กศน.ตำบลนางาม
นาย เกียรติศักดิ์ อ๊อด หล้ามาชน

ไอ้บอดหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต


ไอ้บอดหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต

ไอ้บอดหลวงปู่ผาง  จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต ( วัดดูน )

                                

    

                                              ไอ้บอดสมัยยังมีชีวิตอยู่

 

ไอ้บอดหลวงปู่ผาง  จิตตคุตโต 

ไอ้บอด สิ้นชีวิตลงเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๗

ทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกสิ่งที่แน่นอนคือ ต้องตาย มันเป็นสัจธรรมประจำโลกเราพระพุทธองค์จึงสั่งสอนให้เราสาธุชน ไม่พึ่งประมาทในวัย แม้พระดำรัสก่อนที่พระพุทธองค์จะปรินิพพานยังตรัสกับสาวกทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ขอท่านทั้งหลาย จงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ไอ้บอด ก็เป็นสัตว์โลกที่อยู่ในสัจธรรมข้อนี้ เพราะมันเกิดมาด้วยผลของกรรมต่อสู้กับกรรมของมัน ในที่สุดสังขารของมันก็เสื่อมไป วิญญาณของมันก็ไปสู่ปรโลกแต่การเกิดมาของมันต่างจากสามัญชนอย่างเรา  ชีวิตมันเกิดมาเป็นสหชาติร่วมกับหลวงปู่ผาง พระอริยะสงฆ์ผู้ทรงไว้ด้วยเมตตาธรรม  เหมือนของเจ็ดอย่างที่เกิดร่วมสหชาติกับเจ้าชายสิทธัตถะมีม้ากัณฑกะเป็นต้น อะไรๆก็แล้วแต่ เมื่อเกิดขึ้นมากับคนที่มีความพิเศษมันต้องมีจุดเด่น และจุดที่คนทั้งหลายจะต้องให้ความสนใจ กลายเป็นความสำคัญไปพร้อมกับเจ้าของมัน ต่างก็ได้รับการกล่าวขวัญในแง่มุมต่างๆ ที่เป็นจุดเด่น เป็นคุณงามความดีของมัน ไอ้บอดจระเข้ของวัดดูนหลวงปู่ผาง ก็ไม่ต่างกับสิ่งเหล่านั้น มันเกิดมาวันที่เท่าไร ไม่มีใครทราบได้ ไอ้บอดเป็นจระเข้น้ำจืดชาวบ้านจากฟากภู (หมายถึงเขตอำเภอแก้งคร้อฟากเขาด้านทิศตะวันตก จับได้ขณะนั้นตัวมันเล็กๆ อยู่ พวกเขามีความเลื่อมใสหลวงปู่จึงนำมาถวายไว้ในสระวัดดูน หลวงปู่เป็นผู้ดูแล บางปีไอ้บอดและเพื่อนอีกสองตัวก็ออกไปนอกเขตวัด ในปีที่มีน้ำหลากมามาก ถูกชาวบ้านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจระเข้ธรรมชาติออกหากิน จึงใช้ปืนยิงและใช้ฉมวกแทงเพื่อนของไอบอดต้องสิ้นชีวิต แต่ไอ้บอดก็รอดชีวิตมาจวบจนวาระสุดท้าย เหลือไว้เพียงดวงตาลูกเดียวจนเป็นนามเรียกขานกันติดปากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นับว่าเป็นกรรมของไอ้บอดมัน ที่ถูกคนผู้มีจิตใจไม่ต่างอะไรกับมัน เบียดเบียนอาศัยความได้เปรียบแทงจนกระทั้งต้องเสียลูกตาไปข้างหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่ากรรมใดใครก่อ กรรมนั้นต้องสนอง มันต้องซมซานรักษาตา อดทนกับความเจ็บปวด อยู่ในสระวัดดูนกับหลวงปู่หลายปี กิตติคุณในทางรู้ภาษาคนได้ถูกกล่าวขานเล่าลือไปในทิศทั้งสี่ ใครที่ได้ยินได้ฟังแล้วต้องอยากมาเยี่ยมชม วัดดูนผู้มีศรัทธาที่เดินทางมาจากที่ไกล เพื่อกราบคารวะหลวงปู่ขอพร หากไม่ได้เห็นไอ้บอดก็นับว่ามาไม่ถึงวัดดูน  พระอริยะสงฆ์สายปฏิบัติ ผู้เต็มไปด้วยเมตตาบารมี ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ กลิ่นหอมขจรขจายไปทั่วทุกทิศสุดที่จะพรรณนา ผู้คนที่ศรัทธาจากภาคต่างๆ มาร่วมกลุ่มปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่เป็นจำนวนร้อยจำนวนพัน พระภิกษุสามเณรมีเป็นร้อยๆ ฝ่ายชีและชีพราหมณ์นับจำนวนไม่ถ้วน  ต้องขยายโรงทานให้พอเพียงแก่ผู้มาร่วมทำบุญ ไอ้บอดก็เป็นหนึ่งในส่วนนั้นเมื่อศรัทธามาจากที่ต่างๆ นำโครงกระดูกไก่มาให้มันด้วย ทุกวันมันจะคอยแสดงตัวให้เห็นเมื่อคนเรียกว่า “ บอด “ หรือเมื่อหลวงปู่ผางเรียกชื่อมันจะลอยน้ำเข้ามาหา มีอยู่ครั้งหนึ่ง ไอ้บอดมันจะเซ็งกับที่อยู่เดิมหรือไร ไม่มีใครรู้ มันได้ออกจากวัดไปอยู่ต่างถิ่น หลวงปู่ให้คนเขาไปตามจับคืนมาก็ไม่ได้ในที่สุดหลวงปู่ผางต้องไปเรียกมันเอง มันก็มาด้วยดีถือว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ต่างก็เล่าขานกันต่อมา  มีหลายเรื่องที่หลวงปู่ต้องออกโรงเองอย่างครั้งหนึ่งท่านต้องการสร้างกุฏิในสระน้ำ ชาวบ้านและช่างไม่กล้าลงในสระน้ำ กลัวจระเข้กัด  หลวงปู่ผางก็บอกว่า  ไปกลัวมันหยั๋ง แข้ซื่อซื่อ..  จำเป็นท่านก็ต้องลงไปในน้ำเพื่อกันจระเข้ให้ช่างและชาวบ้าน กุฏิหลังนั้นจึงเสร็จลง และมีเรื่องเล่าว่า ไอ้บอดเป็นจระเข้ที่หลวงปู่ฝังตะกรุตไว้ที่ต้นขาหน้าของมัน มีอยู่ครั้งหนึ่งชาวบ้านนาอยู่ใกล้วัดไอ้บอดได้ออกจากสระไปเที่ยว ชาวบ้านคนนี้มีความไม่พอใจหลวงปู่เป็นทุนอยู่แล้วด้วยความอิจฉา เห็นไอ้บอดออกไปเพ่นพล่านในห้วยของตนจึงคว้าปืนลูกซองมายิงก็ไม่ออก ยิ่งบันสุโทสะเข้าไปอีก เอาลูกใหม่เข้าเพื่อยิงอีก ปรากฏว่าปืนแตกและประทุเข้าตาตนเองถึงกับตาบอด กรรมสนองกรรม  พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตน เรื่องเล่าขานที่เป็นความจริงเหล่านี้กับไอ้บอดมีอยู่มากมาย ไอ้บอดของหลวงปู่ผางก็เป็นขวัญใจของคนที่อยากรู้อยากเห็นเมื่อมาถึงวัดดูนแล้วโดยเฉพาะลูกเล็กเด็กแดงทั้งหลาย  เมื่อมันสิ้นใจลงต่างก็เป็นที่สนใจกับชาวบ้าน รวมพวกเด็กนักเรียน ได้ยกขบวนมามองดูกันเป็นจำนวนมาก บางพวกก็นำธูปเทียนมากราบไหว้บูชา จนกระทั่งนำร่างกายของไอ้บอดไปสตั๊พไว้เพื่อให้คนได้เห็นและรู้ว่าไอ้บอดไม่ใช่นิทานเล่าลือกล่าวขานกันมาเปล่าๆ มันมีตัวตนจริง ให้รุ่นลูกหลานในอนาคตได้เรียนรู้และเห็นจริง

การตายของไอ้บอดมีเงื่อนงำอยู่มาก สาเหตุการตายของมันเกิดจากมนุษย์ใจบาปใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกล่อให้มันกินถึงกับตาย ไอ้บอด สิ้นชีวิตลงเมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๗  ช่วงเวลากลางคืน

                                                                                                                                                                                                                            ส.จารุธัมโม

              

              

                                          ไอ้บอดในปัจจุบัน

             

 

หมายเลขบันทึก: 419172เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2011 10:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 14:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

น่าเศร้าจริงๆ ครับ เคยฟังแต่เรื่องร้ายๆ ของจระเข้ตัวนี้พึ่งมาได้ยินเรื่องดีๆ ของมันก็วันนี้แหละ

เคยได้ยินเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วคร่า พึ่งได้รุลึกๆก็วันนี้ล่ะคร่า

สหชาติ คือ การเกิดพร้อมกัน

เหตุที่เขียนว่า เป็นสหชาติหลวงปู่ คงไม่ถูก นะครับ

ไอ้บอดที่มีชื่อเรียกกันอยู่จนปัจจุบันนี้มีปัวัติ จรเข้ตัวนี้มาตามคลองนำ้เก่าแล้วจึงข้ามฝายน้ำมาอยู่วัดเพราะอาหารสมบูรณ์ พออยู่ได้สักพักหนึ่ง มีนายพรานมาหาของป่ามาเห็นเข้าจึงกลัวเป็นอันตรายต่อผู้อื่นจึงใช้ปืนที่ติดตัวมาด้วยยิงไปที่จรเข้โดนที่ตา ทำให้จรเข้ตัวนี้ตาบอด หลวงปู่รู้เข้าจึงสั่งห้ามทำร้ายและเลี้ยงไว้ในวัดและได้ตั้งชื่อให้จรเข้ตัวนั้นว่าบอดเพราะตามันบอดข้างหนึ่ง นี้เป็นเรื่องที่รู้มาจากพ่อของตนที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ตั้งแต่ยังเด็กจนมาถึงรุ่นของตนปัจจุบันนี้ สุดท้ายนี้วันที่พ่อตายวันนั้นตนก็ไปทำบุญและได้นอนอยู่ที่วัดด้วย แล้วจะมาเขียนให้อ่านใหม่ ขอบคุณมาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท