ไว้อาลัย ศ.นพ. ธาดา ยิบอินซอย-แพทย์ ครู นักปราชญ์


ไม่รู้จะเขียนอย่างไร ให้ตรงกับใจ ที่รัก เคารพ เทิดทูนอาจารย์อย่างสุดซึ้ง

วันนี้ ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ ศ.นพ.ธาดา ยิบอินซอย  เป็นการแสดงความเคารพและไว้อาลัยอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้าย   จากนี้ไป ชื่อของอาจารย์ ความดีของอาจารย์ และความทรงจำดีๆ ที่ได้รับความเมตตาจากอาจารย์จะยังคงอยู่ตลอดไป

ตั้งแต่ทราบว่าอาจารย์ป่วยเมื่อหลายเดือนก่อน จนกระทั่งท่านจากโลกนี้ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2554   ก็ยังไม่ได้มีคำอาลัยในรูปแบบของข้อเขียนใดๆ จากลูกศิษย์คนนี้!!!

มีหลายเหตุปัจจัยที่ไม่ได้เขียนถึงอาจารย์   เหตุหลักก็คือ ความกลัว

กลัวว่าจะไม่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวความดีของอาจารย์ได้อย่างที่ควรจะเป็น

ไม่รู้จะเขียนอย่างไร ให้ตรงกับใจ  ที่รัก  เคารพ เทิดทูนอาจารย์อย่างสุดซึ้ง

กับความทรงจำที่มีกับอาจารย์........  

     อาจารย์แพทย์ ผู้มีบุคลิกที่แตกต่าง......   

ได้มีโอกาสพบและเรียนกับอาจารย์เมื่อขึ้นวอร์ดอายุรศาสตร์ตอนเป็นนักศึกษาแพทย์ปี 4

ประทับใจในบุคลิกภาพของอาจารย์มากๆ บรรยายไม่ถูก ลักษณะการพูดแบบกวนๆ  เหมือนนักเลง  แต่มีนัยให้คิดทุกคำ ทุกครั้ง

อาจารย์มีวิธีการสอนที่ทำให้เรารู้สึกสนุก เพราะเป็นการเรียนรู้จากการตั้งคำถาม

   ผู้บริหาร ที่บอกว่า บริหารไม่เป็น แต่มองและคิดอย่างเป็นระบบ......  

และเมื่อตนเองจบมาปฏิบัติงานเป็นอาจารย์  ขณะนั้น อาจารย์ธาดาเป็นคณบดี (จากการถูกขอร้องให้เป็น)   เราเป็นเพียงอาจารย์ใหม่ตัวเล็กๆ  ไม่ได้ใกล้ชิด  ทราบเพียงแต่ว่า  อาจารย์ไม่อยากเป็นผู้บริหาร  จะขอเป็นแค่ 2 ปีเท่านั้น (อาจารย์มักถ่อมตัวว่าบริหารไม่เป็น)  ครั้งนั้นเป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ยืนยันความถ่อมตน และเด็ดเดี่ยวในการคิดและตัดสินใจของอาจารย์  

ในระหว่างนั้นได้เข้าไปร่วมงานกับหน่วยทะเบียนมะเร็ง  ทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้ความคิดที่เป็นเชิงระบบของอาจารย์  โดยอาจารย์ได้วางแนวคิดเชิงโครงสร้างให้กับหน่วยมะเร็ง ให้มีการทำงานด้านต่างๆ ที่ครอบคลุม ทั้ง ทะเบียนข้อมูลมะเร็ง  มาตรฐานการรักษา  การป้องกัน ฯลฯ  การมองเชิงระบบ รอบด้าน เป็นคุณสมบัติของผู้นำที่ดียิ่ง ซึ่งตรงกันข้ามกับที่อาจารย์มักออกตัวว่า บริหารไม่เป็น

อาจารย์เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดอีกหลายอย่าง รวมทั้งการก่อตั้งภาควิชาที่เน้นวิจัย คือ ภาควิชาชีวเวชศาสตร์ ที่ตนเองได้มีโอกาสมารับตำแหน่งหัวหน้าภาค   และเมื่อได้รับตำแหน่งเมื่อต้นปี 53 ก็ได้ไปกราบขอคำแนะนำจากอาจารย์ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2553  อาจารย์บอกว่า สิ่งที่อยากเห็น คือให้ภาควิชาชีวเวชศาสตร์ เป็น research center  มีนักวิจัยที่ survive ได้อย่างสง่างาม  สร้างงานวิจัยที่เข้มแข็ง ที่คนอยากมาทำวิจัย   หาว่าอะไรที่เขาไม่ทำ หรือ อะไรที่สำคัญที่เราควรทำ  มี independent income (grant) และ มี network  (พยายามทำตามแนวทางนี้อยู่ค่ะ แต่ยังไม่ค่อยคืบเลย)

 แพทย์ ผู้เป็น พระ 

อาจารย์เป็นแบบอย่างของแพทย์ที่เป็นเสมือน พระ ของผู้ป่วยและญาติ   เป็นแพทย์ในอุดมคติที่คิดถึงคนไข้อยู่เสมอ  เรื่องราวด้านนี้ มีหลายท่านเขียนไว้ในหนังสือไว้อาลัยที่แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ   สิ่งที่ตนเองเห็นคือ ช่วงที่อาจารย์ป่วยในหลายเดือนระหว่างที่รักษา   อาจารย์ไม่แข็งแรงพอที่จะเดินเอง ก็ยังเห็นอาจารย์นั่งรถเข็น ให้คนช่วยเข็นไปออกตรวจคนไข้

ในช่วงปีหลังๆ นี้ เมื่อมีเหตุการณ์ใม่สงบในภาคใต้  อาจารย์ธาดาในวัยเจ็ดสิบกว่า ที่ควรจะพักหรือลดงาน  อาจารย์ยังเพิ่มความรักความเมตตาสู่ชุมชนเพื่อสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และทราบว่าอาจารย์เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างต่อเนื่อง 

นักคิด นักปราชญ์.....

สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดสำหรับตนเอง  คือความเป็นนักคิด (ที่แตกต่าง) ของอาจารย์  วิพากษ์อย่างตรงไปตรงมา แต่มักให้ข้อเสนอแนะที่เป็นทางเลือก  ดังเช่นที่อาจารย์ให้ข้อคิดสำคัญเมื่อครั้งคณะแพทย์ศาสตร์ครบรอบ 36 ปี ดังในบันทึกนี้ (36 ปี แล้วไปไงต่อ)

วิธีการเขียนและการบรรยายของอาจารย์  เป็นอีกสิ่งที่ตนเองประทับใจ  อาจารย์เขียนและพูด สั้น กระชับ แต่เข้าใจได้เป็นอย่างดี  (ตัวอย่างเช่น เรื่อง R2R ในบันทึกนี้ "แนวคิด R2R ของ ศ.นพ.ธาดา ยิบอินซอย")

ลายมือของอาจารย์เป็นอีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์  คือหากอ่านออกทันที ก็ไม่ใช่ของอาจารย์ธาดา!!

ทั้งหมด เป็นเพียงเศษเสี้ยวความทรงจำที่มีกับอาจารย์  ยังมีอีกมากที่บอกเล่าได้ไม่หมด  และยังมีคุณงามความดีอีกมากมายที่ได้รับทราบจากคนอื่นๆ ที่ได้ร่วมงานกับอาจารย์ ผ่านการบอกเล่า และ หนังสือที่ระลึกในงานศพ   

*ขอให้ดวงวิญญาณของอาจารย์ธาดาจงสู่สุขคติในสัมปรายภพด้วยเทอญ*

หมายเลขบันทึก: 420782เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2011 22:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอร่วมแสดงความเสียใจด้วยค่ะ

มากราบคารวะ ดวงวิญญาณ ของครูแพทย์ ที่มีจิตใจแน่วแน่ ตั้งใจสอนให้ นักศึกษา เป็น ฅน จริงๆ ครับ

คนดีความดีย่อมคุ้มครอง

ครูผู้สอนที่สอนด้วยใจเมตตา

สอนหลักธรรมกับวิทยา

ย่อมได้บุญทุกคำสอน............นะครับ

  • ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
  • ท่านเป็นบุคคลที่ทรงคุณค่ามาก
  • คุณหมอปารมีหายไปนานเลยครับ

ขอไว้อาลัยคนดีของสังคมท่านนี้ด้วยค่ะ ขอให้ดวงวิญญาณของ ศ.นพ. ธาดา ยิบอินซอย ไปสู่สุขคติค่ะ และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวด้วยค่ะ

อ่านแล้วรู้สึก คล้าย ๆ กันค่ะ

คือ กลัวว่าตัวเอง จะเขียนถึงอาจารย์ให้ละเอียดได้อย่างไร

ถึงความรัก ความเคารพที่มีต่อ อาจารย์ธาดา ยิบอินซอย

 

ต้องเขียนค่ะ ขอเวลาหน่อย

ตอนนี้ขอโน้ตไว้ว่า order note มักมีคำ ๆ หนึ่งที่จำได้ติดตาติดหัวใจของเรา ของอาจารย์ หลังจากเขียนอื่น ๆ อย่างละเอียดแล้ว อาจารย์จะเขียนคำว่า GOK 

ซึ่งรุ่นพี่ที่อยู่ในสาย round ward ด้วยกันบอกว่า มาจาก God only knows

 

อาจารย์มีความเมตตาต่อคนไข้เหมือนเป็นพระจริง ๆ ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท