กะหล่ำปลีทั้งสีเขียวและสีม่วงนำมาปรุงอาหารได้หลายประเภท นอกจากความอร่อยแล้ว ยังมีวิตามินซีสูง แถมยังช่วงป้องกันมะเร็งลำไส้ในเพศชายได้สูงถึง 66 เปอร์เซ็นต์
กะหล่ำปลียังมีใยอาหารสูง มีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหารและกระตุ้นการทำงานของลำใส้ใหญ่ การรับประทานกะหล่ำปลีดิบสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือกำหล่ำปลีสุกวันละ 2 ช้อนโต๊ะเป็นประจำ จะช่วยลดดอกาสเกิดโรคมะเร็งลำใส้และมะเร็งอื่นๆ ที่มักพบบ่อยบริเวรช่องท้องได้
นอกจากนี้กรดทาร์ทาริกในกะหล่ำยังมีส่วนช่วยยังยั้งไม่ให้แป้งและน้ำตาลจาก อาหารที่รับประทานเข้าไปเปลี่ยนไขมันส่วนเกินสะสมอยู่ตามร่างกายจึงเหมาะสำ หรับผุ้ที่กำลังลดน้ำหนักอีกด้วย
สวัสดีค่ะ...
โชคดีอีกแล้ว ที่ชอบกินผักต่างๆ รวมทั้งกระหล่ำปลีด้วย แต่ห่วงเรื่องยาฆ่าแมลงปนเปื้อน
แต่ถ้าเลือกไม่ได้ ในเมื่อแทบจะทุกครั้ง เราไม่สามารถที่จะรู้ที่มาที่ไป ของผักที่วางขายอยู่นั้น หรืออาจรู้จากข้อความโฆษณา หรือคำพูดที่ผู้ขายบอก แต่ว่า จะเชื่อได้ซักแค่ไหน ล่ะ ก็เอาเป็นว่า มีวิธีช่วยลดสารพิษตกค้างในผัก ก่อนที่เราจะนำมาบริโภค (ข้อมูลจากฝ่ายตรวจวิเคราะห์สารเคมีและบริการเครื่องมือ กองป้องกันและกำจัดศัตรูพืช กรมส่งเสริมการเกษตร ) ดังนี้
2. แช่น้ำปูนใส นาน 10 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 34-52
3.การใช้ความร้อน ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 48-50
4.แช่น้ำด่างทับทิม นาน 10 นาที (ด่างทับทิม 20-30 เกล็ด) ผสมน้ำ 4 ลิตร) ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 35-43
5. ล้างด้วยน้ำไหลจากก๊อก นาน 2 นาที ลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 25-39
6.แช่น้ำซาวข้าว นาน 10 นาที และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 29-38
7.แช่น้ำส้มสายชู หรือเกลือป่น (น้ำส้มสายชูหรือเกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 4 ลิตร) และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 29-38
8. แช่น้ำยาล้างผัก นาน 10 นาที และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ร้อยละ 22-36
เอ ที่เห็นนี่บลอ็กโคลีหรือเปล่าครับ หรือว่าแทนกันได้