว การที่คนเราจะประสบผลสำเร็จได้นั้นผู้เขียนคิดว่าต้องประกอบด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน เราอย่าไปตัดสินด้วยเหตุบางอย่าง เช่น ลายมืออย่างที่ครูทุกคนหวังให้นักเรียนเขียนสวยมีระเบียบ บางคนเขียนสวย แต่ไม่รับผิดชอบ เกียจคร้าน ทำงานไม่เป็น แล้วจะประสบผลสำเร็จได้อย่างไร
ครั้งหนึ่งเคยไปจัดนิทรรศการต้อนรับผู้หลักผู้ใหญ่ในกรม นำผลงานนักเรียนไปวางไว้ให้ท่านได้ชม แต่ไม่ได้คัดเลือกเอาเล่มที่เขียนสวยงามทุกเล่มมาวาง มีอยู่เล่มหนึ่งหลงมาด้วย เขียนขี้เหล่มากเลย สวยก็ไม่สวย แต่เขาวาดรูปสวย พอรู้ท่านผู้ใหญ่ก็เดินมาถึงพอดี จะหยิบออกก็ไม่ทันแล้วก็เลยตามเลย
และท่านก็หยิบงานเล่มนั้นมาเปิดดู แล้วก็ยื่นให้ผู้ติดตาม ผู้บริหารโรงเรียนได้ดูกัน เห็นผู้บริหารโรงเรียนทำหน้าเสียกันทุกคน แต่ที่ได้ยินตามมา “ภาพสวย เขียนไม่สวย” “ฉันก็เขียนไม่สวย
ฉันยังได้เป็นอธิบดีเลย”
ดังนั้น ผู้เขียนจึงคิดว่า การที่เด็กลายมือไม่สวยนั้นก็อย่าไปเคี่ยวเข็ญให้เขาเขียนสวยขึ้นมาในทันทีทันใดตามใจครู โดยที่จะไปสร้างความน่าเบื่อให้กับนักเรียนจนไม่อยากเรียน แต่ควรหาวิธีการ
อื่น ๆ ที่จะช่วยพัฒนาเขาให้ดีขึ้น เรื่อย ๆ และให้ดูคุณภาพด้านอื่น ๆ ว่าเขาประสบผลสำเร็จหรือไม่ ถ้าเขาสามารถทำงานอื่นได้ดี ก็อย่าเอาลายมือมาตัดสินเขาก็แล้วกัน.......
ไม่มีความเห็น