444 ความสัมพันธ์ กกต.ไทยกับอินเดียและการใช้ Soft Power ของอินเดีย


ประชาธิปไตย

 

(ขอบคุณภาพจากเว็บ กกต.)     

อินเดียเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก เป็นความภูมิใจหนึ่งของรัฐบาลและคนอินเดีย เพราะมีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนกว่า 700 ล้านคน หน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลให้คนจำนวนกว่า 700 ล้านคนลงคะแนนและจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อยได้จึงต้องมีความสามารถและมีประสิทธิภาพมาก ซึ่งได้แก่ กกต.อินเดีย ซึ่งสถาปนามาครบเป็นปีที่ 60 ปีแล้ว

ดังนั้น เพื่อเฉลิมฉลองการเป็นประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก อินเดียได้ใช้  Soft Power  อำนาจขาว * http://gotoknow.org/blog/poldejw/421805   ได้อย่างแยบยลยิ่งโดยการเชิญ กกต.จาก 41 ประเทศทั่วโลกมาร่วมฉลองวาระสำคัญดังกล่าวด้วย ซึ่ง กกต.ของประเทศไทยได้รับเชิญเข้าร่วมด้วยเช่นกัน

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลีได้มีโอกาสต้อนรับท่านอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ของไทยพร้อมด้วยดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และคณะ ซึ่งได้มาเยือนอินเดียทั้งในพิธีเปิดและปิดของการเฉลิมฉลองตามคำเชิญของ กกต.อินเดีย โดยในพิธีปิดซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23-26 มกราคม 2554 ในโอกาสนี้ ท่านทูตกฤต ไกรจิตติได้เลี้ยงอาหารค่ำเป็นเกียรติแก่ประธาน กกต.ไทยและคณะที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตด้วย

ต้องบอกว่าเมื่อได้รู้จักกับท่านอภิชาตแล้ว ก็ประทับใจในความสุภาพ เป็นกันเองและไม่ถือตัวของประธาน กกต.ท่านนี้ และที่น่าทึ่งก็คือชีวิตส่วนตัวของท่านนั้นน่าตื่นเต้นโลดโผนมากเพราะท่านชอบขับรถขับเครื่องบินเล็ก โดยเครื่องบินเล็กนั้นท่านยังบินอยู่เสมอ จากการสนทนาทำให้ทราบว่าท่านเป็นคนจริงจังกับงานจนประสบความเจริญก้าวหน้าในอาชีพและที่สำคัญคือท่านมีความสุขกับการทำงานเพื่อประเทศชาติ

การเดินทางของประธาน กกต.ไทยครั้งนี้เป็นครั้งที่สองคือเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วมาร่วมพิธีเปิดและครั้งนี้มาร่วมพิธีปิดการเฉลิมฉลองการสถาปนาคณะกรรมการการเลือกตั้ง แห่งสาธารณรัฐอินเดีย ครบรอบ 60 ปี ซึ่งกกต.อินเดียได้ใช้โอกาสนี้จัดการสัมมนานานาชาติเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ดีที่สุด (BEST ELECTORAL PRACTICES) ณ กรุงเดลีด้วย  

การสัมมนามีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารงานการจัดการเลือกตั้งของแต่ละประเทศ ซึ่งถือว่าได้ประโยชน์มากและที่ได้เต็มๆ คืออินเดีย นับเป็นการสร้างความชอบธรรมและการยอมรับในฐานะที่เป็นประเทศประชาธิปไตยที่ดีและใหญ่ที่สุดในโลก ที่โดดเด่นคือการจัดการเลือกตั้งโดยใช้อุปกรณ์อิเลคโทรนิคลงคะแนนที่ประดิษฐ์เองสำหรับคนกว่า 700 ล้านคนจนเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก

เป็นตัวอย่างของการใช้ Soft Power  หรืออำนาจขาวที่ผมเคยเขียนเอาไว้ก่อนหน้านี้ ถ้าสามารถสร้างความนิยมชมชอบให้เกิดขึ้นในใจแล้ว การจะปฏิสัมพันธ์กันก็เป็นธรรมชาติและสมปรารถนา

ในส่วนของประเทศไทย ต้องถือว่า กกต.ไทยนำโดยท่านอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการเยือนอินเดียตามคำเชิญของ กกต.อินเดียและได้สร้างความรู้จักคุ้นเคยกับ กกต.อินเดียคนปัจจุบัน นาย S.Y. Quraishi รวมทั้งกกต.อินเดียคนก่อน นาย Navin B. Chawla ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรักและชื่นชมประเทศไทยอย่างมากจนกล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง กกต.ทั้งสองประเทศแนบแน่นมาก นอกจากนั้นในการสัมมนานาชาติครั้งนี้ ประธาน กกต.ไทยยังได้รับเกียรติให้เป็นประธานในที่ประชุมช่วงที่ 3 ร่วมกับ กกต.อินเดีย เพื่อดำเนินการในการนำเสนอข้อมูลและแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการเลือกตั้งของ กกต. 6 ประเทศ และ 1 องค์กร ได้แก่ นามิเบีย บอตสวานา บังกลาเทศ กูยานา เคนยา และ มาเลเซีย และองค์กร IFES รวมทั้งยังได้รับเกียรติให้ปาฐกถาพิเศษ ซึ่งประธาน กกต.ไทยได้ใช้โอกาสนี้กล่าวถึงการส่งเสริมประชาธิปไตยของประเทศไทยที่มุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนรวมทั้งประชาชนเข้ามา มีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งประธาน กกต. ไทยได้นำเสนอผลงานการดำเนินงานของ กกต.ที่ผ่านมาภายใต้โครงการส่งเสริมประชาธิปไตยในสถานศึกษา ในการจัดทำคู่มือประกอบการเรียนการสอนประชาธิปไตยตามหลักสูตรขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 (4 ช่วงชั้น) สำหรับครู-อาจารย์ เพื่อใช้เป็นคู่มือสำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และปลูกฝังพื้นฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยให้นักเรียนในแต่ละช่วงชั้น (*ผมแวะไปดูเว็บของ กกต.แล้ว ถือว่าทำได้ดีทีเดียว)โครงการลูกเสืออาสา กกต. โครงการฝึกอบรมนักศึกษาให้เป็นกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยและมีเจตคติที่ดีต่อการใช้หลักการประชาธิปไตยในการดำเนินชีวิต ตลอดจน เห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมในทางการเมืองและการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นที่ชื่นชมของผู้ร่วมสัมมนาเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงาน กกต.ที่ดีเช่นนี้ ทำให้มีการหารือกับ กกต.อินเดียถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง กกต.ไทย และกกต.อินเดีย โดยจะร่วมมือแลกเปลี่ยนบุคลากร และประสบการณ์การดำเนินงานเกี่ยวกับการส่งเสริมประชาธิปไตยระหว่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้การพัฒนาส่งเสริมประชาธิปไตย ของทั้ง 2 ประเทศมีความก้าวหน้า ทันสมัย ทั้งด้านเทคโนโลยีและความสัมพันธ์อันดีต่อไป(*ขอบคุณข้อมูลจากเว็บ กกต.)

ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยากเล่าสู่กันฟัง ให้ได้รับทราบถึงการทำงานของคนไทยหน่วยงานไทย (กกต.)ที่ไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศและเชื่อมความสัมพันธ์กับอินเดียได้อย่างน่าชื่นชม

หมายเลขบันทึก: 423097เขียนเมื่อ 29 มกราคม 2011 11:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:35 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณดร.จันทวรรณและดร.ภิญโญ ครับ สำหรับดอกไม้ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท