ปรัชญาชีวิต


การสร้างบารมีให้ชีวิต

สวัสดีค่ะ  ท่านผู้อ่าน

          ขอนำเสนอแนวคิด "การสร้างบารมีให้ชีวิต" ของ พระศรีญาณโสภณ ค่ะ

     "การคืนกำไรให้แผ่นดิน ไม่ต้องรอให้มีทรัพย์มาก ไม่ต้องรอให้ร่ำรวย ไม่ต้องรอให้มียศมีเกียรติจึงคิดคืนให้ เพียงแต่เราคิดอ่านหาทางช่วยเหลือคนด้อยโอกาสกว่าเรา ให้เขามีโอกาสที่ดีขึ้น บารมีก็เกิดขึ้นกับแผ่นดินแล้ว."

     "เมื่อได้ชีวิตมาดี เราต้องเร่งสร้างบุญบารมีให้ชีวิต มิฉะนั้น ชีวิตที่ได้มาก็จะเปล่าประโยชน์ การเกิดมาเป็นคนก็สูญค่าจะเป็นได้ก็เพียงเกิดมาเพื่อสั่งสมสินทรัพย์แต่ไร้อริยทรัพย์อันเป็นเสบียงใจให้ก้าวข้ามภพชาติ."

                                   แล้วพบกันใหม่ค่ะ    สวัสดี.

       

คำสำคัญ (Tags): #ศรีสะเกษ7
หมายเลขบันทึก: 416735เขียนเมื่อ 27 ธันวาคม 2010 11:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีค่ะ พี่ดวงดาว

เป็นข้อคิด ปรัชญาชีวิตที่ดีมากๆค่ะ จะนำไปปฏิบัติในการทำบุญทำทานบารมีเพื่อเป็นเสบียงบุญและเสบียงใจต่อไปค่ะ

จริงทีเดียวครับ ได้ชีวิตมาดีก็ต้องสร้างบารมี" นำภาพนี้มาฝากด้วยครับ


สวัสดีค่ะพี่ดวงดาว

ถูกค่ะ สิ่งที่พี่พูด พี่ได้ทำมันแล้ว น่านับถือค่ะ พี่แจ๊ดกับพี่ชมพู่เป็นคนที่ช่วยเหลือ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาของผู้คน ก็เลยมีความอยู่ดี กินดี พูดง่าย เลยว่ารวยมาก ๆ ไม่เคยคิดอิจฉาพี่ ๆ ที่เกิดมารวยค่ะ อิจฉามันไม่ดี แต่ซึ้งใจที่พี่คอยช่วยเหลือผู้คนโดยให้บริการการศึกษาแก่เขา โดยการร่วมส่งเสริม อุปถัมป์โรงเรียนขุขันธ์ราษฎร์บำรุง ขึ้นมา รวมถึงพวกเรานิสิต ป.โทบริหารการศึกษา ศรีสะเกษรุ่น 7 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ชาตินี้ชาติไหนขอให้พี่ทั้งสองรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ เพราะท่านช่วยเหลือสังคมจริง ๆ

เป็นคนกรุงเทพฯ แท้ ๆ แต่มาอยู่ศรีสะเกษ ทานปลาร้าก็ได้ เยี่ยมมากค่ะ

สวัสดีปีใหม่ครับ เยี่ยมมากๆ ครับ สาธุ

สวัสดีครับคุณดวงดาว 

ผมสมาชิกให้นะครับ  ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า "การสร้างบารมีให้ชีวิต" ด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะมนุษย์ร่วมโลกใบนี้  ประสบการณ์ของผมนะครับ  คือว่า  ผมได้ช่วยเหลือบุคคลท่านหนึ่งให้ออกรถยนต์ โดยผมและเพื่อนอีกคน เป็นผู้คำประกันให้ ปรากฎว่า คนที่ผมช่วยเหลือนั้นเขาจ่ายค่างวดรถเพียงงวดเดียว แล้วปล่อยให้บริษัทไฟแนนท์มายึดรถกลับไป ต่อมาอีกสองปี ผมกับเพื่อนที่ค้ำประกันให้ ได้รับหมายศาลให้ไปฟังคำร้อง ตอนนั้นผมโกรธมากเลยครับ และได้ใช้คำพูดที่รุนแรงไปว่า "เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ" แล้วผมก็สำนึกผิด และขอโทษบุคคลที่ผมช่วยเหลือ แต่รู้ไหมครับว่า ตลอดเวลาของการมีปัญหาเกิดขึ้น เวลาที่ผมบอกเขาให้ทราบถึงจดหมายทวงหนี้ ผมแจ้งให้เขาทราบ แต่เขากลับโวยวายใส่ผม พูดโอ้อวดใหญ่โตใส่ผม ผมงง! แต่ก็ทำจิตใจให้นิ่งได้มากขึ้น แต่เพื่อนอีคนของผมไม่ยอม  เขาพูดรุนแรงกลับคืน โต้อารมณ์กันไปมา คำขอบคุณที่ได้ตอนซื้อรถและปัญหาที่เกิดขึ้น  เจ็บปวดมากพอสมควร ทำให้ผมระวังการค้ำประกันมากขึ้น และแล้วประมาณวันที่  24  มกราคม 54  ผมกับเพื่อนก็จะต้องไปรายงานตัวที่ศาลอีกครั้ง และเป็นครั้งที่บริษัทเข้าจะฟ้องยึดทรัพย์ ผมกังวลอยู่บ้าง  แต่จิตใจนิ่งมากขึ้นกว่าเดิม. 

        การช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก  เป็นการสร้างบารมีให้กับตนเองหรือว่าเป็นการชดใช้กับเก่าของตนเองครับ

---เสบียงใจให้ก้าวข้ามภพชาติ-----

น่าอนุโมทนาบุญด้วย คำนี้กินใจจริงๆ

การทำบุญทำทานเป็นสิ่งที่ดีเสมอ ย่อมสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ ใช่แล้วค่ะการทำบุญไม่ต้องรอให้มีทรัพย์มาก อยากแนะนำการทำบุญอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้เรามีความสุขและสร้างบารมีให้แก่ชีวิตคนเราได้ไม่น้อยทีเดียว นั่นคือ อภัยทาน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท