จากการที่ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมวิชาการครบรอบ 10 ปี ของ สมศ. วันที่ 20-21 ธันวาคม 2553 ณ.ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ฯ ที่ผ่านมานั้นพอจะได้ข้อสรุปข้อมูลระดับอาชีวศึกษาได้ดังนี้
สำหรับสถานศึกษา
1. ต้องเตรียมทำ 2 มาตรฐานรองรับการประเมินภายนอก คือ มาตรฐานภายใน และมาตรฐานภายนอก
2. ต้องศึกษาเกณฑ์การประเมินรอบสามให้ละเอียด
3. จัดเตรียม SAR และร่องรอยของผลการประเมินภายในประจำปีการศึกษาให้ครบถ้วนตามเกณฑ์ที่ต้องการ
4. ผู้บริหารควรสังเกตการประเมินของผู้ประเมินอย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจทานข้อมูลที่บุคลากรสถานศึกษาตอบกับผู้ประเมิน มิฉะนั้นหลังจากผู้ประเมินออกไปแล้ว บุคลากรของท่านเองจะใส่ความผู้ประเมินแบบไร้หลักฐาน ทำให้ผู้บริหารตำหนิผู้ประเมินทั้ง ๆ ที่ไม่เป็นความจริง (กรณีเป็นความจริง ก็ขอยกเว้นครับ) คือในเมื่อผู้ประเมินมาอย่างกัลยาณมิตร สถานศึกษาก็ควรต้อนรับแบบกัลยาณมิตรด้วย (ข้อนี้ผมเคยเข้าตรวจสถานศึกษาแห่งหนึ่ง เค้าทิ้งกรรมการอยู่ในห้องเอกสาร พร้อมผู้ประสานงาน 1 คน อยากได้อะไรให้ถามผู้ประสานงาน นอกนั้นอ้างว่าติดสอน ติดงาน)
สำหรับผู้ประเมิน
1. ต้องศึกษาเกณฑ์การประเมินให้ละเอียด และไม่ควรใช้ความคิดเห็นที่ไม่มีอยู่ในเกณฑ์ มาตัดสิน(อัตตา)
2. ทำการบ้านมาให้รอบคอบ
3. ไม่ควรประเมินแบบผ่าน ๆ เพราะกลัวสถานศึกษาจะไม่คบหาสมาคมด้วย หลังการประเมิน ควรชี้แจงวัตถุประสงค์การประเมินให้ดี เราปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเราไม่ได้มาจับผิด สถานศึกษายังไงก็คิดว่าผู้ประเมินมาจับผิด เลี่ยงบาลีไม่ได้แน่นอน
สำหรับ สมศ.
1. มาตรฐานไม่ใช่กฏหมาย ผู้ประเมินและสถานศึกษาก็ไม่ใช่ทนายความที่หาช่องว่างของกฏหมายมาตีความแก้ต่างกัน
2. ควรจัดอบรมผู้ประเมินและสถานศึกษาเพื่อวิเคราะห์เกณฑ์ ตัวบ่งชี้ต่าง ๆ ให้ชัดเจน ไม่ต้องมาเสียเวลาตีความ เนื่องจากผู้ประเมินมีประสบการณ์ไม่เหมือนกัน การเข้าตรวจของผู้ประเมินจึงมีมาตรฐานไม่เหมือนกัน
3. การทำงานของ สมศ.ไม่ควรเหมือนเก็บข้อมูลเป็นงานวิจัยให้รัฐบาล ควรผลักดันมาตรฐานการศึกษาให้ได้ตามมาตรฐานให้ถึงที่สุด
ก็หวังไว้ว่าการศึกษาของไทยจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ก็เพื่ออนาคตของชาติเท่านั้นครับ.............................