"ผีเรียกคน"ช่วยเอื้อ อำนวย
เราต่างก็เอออวย รับรู้
และแล้วด่วนดวงซวย หลงจ่าย ผิดนา
เกินกว่าจะกอบกู้ บทนี้ค่าแพง
เป็นพระนี่เรื่องการเดินทางก็ถือว่าลำบากพอสมควรอยู่ วันนี้อาตมา มารอขึ้นรถที่ บขส.ร้อยเอ็ด จะไปเสลภูมิ ก็รอรถในช่วงเวลา ๕ โมงเย็น ก็มีรถกรุงเทพฯอุบลมาจอดคันนึง ก็เลยขึ้นไปดูปรากฏว่าไม่มีที่นั่งก็เลยลงไม่อยากไปแย่งที่นั่งฆราวาส เพราะเขาเองก็เสียเงินค่ารถ การจะขึ้นไปก็คงต้องมีใครคนใดคนนึงสละที่นั่งให้ ก็เกรงใจเขา ก็จำเป็นต้องลง ก็พอดีมีคนนึงที่เขาทำหน้าที"ผีเรียกคน" อยู่บริเวณนั้นเขามาถามว่าพระอาจารย์จะไปไหน ก็เลยบอกว่าไปเสลภูมิ เขาก็เลยบอกว่าไปรถผมมั้ย จะไปส่ง ทีแรกก็ยังไม่ไป แต่ก็มาคิดถึงโยมที่บ้านว่าจะต้องรีบกลับไปเจริญพระพุทธมนต์ให้เขา เพราะวันนี้มีการเผาศพ แล้วไม่ได้อยู่ด้วย ตอนเย็นก็เลยจะไปให้เขา เพราะคิดว่า พระก็อาศัยชาวบ้านเขาอยู่ ก็ต้องอยู่กับชาวบ้าน เป็นที่พึ่งให้เขาในยามที่เขามีความทุกข์ ก็เลยตกลงกับโยมคนที่บอกว่าจะมาส่ง ทีแรกเขาบอกจะเอาค่าโดยสาร๓๐๐บาท ก็ตกลงมาด้วย นั่งรถมาด้วยกัน ก็เลยถามว่า คนที่เขาช่วยแนะนำขึ้นรถคันนั้นคันนี้เวลาที่มีรถเข้ามาในสถานี เขาได้อะไรมั้ย ที่ทำแบบนั้น เขามีเงินเดือนมั้ย คนขับที่ขับรถมาส่งนั้นเขาก็เลยเล่าให้ฟังว่า พวกนั้น เขาเรียกว่า "ผีเรียกคน" เขาไม่มีเงินเดือน แต่ก็ได้เบี๊ยเลี้ยง ถ้าเอาคนขึ้นรถได้มาก รถคันนั้นก็ต้องจ่ายให้เขาเป็นน้ำใจ เขาก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร มันเป็นธรรมเนียม เขารู้กันเอง อาตมาเองก็เพิ่งจะได้ยินคำนี้ "ผีเรียกคน" แต่ก่อนก็มีแต่สงสัย ว่าพวกนี้เขามีเงินเดือนมั้ย พอมาถึงเสลภูมิ ก็จ่ายปัจจัยค่าโดยสารให้โยมคนที่ขับรถมาส่ง เขาจะเอาค่าโดยสาร ๔๙๐ บาท อาตมาก็ขอลด ๔๕๐ ได้มั้ย ก็เปิดกระเป๋าจ่ายปัจจัย ในรถมันก็มืด เขาก็ไม่เปิดไฟให้ ก็จ่ายให้ตามนั้น พอมาถึงวัดดูกระเป๋า แต่ก่อนก็จำได้ว่าในกระเป๋ามีเงินแบ๊งค์ ๕๐๐ อยู่ ๑ ใบ พอมาดูปรากฏว่าไม่มี ก็เลยคิดได้ สงสัยตอนจ่ายปัจจัยให้โยมคนนั้น คงจะนึกว่าแบ๊งค์ ๕๐๐ เป็น ๑๐๐ เพราะมันมืดค่ำดูไม่ชัด ก็เลยสรุปเองว่า ความรู้เรื่อง "ผีเรียกคนนี้"มีราคาค่าเรียนตั้งเกือบพันบาท.........จะว่าคุ้มก็คุ้ม ผีเรียกคน....
ไม่มีความเห็น