จากเวลาที่เหลือน้อย


หลายๆ ความประทับใสจของหลานชายสุดที่รัก ยังคงกรุ่นในความทรงจำของลุงบุญ ผู้ยังหนุ่มแน่น นั่งเฝ้าหลานชายทุกเวลา...

          บรรยากาศยามเช้า...หลังจังหันและทำภารกิจอื่นใดเสร็จเรียบร้อยมานั่งต่อยอดเรื่องที่จะเล่า..และเก็บไว้ในความทรงจำ...

เสียงมนต์ธิเบต โดยศิลปินผู้หญิงเป็นผู้ขับขาน..ไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิต ภาวนาและเปิดเพลงนี้กำกับ ได้นาน สงบ เย็นสบายเหมือนร่างกายปรับสภาพตามอากาศ.. 

เสียงนกกระจอกกับนะกระจิบแข่งเสียงกันริมกำแพงสูง..นกเขาตัวน้อยย่องเบามากินเศษข้าวก้นบาตรพระ ทะยอยเดินมาและเพิ่มจำนวนเรื่อยๆ กระรอกน้อยไต่จากต้นมะเกลือใหญ่นับร้อยปี ผงาดข้ามมาต้นมะขามและถลาลงกิ่งโพธิ์อย่างชำนาญ...

จำนวนประชากรแมวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่พระรูปหนึ่งท่านเมตตาเลี้ยงดูแม่แมว และลูกๆ นับแล้วประมาณ 14 ตัวในแม่เดียว... สำหรับกุฏิน้อย..หลังนี้มีเพียง 3 เป็นพี่น้องกันที่ไม่ได้เจตนาเลี้ยง แต่ตกบันไดพลอยโจนเมื่อมีเทวดาชั้นไหนมิทราบได้ นำมาปล่อยหน้าวัด ลูกเณรและพระใหม่ไปเก็บเข้ามาด้วยความสงสาร จึงต้องชุบเลี้ยงอย่างดี และด้วยบารมี แมวจึงอ้วน สะอาด ตัวโตเกินวัย..ก็ได้เวลาที่จะคุมกำเนิดแล้ว... หลังจากมีงานปฏิบัติธรรมประจำปีเสร็จสิ้นลง วัดก็สงบและเงียบ สบาย จับจองพื้นที่นั่งภาวนาจุดไหนก็ได้.. ไม่ต้องขวยเขินหรือกังวลเรื่องญาติโยมมานั่งมอง..

ลองคิดตามอาตมาเล่นๆ นะสัตว์ดิรัจฉาน..มันมีเวลาในการผสมพันธุ์ของมัน..แต่สัตว์ประเสริฐนี่เวลาใดก็ได้ ไม่ต้องนับเดือนหรือรอเวลา เมื่อตัณหากำเริบก็สามารถเริ่มกิจกรรมได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดเดือน และตลอดปี  ซึ่งต่างกับสัตว์ดิรัจฉานโดยสิ้นเชิง..คิดหน่อยนะ..

มีเรื่องมาเล่าให้อ่านกันแบบสบาย (นั่งแบบสบายๆ) ในยามเช้าวันทำงานวันแรกของสัปดาห์และปลายเดือนแรกของปี.. หลังจากช่วงบ่ายของวันนี้ความเครียดของใครคงบรรเทาเบาบางลงไปได้บ้าง เมื่อต้องทำกิจกรรมส่วนตัวตามจุดรับชำระเงินต่างๆ เฮ่อ..เหนื่อย..

ชีวิตที่สงบ เงียบ และสัปปายะกับสถานที่และอาหาร จึงทำให้มีความคิดเรื่องราวต่างๆ ที่ได้ประสบพบเจอนำมาเล่าให้ได้อ่านกันบ่อยๆ นับว่าเป็นการฝึกมือในการสื่อสารสองทางด้วยกับการเขียน ที่รอกำลังใจจากทุกคนที่ได้อ่าน ในการชี้แนะหรือให้กำลังใจผู้เขียนบ้าง เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเสาะหาเรื่องราวต่างๆ จากทุกมุมชีวิตตนเองมานั่งกลั่นกรองและจรดปากกาให้ได้อ่านกันบ่อย..

บรรยากาศตอนนี้ที่ขอนแก่น กับบ้านไร่ปลายดอยทางเหนือจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ?  คงต่างกันไม่มาก แต่ทางภาคเหนือของไทยเราคงจะหนาวเย็นกว่านี้โขอยู่เพราะเป็นเมืองหนาวตลอดปีอยู่แล้ว แต่ริมบึงขอนแก่นอากาศสบาย...

เรื่องที่จะเขียนอยู่นี้จุดประกายมาจากลูกเณรที่เิดินไปเดินมาทำงานตามระแวกกุฏิพระในยามเช้า จึงนึกถึงความพลัดพราก..ของบ้านหลังหนึ่ง.. แม่กับลูก..ซึ่งรอกันอยู่ที่ปลายทาง..

การศึกษาสร้างสร้างคน สร้างอนาคตได้ คำๆ นี้ไม่ขอค้านเลยสักนิด เพราะการศึกษาทำให้ชีวิตคนรอบข้างเปลี่ยนไป..อย่างเห็นได้ชัด หลายต่อหลายคน.. แต่ครอบครัวนี้ขาดการสนับสนุนเรื่องการศึกษา  ขาดการเอาใจใส่หรือการขวนขวายในการเรียนเพื่อการพัฒนาบ้านและฐานะความเป็นอยู่ให้มีหน้าตาและอาชีพเหมือนกับบ้านหลังอื่นที่ใกล้เคียงกัน.. บรรดาลูกๆ หลายคนในบ้าน จึงมีอาชีพค่อนข้างลำบากกันทุกคน ส่วนใหญ่ทำงานรับจ้าง หากินไปวันๆ ตามคำชี้บัญชาของทั้งพ่อและทั้งแม่ซึ่งเป็นหัวเรือชี้ชีวิตของลูกทุกคน..

กาลเวลาผ่านไป เมื่อสังคมบ้านชนบทเริ่มมี เริ่มที่จะเปลี่ยนเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ จึงมีการแข่งขันกันสร้างบ้าน ปลูกบ้าน หรือนำความสะดวกสบายเข้ามาในบ้าน บรรยากาศในหมู่บ้านจึงเปลี่ยนไป..จนปัจจุบันห่างกันมาร่วมสามสิบปี.. ค่านิยมทำให้คนในบ้านชนบทต้องเจ็บตัวในภายหลัง เสียความรู้สึกจากสิ่งที่ตนมี..!!!

น้อย..คือชื่อหญิงสาวคนเล็กซึ่งเหลือเพียงคนเดียวในบ้านที่อายุ ยังพอที่จะทำงานอาชีพพิเศษได้.. เพราะบรรดาพี่สาวหนีมารับจ้างในเมืองกรุง เป็นลูกจ้างร้านอาหารและทำงานทั่วไป ส่วนบรรดาพี่ผู้ชายก็ทำงานรับจ้างตัดไม้ รายได้เล็กน้อย ไม่วุ่นวายอะไร และยังไม่มีครอบครัว จึงไม่ดิ้นรน.. แต่ด้วยความที่พ่อและแม่กลัวน้อยหน้าในด้านวัตถุนิยม เหมือนคนอื่น  จึงเลียบเคียงจากคนในหมู่บ้าน อยากส่งน้อย..ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กให้ทำงานอย่างนี้บ้าง..

นิสัยของลูกสาวไม่ค่อยจะเหมือนใคร เป็นคนเงียบ ตามใจพ่อแม่ ไม่ค่อยพูดจากกับใคร จึงยอมทำตามคำสั่งโดยไม่บิดพลิ้ว..ไม่นานน้อยก็ได้ไปญี่ปุ่น..โดยนายหน้าเป็นคนพาไป..

"ค้าสาว"..คำนี้คนในท้องถิ่นจะพูดสั้นๆ ในบทสนทนาและจะไม่พูดซ้ำบ่อยๆ "เสนียดปาก" หลายคนว่าอย่างนั้น เพราะบางคนเคยทำเพราะจำใจเพื่อแลกกับบ้านใหญ่โตและทรัพย์สินบางอย่าง แต่ก็มิได้ยั่งยืน เพราะไม่มีความรู้ในการต่อยอดเงิน นำมาทำธุรกิจหรือบริหารให้เกิดรายได้..

น้อยทำอยู่ 11 ปี จนบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูง กว้างใหญ่ สร้างเสร็จ..เครื่องใช้อำนวยความโก้หรูเต็มบ้าน น้อยจึงทำงานนี้ลดลง ไม่ไปบ่อย.. และเมื่อทราบว่าตนมีเด็ก..

หลังจากนั้นน้อยก็เริ่มพักผ่อน เมื่อตั้งครรภ์และไปตรวจสุขภาพเพื่อจะฝากครรภ์ และตรวจเลือด... บุคลิกเริ่มพูดเก่งขึ้น ดื่มและสูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติ.. ลักษณะการแต่งตัวเปลี่ยนไปจากเด็กมัธยมต้น.. ด้วยเพียงวัยยี่สิบกว่าทำให้น้อยกร้านโลก เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง กับเด็กที่จะเกิด น้อยไม่เคยน้อยใจ กลับรักและห่วงลูก

น้อยเริ่มเข้าใจชีวิต..หลังจากที่เสียใจการเข้าไปสู่วังวนของการใช้ชีวิตกลางคืน ในอาชีพพิเศษ ซึ่งทำให้น้อย..มีอายุสั้นลง!!!

ใช่.. น้อยได้รับเชื้อ HIV ลูกก็เช่นเดียวกัน  แต่ความเด็ดเดี่ยวในชีวิตที่ต้องตัดสินใจทำอะไรเองมาหลายอย่าง ดิ้นรนเพื่อชีวิตคนข้างหลังมายาวนานนับสิบปี เรื่องนี้ทำให้เธอร้องไห้กับตัวเองเพียงวันเดียว.. แต่เพื่อลูกในท้องเธอจะท้อไม่ได้ ต้องทำอะไรไว้เพื่อลูกคนเดียวของเธอ..

หลังจากคลอดแล้วไม่กี่เดือน เธอก็หวนกลับไปทำงานอาชีพพิเศษอีก แต่ไม่ได้บอกเรื่องราวความจริงแก่ใคร.. เธอทำ ทำ ทำงานไม่พักผ่อน เพื่อเก็บเงินส่งให้ลูกเก็บไว้เรียนหนังสือ จะได้ไม่ลำบาก เพื่อให้ลูกมีชีวิตเป็นปกติอยู่จนถึงที่สุด...

ผ่านไป 6 ปีที่เธอทำงานอาชีพนี้ในยานเอเซีย เธอไปมาหมดทุกที่ ทำเพื่อลูก ส่งเงินให้แม่ (ยายของลูก) เก็บไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน..และเธอก็กลับบ้านกับช่วงชีวิตสุดท้าย..ความจริงกว่าหกปีที่เธอปกปิดทุกคนในบ้านได้เปิดเผยขึ้น..เมื่อเธอและลูก..

"เจ้าแป๊ะ" ลูกชายหน้าตาหล่อเข้ม เป็นหลานชายคนโปรดของ "ลุงบุญ" ซึ่งอายุเพียงสามสิบต้นๆ เป็นบ่าวเคิ้น (คนโสด) ไม่มีเวลาไปจีบสาวที่ไหนเพราะต้องดูแลที่บ้านทุกชีวิต รวมถึง "เจ้าแป๊ะ" ที่รักเหมือนลูกตัวเอง.. เมื่อความจริงของแม่และลูกถูกเผยขึ้น "เจ้าแป๊ะ" ก็ถูกล้อเลียนจากเพื่อน ญาติพี่น้องในหมู่บ้าน ทั้งหมู่บ้านจะตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "ไอ้เอดส์"..

แต่เจ้าแป๊ะไม่เคยได้สนใจอะไรกับเพื่อนๆ ที่ล้อ เพราะถือว่าเป็นความสุขของเพื่อนได้หยอกล้อตามประสาเด็ก.. เจ้าแป๊ะถูกญาติผู้ใหญ่กีดกัน ไม่ให้เล่นกับบรรดาเด็กๆ ซึ่งเป็นสายตระกูล.. เจ้าแป๊ะก็กลับบ้านมาเล่นที่บ้านเพียงลำพัง.. ลุงบุญสงสารน้องสาวและหลานจับใจ  บ่อยครั้งที่เครียดและดื่ม จึงมีการต่อว่ากันอย่างรุนแรงเรื่องสิ่งทีเกิดขึ้น แต่ฝ่ายที่เจ็บคือ ทั้งบุญและน้อย.. น้ำตาของสองพี่น้องอาบนองหน้า เสียคร่ำครวญของทั้งสองคนกับความเป็นไปในอนาคตของตัวน้อยเองและเจ้าแป๊ะ

ไม่นานเท่าไหร่ร่างกายและสุขภาพของน้อยทรุดลง ใบหน้าเริ่มเปลี่ยน น้ำหนักลด ร่างกายซูบผอมลง ท้องเสียและมีไข้บ่อย จนถึงวาระสุดท้าย..ที่ต้องจากลูกสุดที่รัก..

เจ้าแป๊ะจึงต้องอยู่ในความดูแลของตาและยาย รวมถึงลุงบุญ ซึ่งเป็นเสมือนพ่อ และเพื่อนในเวลาเดียวกัน..ลุงบุญใจดี ไม่เคยตีเจ้าแป๊ะ..ให้ทุกอย่างแม้จะไม่มีก็หามา..เงินทองที่แม่ของเจ้าแป๊ะหามาให้ก็หมดไปกับการใช้จ่ายและดูแลรักษาน้อยจนเหลือไม่มาก ชีวิตข้างหน้าคือชะตาที่ลิขิตกันเอง..

ในวัยรุ่นผ่านมาร่วม 15 ปี กับความสุขที่แป๊ะไม่มีเหมือนกับคนอื่น ไปโรงเรียนอยู่ที่ไหนก็ถูกล้อเลียนและเกลียดชังของผู้ที่ติดเชื้อ HIV กระทั่งญาติพี่น้องของตัวเอง.. นับถอยหลังอีกไม่กี่วันเจ้าแป๊ะก็จะได้ทำบัตรประชาชนแล้ว  เจ้าแป๊ะอยากทำงานช่วยเหลือลุงบุญ  เจ้าแป๊ะเข้าไปซื้อเสื้อผ้าในอำเภอ เพื่ออจะใส่ไปถ่ายบัตรประชาชนกับลุงบุญเมื่อหลายเดือนก่อน.. เสื้อสีชมพูคอพระราชทาน มีเข็มกลับพระที่ขอมาจากครูที่สอนหนังสือ ติดที่หน้าอก  เสื้อและกางเกงถูกแขวนไว้ในตู้เพื่อรอวันที่ครบกำหนด 15 ปีเต็มของเจ้าแป๊ะ..

อาทิตย์สุดท้ายก่อนที่จะไปทำบัตรฯ เจ้าแป๊ะมีไข้ อาการครั่นเนื้อตัว..หนาวถึงในกระดูก.. แผลเริ่มพุพองตามเนื้อตัว ท้องเสีย.. โดยไม่มีสาเหตุมาก่อน  ลุงบุญพาไปอนามัยใกล้บ้าน เพราะคิดว่าคงจะไม่มีอะไรมาก เป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา  หมออนามัยจัดยาแก้ท้องเสียและยาแก้ไข้ให้เท่านั้น..แล้วก็มาพักผ่อนอยู่บ้าน..

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่เจ้าแป๊ะกำพร้าแม่..ไม่ได้สร้างความตระหนกหรือความน้อยใจใดเลย เพราะมีลุงบุญที่เปรียบเสมอพ่อ และหลายครั้งที่เจ้าแป๊ะจะเรียกลุงบุญว่าพ่อ จนเคยปาก..ด้วยสายใยที่รักและหวังดีของลุง เจ้าแป๊ะสัมผัสได้..

หลายๆ ความประทับใจของหลานชายสุดที่รัก ยังคงกรุ่นในความทรงจำของลุงบุญผู้ยังหนุ่มแน่น..นั่งเฝ้าหลานชายทุกเวลา..

บนเรือนบ้าน เป็นโถงใหญ่มีห้องเพียงสองห้อง ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดเหลืออีกเลย หลังจากที่น้อยจากไป เพราะไม่มีเงินจะมาใช้จุนเจือปากท้องของสองตายาย หลาน และตัวของลุงบุญเอง..จึงทำให้ของทุกชิ้นในบ้านอันตรธานไป.. ข้างบ้าน ซึ่งเป็นบรรดาเครือญาติ รับซื้อในราคาถูก ซึ่งอ้างว่าเป็นการช่วยกัน.. เหลือเพียงที่นอนเก่าๆ บนเรือนกว้าง ที่มีแก้วยา และวิทยุเครื่องเล็กๆ ให้หลานได้ฟัง..

กลางเดือนธันวาคม อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ บ้านไม้หลังใหญ่ปลายดอยเตี้ยๆ หน้าบ้านมีต้นลั่นทมและโป๊ยเซียนบางเป็นแนว... ดูโล่งสะอาดตา.. มีชายหนุ่มคนหนึ่ง..ยืนคร่ำครวญถึงหลานผู้เป็นที่รักที่จากไปด้วยอาการสงบ  อยู่ในถุงดำมิดชิดวางอยู่กลางลานหน้าบ้าน ที่รอใส่โลงไม้สีพื้นเรียบ....

ในบ่ายวันเดียวกัน..ที่โรงธรรมสังเวชในป่าของหมู่บ้าน มีพระหนุ่มน้อยเพียงสี่คน กับตายาย และลุงบุญเท่านั้นที่ส่งสังขารหลานชาย..ผู้เป็นที่รัก..

แม่น้อย...คงรออยู่ที่ปลายทางแล้วล่ะ.. เจ้าแป๊ะไปหาแม่นะ....

"พ่อครับ...วันนี้วันที่เท่าไหร่แล้ว... อย่าลืมปลุกผมแต่เช้าเน้อ...ผมจะไปใส่บาตร และไปทำบัตรกับพ่อเน้อ...."




หมายเลขบันทึก: 423255เขียนเมื่อ 31 มกราคม 2011 09:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 พฤษภาคม 2012 17:41 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท