บริจาคของวันเด็กปี ๒๕๕๔


พวกเราชาวรพ.สูงเนิน ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านค่ะ "รอบคอบ รู้คิด จิตสาธารณะ" เป็นคำขวัญวันเด็ก.. ที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ต้องนำมาคิดพิจารณาเหมือนกัน..

เช้าวันที่ ๖ ม.ค.๕๔ ได้ยินเสียงตามสายประกาศประชาสัมพันธ์เชิญชวนจนท.รพ.ร่วมด้วยช่วยกันบริจาคเงินและสิ่งของ เพื่อนำไปให้เด็กๆในรร.ที่อยู่ข้างๆรพ.สูงเนิน (ไม่รู้ว่าจะพูดเกินจริงไปหรือเปล่า จากคำบอกเล่าของคุณครูและดูด้วยสายตาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ที่นี่.. มีเก้าอี้ที่ดูดีใช้สำหรับรับแขก ๒๑ ตัว นอกนั้นเป็นเก้าอี้ของนักเรียน มีนักเรียน ๕๔ คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กด้อยโอกาส) แม่งานคือต่าย' เดือนเพ็ญ หลังจากนั้นเราได้รับเงินบริจาค, ขนม, สิ่งของมากมายจากคนรพ.ใจดี (kunrapee เห็นความมีน้ำใจของทุกท่าน แล้วเกิดปิติ..รู้สึกว่าคนไทยมีน้ำใจและรักกัน)

 

วันรุ่งขึ้นต่ายสั่งก๋วยเตี๋ยว+ไอศครีม ไปเลี้ยงเด็กและพวกเราชาวรพ.สูงเนินที่จะไปทำกิจกรรมร่วมกัน เช้าวันนั้นคุณครูขับรถมารับสิ่งของบริจาคไปก่อน ตอนเที่ยงพวกเราก็ไปกันสิบกว่าคน (ไม่ได้คิดว่าจะบันทึกเรื่องเล่า จึงมีภาพมาฝากไม่ค่อยละเอียด) เด็กๆทานกันเรียบร้อยแล้ว เราเลยขอทานทั้งก๋วยเตี๋ยว+ไอศครีมก่อนที่จะไปมอบของ.. เนื่องจากบ่ายโมง เราต้องทำงานต่อ จึงมอบเพียงเงินเล็กน้อยให้กับเด็กทุกคน ส่วนขนม ของเล่นและทุนการศึกษาเด็ก ขอให้คุณครูดำเนินการต่อ พวกเรากลับรพ.ด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข 

วันเด็กปีนี้.. มีเด็กอีกคน (ต่ายเล่าให้ฟัง) ที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ขนม ของเล่นหรือเปล่า..
ย่ากับพ่อพาน้องนนท์มาฝากให้แม่แก่ (ผู้หญิงแก่ๆคนหนึ่งที่รับจ้างเลี้ยงเด็กเพื่อประทังชีวิต) เลี้ยง ด้วยราคา ๑,๕๐๐ บาทต่อเดือน กินอยู่หลับนอนเป็นลูกของแม่แก่ไปเลย ส่วนแม่แท้ๆ แม่แก่
เล่าว่าเป็นคนพม่าชื่ออะไรก็ไม่รู้ ไม่เคยเห็นเลย ย่ากับพ่อเคยมาเยี่ยม ๒-๓ เดือนครั้ง พร้อมกับนมอีกครั้งละ ๒-๓ กล่อง หลังจากนั้นก็เลื่อนเป็นปีละครั้ง แต่ผ่านมา ๒ ปีแล้ว "น้องนนท์" ไม่มีโอกาสได้เจอทั้งหน้าพ่อและย่า แม่แก่เคยโทรไปหาก็ไม่ติด ยังดีมีคุณหมอที่เคยรู้จักกับย่าและพ่อคอยดูแลช่วยเหลือให้นม ขนม และซื้อข้าวสารให้แม่แก่เป็นครั้งคราวพอแบ่งเบาภาระไปได้บ้าง พออายุครบสี่ขวบก็ได้อาศัยศูนย์เด็กเล็กที่อบต.อนุญาตให้เข้าเรียนได้โดยที่ยังไม่มีทะเบียนบ้าน (เวลาเลิกเรียนของนักเรียนก่อนอนุบาลแล้ว น้องนนท์ต้องรอกลับกับพี่บี ถึงแม้พี่บีจะเป็นคนอื่นแต่ก็ให้นนท์กลับด้วยทุกวัน ถ้าจะรอพ่อแม่มารับก็คงไม่มีโอกาสได้กลับบ้านเลย ๓ ปีกว่าแล้ว) ก็คุณหมออีกนั่นแหละช่วยดูแลค่าเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าให้น้องนนท์ ยังไม่รู้เลยเมื่อไรพ่อกับย่าจะมารับไปอยู่ด้วย ถ้าแม่แก่หมดบุญไปน้องนนท์จะอยู่กับใคร..

"ต่าย NCD" วางแผนเรื่องแรกคือต้องทำให้น้องนนท์มีชื่อ มีทะเบียนบ้าน เป็นคนไทยเต็มร้อยเสียก่อน ต่อมาก็คงเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆเพื่อช่วยเหลือน้องนนท์และแม่แก่ คนจิตสาธารณะอย่างเราๆคงพอจะช่วยกันได้

 

 

 

พวกเราชาวรพ.สูงเนิน ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านค่ะ

"รอบคอบ รู้คิด จิตสาธารณะ"

เป็นคำขวัญวันเด็ก..ที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ต้องนำมาคิดพิจารณาเหมือนกัน..

 

หมายเลขบันทึก: 418971เขียนเมื่อ 8 มกราคม 2011 08:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 00:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยนะจ๊ะคุณระพี

สวัสดีวันเด็กค่ะ

"คุณครูอ้อย"

หายเร็วๆนะคะ "คุณยาย"

รักษาสุขภาพด้วย

จะได้กลับมาเขียนบันทึกอีก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท