ในช่วงนี้ประเทศไทยก็กลับมามีภาวะที่เสี่ยงมากอีกครั้งหนึ่ง เพราะมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร และปัญหาชายแดนภาคใต้รุนแรงอีก
ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญก็ผ่านไปได้ด้วยดี
วันนี้ผมจึงขอให้ผู้อ่านมองและเปรียบเทียบผู้นำของโลก 3 คนที่จะต้องมีเส้นทางเดินที่น่าสนใจในอนาคตอันใกล้นี้
วันนี้จะเรียนรู้วิธีศึกษาอนาคตผู้นำซึ่งเรียกว่า เป็นการศึกษารูปแบบ Role Model ของผู้นำแต่ละท่าน เพื่ออาจจะนำมาทบทวนบทบาทของตัวผู้อ่าน
เริ่มจาก หู จินเทา ก่อน เส้นทางเดินของประธานาธิบดีจีนท่านนี้ชัดเจนแน่นอน คือปี 2013 จะต้องออกจากตำแหน่งเพราะพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนกำหนดตัวผู้นำคนใหม่ไว้แล้ว คือ ซี่ จิ่นปิง (Xi Jinping)
ยุคคุณ Hu เป็นยุคจีนเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก สร้างภาพลักษณ์ของจีนให้เป็นประเทศที่นำโลกต่อไป ท่านก็ทำได้ดี
การไปเยี่ยมอเมริกาอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุด ได้แสดงบทบาทผู้นำของโลกได้ดี เพราะตอบคำถามเรื่องหนักๆได้อย่างฉลาดเฉลียว เช่น
แรงกดดันทาง เศรษฐกิจ บทเรียนที่ผู้นำจีนได้มาจากการที่ในอดีตญี่ปุ่นถูกสหรัฐกดดันเรื่องเพิ่มค่าเงินเยน จนกระทั่งเศรษฐกิจญี่ปุ่นต้องเจอกับภาวะถดถอยมาเป็นระยะเวลานาน ถึงวันนี้การปรับค่าเงินหยวนก็ค่อยเป็นค่อยไป
ภายใต้การนำของ Hu ก็สามารถต่อรองกับมหาอำนาจอย่างอเมริกาได้ และแสดงความเป็นผู้นำชาติเอเชียในเวทีโลกได้อย่างสมเกียรติ
ปี 2013 ก็จะเป็นปีที่ท่านได้พักผ่อนและให้คนรุ่นใหม่มีผู้นำคนต่อไป นำจีนไปสู่ความแข็งแกร่งที่ดีขึ้น
ส่วน Obama ผมเคยเขียนเมื่อ 3 – 4 เดือนว่า ถ้าเหตุการณ์เป็นแบบช่วงนั้นในอนาคตอาจเป็นได้แค่สมัยเดียว เพราะ
หลังจากการเลือกตั้งกลางเทอมพรรค Obama พ่ายแพ้จะต้องเริ่มมองและเข้าใจธุรกิจมากขึ้น ไม่ใช่ซ้ายจัด เหมือนในอดีต เช่น
ดังนั้น ปี 2012 จึงเป็นปีที่พิสูจน์ว่า Obama จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ครั้งที่ 2 หรือไม่?
ขณะนี้ Obama ฉลาดพอที่จะปรับนโยบาย จากซ้ายจัดมาอยู่กลางๆ และหวังว่า เศรษฐกิจจะช่วยธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง ให้ขยายตัวดีขึ้น ส่งออกมากขึ้นและการจ้างงานดีขึ้น
สร้างศักยภาพการแข่งขันของการส่งออกของสินค้าอเมริกันมากขึ้นในตลาดโลก
มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งตัวเลขล่าสุดก็กระเตื้องขึ้น มีการว่างงานลดลงจาก 9.8% มาเป็น 9.4%
ถ้าเศรษฐกิจอเมริกาฟื้น ปี 2012 ของ Obama ก็อาจจะมีโอกาสได้รับเลือกเป็นสมัยที่ 2 ซึ่งผิดกับ Hu ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องจบอาชีพการเป็นผู้นำในปี 2013
มาถึงคุณอภิสิทธิ์ของเราบ้าง
ส่วนการยุบสภาและเลือกตั้งก็คงจะต้องดูปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อการเป็นนายกฯของคุณอภิสิทธิ์อีกครั้ง ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการวิเคราะห์ของผมซึ่งอาจจะสรุปเป็นตารางดังต่อไปนี้
|
ปีสำคัญ |
โอกาสเป็นผู้นำต่อ |
หู จินเทา |
2013 |
0 % |
Obama |
2012 |
ประมาณ 50 % |
อภิสิทธิ์ |
2011 |
เกิน 50 % |
ผู้อ่านก็ต้องติดตามดูต่อไป
ผมขอเล่าถึงกิจกรรมต่างๆ ที่ผมได้ทำไป คือเป็นงานของเทพศิรินทร์ 2 งาน
จีระ หงส์ลดารมภ์
เรียน ท่านอาจารย์ ผมน้องใหม่ เพิ่งนำเสนอแนวคิด เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แต่อย่างน้อยมีแนวร่วม มีดาวดวงใหม่ จุดพลังไว้บ้าง ความสว่างในด้านต่าง ๆ อาจจะเกิด ขึ้น เมื่อเราพยายามเดินหน้ากันจนมิลืมหู มิลืมตา เรากลับทบทวนใหม่ แล้วถอยหลังก็น่าจะมีแนวทาง ผมเกรงใจท่านมาก เพราะท่านมีแนวคิด อะไรไว้มากมาย หากมองเห็นความคิดของผมสักน้อยนิดก็ยังดี มีข้อคิดฝากบ้างเป็นพระคุณยิ่ง
ขอขอบคุณคุณประทีป วัฒนสิทธิ์ที่ส่งข้อมูลมาครับ
ถึงผมจะเป็นอาจารย์แต่ผมคิดว่า ความคิดของแต่ละคนไม่จำเป็นว่าจะต้องถูกเสมอไป
แนวคิดบทความของผมต้องการมองไปข้างหน้า เฉพาะการเป็นผู้นำต่อ ไม่ได้มองว่าเป็นผู้นำแล้วจะสำเร็จหรือไม่?
แนวคิดของคุณที่มองย้อนหลังเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะการที่จะมาทบทวนบทเรียนแต่ละคน เมื่อได้รับได้มองว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่
เรียน ท่านอาจารย์ที่เคารพยี่ง ขอบพระคุณในมุมมองในมุมความคิดของท่านมาก ผมมีกำลังใจ และกล้าที่จะตัดสินใจนำเสนอมากขึ้น ความคิดในข้อคิดเพื่อสังคม เรื่อง "ความฝันอันสูงสุด" แม้มีโอกาสเปิดให้ดูเป็นตัวอย่างสักแห่ง ก็ถือว่าเป็นการนำร่องที่ยิ่งใหญ่
เมื่อระหว่าง 5 ก.พ.-12 ก.พ. นี้ ผมได้เยี่ยมชม โรงเรียนร่มเกล้า ที่แม่ฮ่องสอน และโรงเรียนเมืองกื้ด แม่แตง เชียงใหม่ เขาจัดการศึกษาสอดรับกับสภาพท้องถิ่นได้ดีเยี่ยม ที่สำคัญ ผมนึกถึงแนวคิดของผม เห็นโอกาสที่เป็นไปได้มาบ้าง ตอนนั้นความรู้สึกว่าความนึกคิดอะไรต่าง ๆ มันแบ่งบาน ครับท่านอาจารย์ ที่เคารพ ผมจำนำแนวคิดจากท่าน และติดตามข้อมูลของท่าน ด้วยความเคารพยิ่งครับ