ยืดเวลาเบิกงบไทยเข้มแข็ง


งบไทยเข้มแข็งเบิกจ่ายเริ่มอืด เข็นไม่ขึ้น "ไตรรงค์" ชง ครม.ขยายเวลาเบิกจ่ายงบที่ค้างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 1 ก.พ.นี้ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ จะเสนอให้ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายงบในโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ออกไปอีกระยะหนึ่ง หลังจาก ครม.เคยมีมติให้เบิกจ่ายให้แล้วเสร็จในวันที่ 31 ธ.ค. 2553 สำหรับโครงการไทยเข้มแข็งมีการอนุมัติโครงการทั้งสิ้น 4.264 หมื่นโครงการ วงเงินรวม 3.49 แสนล้านบาท จัดสรรงบไปแล้ว 3.37 แสนล้านบาท จัดซื้อจัดจ้างแล้ว 3.21 แสนล้านบาท ในโครงการที่จัดซื้อจัดจ้างเสร็จแล้วนั้นมีการเบิกจ่ายไปรวม 2.61 แสนล้านบาท โครงการเสร็จสมบูรณ์แล้ว 2.48 หมื่นโครงการ วงเงินรวม 1.35 แสนล้านบาท ยังเหลือส่วนที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายอยู่อีก 5.09 หมื่นล้านบาท  ขณะที่โครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณไปแล้ว 824 โครงการแต่รอรับการจัดสรรเงินอยู่ทั้งสิ้น 1.23 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้ส่วนราชการกำลังเจรจากับคณะกรรมการโครงการไทยเข้มแข็ง

       ทั้งนี้ หากพิจารณารายภาคจะพบว่า ภาคใต้เบิกแล้ว 3 หมื่นล้านบาทเศษ คิดเป็น 65%  ภาคกลางเบิกไปแล้ว 6.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 75%  ภาคเหนือเบิกไป 3.39 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 76.3%  ภาคอีสานเบิกแล้ว 5.47 หมื่นล้านบาทคิดเป็น 80% และส่วนกลางเบิกแล้ว 7 หมื่นล้านบาท

       ตามเอกสารที่นายไตรรงค์ชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องขยายเวลาการเบิกจ่ายออกไปต่อ ครม.นั้น ระบุว่าความล่าช้าที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดการทำงานของราชการ แต่เกิดขึ้นเพราะปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำให้การดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้รับอนุมัติเงินโครงการไทยเข้มแข็งเกิดความล่าช้า ไม่สามารถเบิกจ่ายงบในโครงการลงทุนปีเดียวได้หมดภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2553 ตามระยะเวลาที่ ครม.กำหนดได้  นอกจากนี้ เมื่อเกิดความล่าช้าและเกินเวลาที่รัฐบาลกำหนด หน่วยงานจึงหยุดการสานต่อในเรื่องการเบิกจ่ายของงบประมาณในส่วนที่เป็นงบลงทุน และงบดำเนินงานที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ การเบิกจ่ายเงินโครงการไทยเข้มแข็งจึงชะลอตัวมาตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา

       นายไตรรงค์ รายงานอีกว่า จากการตรวจสอบโครงการที่ยังมีปัญหาในการเบิกจ่ายงบ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนแทบทั้งสิ้น ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของโครงการ จึงเห็นสมควรให้หน่วยงานต่าง ๆ สามารถเบิกจ่ายงบได้ต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย แต่ต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินโดยเร็วเพื่อประโยชน์ของประชาชน

 

โพสต์ทูเดย์

1 กุมภาพันธ์ 2554

หมายเลขบันทึก: 423463เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2011 10:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 พฤษภาคม 2012 15:11 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท