ค่าพูดแพง


สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อเสนอจากสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวน่านไปยัง อพท.สนับสนุนงบประมาณจัดกิจกรรม ตามลิ๊งค์ http://www.visitnan.com/news/read.php?idnw=498   มี วิทยากรชื่อดังมาพูดทั้งช่วงเช้า - บ่าย ผู้หลักผู้ใหญ่ผู้สนใจจำนวนมาก เพราะทราบว่า วิทยากรมีความรู้ดี ที่สำคัญค่าพูดแพงดี มักมีคำพูดทำนองว่า ไม่มีของดี ไม่มีของฟรีในโลก ประมาณนั้น ไม่ทราบตัวเลขเท่าไหร่  เนื้อหาสาระที่พูดดีคุ้มกับที่ไปรับฟัง เพราะเขาทำกันเป็นอาชีพ ในส่วนสตางค์ไม่ใช่เงินส่วนตัวใคร หากแต่เป็นงบประมาณแผ่นดิน

นี่น่านใจอีกเช่นกัน ตามที่ปรากฏใน นสพ.ไทยรัฐ วันอังคาร ที่ ๑๖ พ.ย.๒๕๕๓ หน้า ๕ คอลัมภ์ หมายเหตุประเทศไทย โดย ลม เปลี่ยนทิศ จั่วหัวเรื่องว่า  ไปสัมผัส บิล คลินตัน ผู้พูดเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้รับเชิญมาพูดในหัวข้อ  Embracing Our Common Humanity ร่วมกันโอบกอดความเป็นมนุษยชาติของเรา ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

ลม เปลี่ยนทิศ ได้เรียนถาม คุณสุวัจน์ ประธานจัดงานได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ค่าพูด ๔๕ นาที ของ บิล คลินตัน ในครั้งนี้คือ ๔๐๐,๐๐๐ เหรียญ ( ๑๒ ล้านบาท ) เป็นค่าตัวปกติของอดีตผู้นำสหรัฐฯ คนนี้  แต่ต้องออกค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายของผู้ติดตามกับหน่วยรักษาความปลอดภัยอีก ๓๐-๔๐ คน รวมแล้วก็โขอยู่แต่ก็ยังน้อยกว่า  ค่าปรากฏตัวของ ไทเกอร์ วูดส์ ที่คิดครั้งละ ๓ ล้านเหรียญ ( ๙๐ ล้านบาทขาดตัว )

เงินจำนวนมากมายที่มีการใช้จ่ายไปเพื่อค่าพูด  ทำให้ผมเองต้องนึกถึง ผู้หลักผู้ใหญ่ภูมิปัญญาน่าน ที่พวกเราไปรบกวนของความรู้ท่านบ่อย ๆ  พวกเราให้กล่อง ให้ค่าพาหนะหรือค่าใช้จ่ายไม่มากมายนัก  ขณะเดียวกันหลายท่านบริจาคกลับมาเป็นกองทุนให้พวกเราอยู่บ่อย ๆ  ท่านอยู่ในจิตใจพวกเรายาวนาน ส่วนพวกที่ได้ค่าพูดแพง ๆ เข้าใจว่า อยู่กันได้ไม่นาน  ไม่มีเงินหรือผลประโยชน์คงไม่ได้คบหาสมาคมกันแน่  การกำหนดค่าพูด ภายใต้การทำงานแบบธรรมาภิบาลเชิงธุรกิจและการจัดการแบบทุนนิยม  มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้ง ๆ ที่อยู่บนโลกใบเดียวกัน

หมายเลขบันทึก: 412211เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2010 11:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:28 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

มันเป็นค่านิยม ที่คนให้ค่าเขาเอง เป็นไปตามกระแส และสร้างค่าขึ้นมา เหมือนที่คุณ Thanu Polbhun เขียนแสดงความคิดว่า

 "ผู้หลักผู้ใหญ่ภูมิปัญญาน่าน ที่พวกเราไปรบกวนของความรู้ท่านบ่อย ๆ พวกเราให้กล่อง ให้ค่าพาหนะหรือค่าใช้จ่ายไม่มากมายนัก ขณะเดียวกันหลายท่านบริจาคกลับมาเป็นกองทุนให้พวกเราอยู่บ่อย ๆ ท่านอยู่ในจิตใจพวกเรายาวนาน ส่วนพวกที่ได้ค่าพูดแพง ๆ เข้าใจว่า อยู่กันได้ไม่นาน "

นี่เพราะคนส่วนใหญ่ยังติดกันที่เปลือก และให้ค่าเปลือกแพงมาก เวลาเจอแก่น จึงไม่ค่อยรู้ค่า จึงไม่ให้ค่า เป็นแบบไกล้เกลือกินด่าง ถ้าสังคมเรารู้จักการหาคนดีๆที่ทำประโยชน์ในสังคมในแต่ละท้องถิ่น (ปราชญ์ชาวบ้าน) มายกย่องสนับสนุนเป็นตัวอย่างมากกว่าที่เป็นอยู่ก้นคงจะดีไม่น้อย ต่างชาติจะได้มาจ่ายให้คนไทยบ้าง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท