สำนักข่าวรอยเตอร์ตีพิมพ์เรื่อง 'Study links finger length to prostate cancer risk' = "(การศึกษาวิจัย)พบความยาวนิ้วมือบอกความเยงมะเร็งต่อมลูกหมาก", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ [ Reuters ]
.
เข้าใจว่า คนเราทุกชาติทุกภาษามีแนวโน้มจะใช้นิ้วชี้ในการชี้โน่นชี้นี่มากกว่านิ้วอื่นๆ, ฝรั่งมีธรรมเนียมถือว่า ห้ามใช้นิ้วกลางชี้ เนื่องจากเป็นภาษาใบ้คล้ายกับการด่าว่า จะให้อวัยวะเพศชาย
.
ที่เรียกเช่นนี้ เนื่องจากสมัยก่อน (น่าจะเป็นยุคโรมัน) มีความเชื่อว่า เลือดจากนิ้วนางจะวิ่งเข้าสู่หัวใจโดยตรง จึงให้สวมแหวนแต่งงานที่นิ้วก้อย
ความจริง คือ เลือดจากนิ้วทุกนิ้วไหลกลับหัวใจคล้ายๆ กันทั้งนั้น
.
.
ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริเทนส์ วอร์วิค และสถาบันวิจัยมะเร็ง (ICR) สหราชอาณาจักร (UK) พบว่า ผู้ชายที่มีนิ้วชี้ (index finger) ยาว มีความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง 1/3 (ตีพิมพ์ใน Br J Cancer)
ผู้ชายส่วนใหญ่จะมีนิ้วนางหรือนิ้วที่ 4 (นับนิ้วหัวแม่มือเป็นนิ้วที่ 1 ไปเรื่อยๆ) ยาวมากกว่านิ้วชี้หรือนิ้วที่ 2, กลไกที่เป็นไปได้ คือ ฮอร์โมนเพศชาย (testosterone) มักจะทำให้นิ้วนางยาวกว่านิ้วชี้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่
.
ถ้าระดับฮอร์โมนเพศชายตอนอยู่ในท้องแม่ไม่สูงมาก... ความยาวนิ้วจะตรงกันข้าม คือ นิ้วนางจะสั้นกว่านิ้วชี้
ทุกวันนี้การตรวจคัดกรองหามะเร็งต่อมลูกหมาก (prostate cancer) ยังมีความ "ไม่แน่นอน / ไม่ชัดเจน" หรือความ "ก้ำกึ่ง / กำกวม" (controversy) สูงมาก
.
การตรวจเลือดหาระดับสาร PSA (prostate-specific antigen) ไม่สามารถแยกแยะได้ว่า ระดับสารนี้ที่สูงขึ้นเป็นผลจากมะเร็งต่อมลูกหมากชนิดที่ก้าวร้าว หรือลุกลามออกไปรอบๆ (aggressive) หรือเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากชนิดที่อ่อนมากๆ
มะเร็งต่อมลูกหมากส่วนใหญ่เป็นมะเร็งชนิดที่อ่อนมากๆ ไม่มีอาการ และไม่ต้องรักษา
.
การผ่าศพชันสูตรพบมะเร็งต่อมลูกหมากชนิดอ่อนมากๆ ไม่มีอาการอะไรจนกระทั่งคนที่เป็นเสียชีวิตด้วยสาเหตุอื่น เช่น อุบัติเหตุ โรคหัวใจ ฯลฯ ได้บ่อยมาก
ส่วนกลไกที่ทำให้ความยาวนิ้วชี้มีความสัมพันธ์กับมะเร็งต่อมลูกหมากนั้นน่าจะเป็นผลมากจากการมีรหัสพันธุกรรม, DNA, หรือยีนส์ (genes = กลุ่มหรือชุด DNA ที่แสดงผลได้) ร่วมกัน
มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในผู้ชายสหรัฐฯ รองจากมะเร็งปอด, ส่วนใหญ่จะพบในคนสูงอายุ (50 ปีขึ้นไป), คนเอเชียหรือซีกโลกตะวันออกเป็นมะเร็งชนิดนี้น้อยกว่าฝรั่ง(ชาวตะวันตก)
การศึกษานี้ทำในกลุ่มตัวอย่างคนไข้โรคมะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่า 1,500 ราย เทียบกับคนที่ไม่เป็นมะเร็ง และมีสุขภาพดี 3,000 คน
.
ผู้ชายมากกว่าครึ่ง (จากการศึกษานี้) มีนิ้วนางยาวมากกว่านิ้วชี้ ลักษณะเช่นนี้พบบ่อยที่สุด (ต้นฉบับไม่ได้บอกว่า เสี่ยงเพิ่มขึ้น)
ผู้ชายที่นิ้วชี้ยาวเท่ากับนิ้วนางมีประมาณ 19% ลักษณะเช่นนี้มีความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมากไม่เพิ่มขึ้น และไม่ลดลง
.
ผู้ชายที่มีนิ้วชี้ยาวมากกว่านิ้วนางมีประมาณ 1/3 หรือ 33% มีความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง
.
(8). ระวังขาดวิตามิน D > ภาวะขาดวิตามิน D ทำให้ภูมิต้านทานโรค รวมทั้งต้านทานมะเร็งลดลง
อาหารที่มีวิตามิน D มากหน่อยได้แก่ ปลาทะเล นม-ผลิตภัณฑ์นมเสริมวิตามิน D, การกินวิตามินรวมแบบไม่แพง กินพร้อมอาหารวันละเม็ด และรับแสงแดดอ่อนวันละ 15 นาที ช่วยป้องกันภาวะขาดวิตามิน D ได้
ที่ มา
อึม...น่าคิดสำหรับพระ ข้อมูลน่าติดตามครับ โยมหมอ
นมัสการขอบพระคุณครับ......... //
น่าสนใจเรื่องถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง..ขอแถมนิดหนึ่ง มะเขือเทศวันละลูกจะช่วยได้จริงหรือเปล่าครับ..เพราะเคยอ่านหนังสือพบข้อมูลว่ามะเขือเทศจะช่วยให้ห่างไกลจากมะเร็งต่อมลูกหมาก
ชอบบทความค่ะ
นิ้วคนเรานี่ก็แปลกดีนะคะ ให้ทั้งความรู้และปรัชญาด้วย
อย่างเวลาเราชี้นิ้วไป หนึ่งนิ้ว อีกสามนิ้วจะชี้มาหาเรา ส่วนนิ้วโป้งจะชี้ไปขวางนิ้วอื่น ๆ
นิ้วโป้งที่ใหญ่และแข็งแรงที่สุดจะแสดงตัวเหมือนจะคอยห้ามปรามความคิดของเราไม่ให้เหิมเกริมผิดลู่ทาง
ส่วนสามนิ้วที่เหลือก็เหมือนกับการสะท้อนความคิด เพราะทุกครั้งที่เราชี้ไปที่คนอื่นนั้น มันยืนยันมาสามเท่าว่า เราทำเพื่อตัวของเราเอง
คนส่วนใหญ่ทำอะไรก็เพื่อตัวเอง
และสิ่งที่แสดงออกจะสวยงาม เมื่อหันไปทำเพื่อคนอื่นมากขึ้น
ขอบคุณคุณหมอที่จุดประกายความคิดดี ๆ นะคะ
คุณหมอคงจะเป็นที่รักของคนไข้ทุก ๆ คน เป็นที่ชื่นชมของผู้ร่วมงาน มิตรสหาย ญาติโยม (อิจฉาเล็กนะคะ)
อนุโมทนาด้วยค่ะ
เป็นความรู้ที่แปลกใหม่ค่ะ
ขอบคูณข้อมูลจากคุณหมอ
ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านครับ......... มะเขือเทศเป็น 1 ในผักผลไม้ที่ช่วยต้านมะเร็งต่อมลูกหมากครับ แบบสุกดีกว่าดิบ เช่น ผ่านการต้ม-นึ่ง-ย่าง-ทอด หรืออยู่ในรูปซอสมะเขือเทศ จะได้ผลดีกว่ากินแบบดิบ และถ้ากินพร้อมอาหารที่มีไขมันจะดีขึ้น // การศึกษาระยะหลังๆ พบว่า ผักผลไม้แต่ละชนิดช่วยต้านมะเร็งต่อมลูกหมากได้คล้ายๆ กัน // มะเขือเทศมีดีมากตรงที่หาง่าย ไม่แพง และน้ำตาล-แป้งต่ำครับ.......
ได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นกับการที่ได้อ่าน ทำให้เราหันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจากคุณหมอนะค่ะ