เมื่อวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2553 ณ เรือนพฤกษารีสอร์ท ได้มีการประชุมอย่างคร่ำเคร่งเรื่องการวางแผนงานของคณะอนุกรรมการด้านสิทธิและสถานะบุคคลของผู้ไร้สัญชาติ ไทยพลัดถิ่น ผู้อพยพ และชนพื้นเมือง ในการดูแลของ คุณหมอนิรันดร์ พิทักษ์วัชระ เพื่อให้การทำงานต่อไปของคณะอนุกรรมการชุดนี้มีประสิทธิภาพมากยิ่งๆ ขึ้นไป
จากงาน 35 ชิ้นที่ได้มีการวางแผนกันออกมาว่าน่าจะมีประเด็นไหนที่เกี่ยวข้องกับคณะอนุกรรมการฯ บ้าง
ข้าพเจ้ารับผิดชอบใน 3 จาก 35 ชิ้นนั้น คือ..
1. การเผยแพร่ผลการศึกษาการพัฒนาสิทธิในสัญชาติของรัฐต่างประเทศ
-- อันได้แก่ ประเด็นที่เกี่ยวกับความพยายามหาช่องทางในการพิสูจน์สัญชาติให้แก่คนไร้สัญชาติที่มีจุดเกาะเกี่ยวกับประเทศต้นทางที่ไม่สามารถเข้าสู่กระบวนพิสูจน์สัญชาติตาม MOU ได้
2. การประชุมหารือการพัฒนาสิทธิในการประกอบอาชีพของคนที่มีปัญหาสถานะบุคคล
-- อันหมายรวมถึง (1) สิทธิในการประกอบอาชีพของคนที่มีวุฒิการศึกษา เช่น นักเรียนไร้สัญชาติที่จบบัญชี หรือ วิศวกรรมศาสตร์ แต่กลับต้องไปทำงานกรรมกรได้แค่ 27 อาชีพตามที่รัฐบาลเคยกำหนดไว้แต่เดิม และ (2) สิทธิในการประกอบอาชีพของคนที่ไม่มีวุฒิการศึกษา เช่น คนที่ทำงานตามชายแดน เช้ามาเย็นกลับ และ คนที่ทำงานรับจ้างรายวันไม่มีนายจ้างที่แน่นอน
-- และความคาดหวังอีกอย่างหากสามารถพัฒนาสิทธิในการทำงานได้แล้ว อาจจะพิจารณาไปถึงการพัฒนาสิทธิในการประกอบธุรกิจของคนที่มีปัญหาสถานะบุคคลอีกด้วย เนื่องจากสถานการณ์ที่พบมากในปัจจุบัน คือ เราพบคนต่างด้าวที่มีกิจการเล็กๆ เป็นของตัวเองเป็นจำนวนมากขึ้น เช่น เปิดร้านขายของชำ เป็นต้น
3. การประชุมหารือการพัฒนาสิทธิในทะเบียนราษฎร ประเภท ท.ร.13 ของคนต่างด้าวที่มีปัญหาสถานะบุคคล
-- อันหมายถึง การพัฒนาสิทธิให้แก่คนที่ควรจะมีชื่อในทะเบียนราษฎร ท.ร.13 แต่ยังไม่มี เช่น เราพบคนลาวอพยพจำนวนมากที่มีชื่อในทะเบียนประวัติแต่ยังไม่มี ท.ร.13 หรือ คนที่ถือบัตรเลข 0 มีชื่อในทะเบียนประวัติ ท.ร.38 ก แต่ยังไม่สามารถพัฒนาสิทธิไปสู่ ท.ร.13 ได้ หรือ แรงงานต่างด้าวที่มีชื่อในทะเบียนประวัติ ท.ร.38/1 และ ขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้อง ซึ่งหมายความถึงการได้รับสิทธิอาศัยชั่วคราว แต่ก็ยังไม่สามารถมีสิทธิใน ท.ร.13 และสุดท้าย เราพบว่าแรงงานต่างด้าวที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้วก็ยังไม่มีสิทธิใน ท.ร.13 ในทางปฏิบัติ
ผู้ชายในห้องแต่ละคนตาปรือ บ้างคนตก บ้างเกลี่ยริมฝีปาก บ้างตัวเอียง มิใช่ปิดตา หลับ หากกำลังซีเครียด ต่างหาก อิ อิ
แต่ดูเหมือนพี่เพ้งจะคิดหนักสุดนะ :-)
เพ้งมีบล็อกสักอันสำหรับงานที่ทำให้กรรมการสิทธิฯ ก็ดีนะคะ
คงได้คุยกันในวันที่มาหาพี่