เมื่อกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหายแล้ว หากปล่อยเวลาให้เนิ่นนาน ขาดช่วงไม่มีความพยายามที่ต่อสัมพันธ์กัน อาจเป็นช่องว่างให้เกิดความเข้าใจผิด คลาดเคลื่อน หากเป็นครอบครัว และในหลาย ๆ ระดับในประเทศเดียวกัน ดูง่าย ๆ เหมือนไม่ยุ่งยาก แต่เราควรยอมรับความจริงบนโลกใบนี้ว่า หากมีคอยประคับประคองความสัมพันธ์ อาจเกิดผลเสียหายแบบที่ไม่ควรจะเป็นขึ้นมากให้ ต่อกรณีที่ปรากฎเป็นข่าวทางเขมรในระยะที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ถูกจับ มีการเคลื่อนไหวของคณะบุคคล ขณะที่เรามีคณะกรรมการหรืออนุกรรมการทำงาน เราเชื่อว่า บนพื้นที่ความร่วมมือคงมีการทำงาน การจะให้มีความร่วมรู้ ความเข้าใจทั่วถึงกัน คงให้ผู้รับผิดชอบพยายามชี้แจงทำความเข้าใจกันอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ โอกาสต่อไป
นับเป็นข่าวดีที่ แขวงไชยะบุลี สปป.ลาว กับ จังหวัดน่าน ราชอาณาจักรไทย มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ล่าสุดระหว่างวันที่ ๒๖-๒๗ มกราคม ๒๕๕๔ ดร.เลียน ทีแก้ว เจ้าแขวงไชยะบุลี ประธานคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนลาว-ไทย แขวงไชยะบุลี กับ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ประธานคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยชายแดนไทย-ลาว จังหวัดน่าน โดยประธานทั้งสองพร้อมคณะได้ร่วมประชุม พร้อมลงนามบันทึกการประชุมครั้งที่ ๗ ที่ แขวงไชยะบุลี สปป.ลาว นับได้ว่าเป็นความก้าวหน้าตามโครงการเพื่อนใกล้ชิด มิตรใกล้บ้าน ที่นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านนำคณะจากจังหวัดน่าน ผู้แทนกองทัพภาคที่ ๓ ไปประชุมความร่วมมืออย่างเป็นทางการ เพื่อประโยชน์สุขสงบของพี่น้อง ๒ ประเทศ
สาระสำคัญของการประชุมความร่วมมือ อาทิ ที่ประชุมจะไม่ให้มีกำลังทหาร ตำรวจของฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ลาดตระเวณล่วงล้ำดินแดน น่านฟ้าของอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเด็ดขาด ถ้าหาดมีปัญหาเกิดขึ้นจะร่วมมือกันแก้ไขให้ลุล่วงไปด้วยดี และจะไม่ยินยอมให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีมาใช้พื้นที่ภายในเขตอธิปไตยของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีและทำลายอีกฝ่ายหนึ่ง พร้อมที่ร่วมมือกับอนุกรรมการ เพื่อตรวจตราตามจุดต่าง ๆ ตามบริเวณชายแดนให้มีความสงบเรียบร้อยด้วยดี อีกทั้งความร่วมมือในการรักษาเส้นชายแดนไทย-ลาว ความร่วมมือในการกรณีมีบุคคลของแต่ละฝ่ายถูกจับกุมคุมขัง ความร่วมมือด้านแรงงาน การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่สำคัญความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม โดยให้มีกลไลประสานงานคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการประสานงานของแต่ละฝ่ายให้กันและกันภายหลังการประชุม ๓๐ วัน
วันศุกร์ ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๔ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านนำคณะเยือนโครงการไฟฟ้าพลังความร้อน หาสา ขนาด ๑๘๗๘ เม็กกะวัตต์ โดยเป็นการลงทุนของเอกชนไทยร่วมกับรัฐบาล สปป.ลาว ที่เมืองหงสา แขวงไชยะบุลี ในการนี้มีพันเอกบุญยัง จันดาละสาน รองเจ้าแขวงไชยะบุลี และคณะ เดินทางจากแขวงไชยะบุลีมาส่งถึงโครงการ และร่วมรับฟังการบรรยาย มีการซักถาม และเสนอแนะให้โครงการรับไปดำเนินงาน ก่อนถึงโครงการรถยนต์คณะได้ไปดูหมู่บ้านที่อพยพโยกย้ายจากพื้นที่บริเวณเหมืองลิกไนท์และโรงไฟฟ้า ถือว่าในการสานสัมพันธ์ไม่ว่ากรณีใดได้ไปเรียนรู้ มีการบ้านที่จะต้องทำต่อเนื่องกันอีก เพราะงานใดที่เกี่ยวข้องกับคนและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ประกอบกับการประกอบการมีระยะถึง ๒๕ ปี ที่ เมืองหงสา แขวงไชยะบุรี การที่มีบริษัทร่วมที่เป็นคนไทยไปทำงาน ขอให้ได้มีส่วนสร้างเสริมความสัมพันธ์ดีกับทุกภาคีความร่วมมือในการสานสัมพันธ์เพื่อนคู่คิด มิตรใกล้บ้าน