ครั้งนี้เป็นครั้งที่ผมมีความมั่นใจในผลลัพธ์น้อยที่สุดเท่าที่เคยจัด KM Workshop มาเนื่องจากต้องทำงานกับ “นิสิตระดับปริญญาตรี” ที่ผมห่างเหินมานาน (ไม่ค่อยได้สอนหนังสือครับ) และจำนวนคนเข้าร่วมก็มีมากเกินความพอดีที่จะจัด Workshop ให้ดีได้อีกด้วย (ผู้นำนิสิตจำนวนประมาณ 130 คน อาจารย์ที่ปรึกษาชมรมต่าง ๆ 40 คน และเจ้าหน้าที่กองกิจการนิสิต 10 คน) แถมเวลาเตรียมการก็มีน้อย แต่ก็เต็มใจที่จะลองพยายามทำดูเนื่องจากไม่อยากให้ความตั้งใจของนิสิตต้องสะดุดหรือชะงักลง ดังนั้น ผมขอขอบคุณล่วงหน้าเป็นอย่างมากเลยครับ ถ้าจะมีคำแนะนำดี ๆ สำหรับการเตรียมการในครั้งนี้
ประมาณ 6 โมงเย็น วานนี้ (วันจันทร์ที่ 24 ก.ค. 49) รองประธานสภานิสิต มน. (นายรงค์รบ น้อยสกุล หรือชื่อเล่นว่า “ปืน”) ได้มารอพบผมเพื่อปรึกษาหารือเรื่องกิจกรรมที่อยากจะทำหลังจากการสอบเทอมต้นแล้ว ซึ่งก็จะตกอยู่ในช่วงปลาย ส.ค.- ต้น ก.ย. 49
“ปืน” มาเล่าให้ผมฟังว่าพวกเขามีปัญหาเรื่องของการเขียนโครงการเพื่อของบประมาณในการจัดทำกิจกรรมนิสิต และนิสิตที่เข้ามาเป็นกรรมการดำเนินกิจกรรมนิสิตก็มักจะเปลี่ยนไปทุกปี คนเข้ามาใหม่ก็ต้องมาเรียนรู้งานใหม่ โดยไม่สามารถสืบทอดประสบการณ์จากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งได้ “ปืน” บอกว่าอยากให้ผมช่วยจัด KM Workshop สัก 2 วัน เป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ในช่วงประมาณปลายเดือน ส.ค. 49 เพื่อให้พวกเขาประมาณ 120 คนได้มีความรู้เรื่อง KM และสามารถเขียนโครงการที่ดี โดยเน้นว่าต้องมี KPI ที่ดีกำกับด้วย
ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะไม่อยากที่จะเชื่อผมว่า นิสิต ป.ตรี ปี 3 เดินเข้ามาขอพูดคุยกับผมเรื่อง “KM” เรื่อง “KPI” และเรื่อง “บทบาทของนิสิตต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา (QA)” แต่มันเป็นเรื่องจริง และขอเน้นด้วยครับว่าเป็นความริเริ่มที่มาจากนิสิตจริง ๆ
“ปืน” ได้รับการคัดเลือกจากพี่ ๆ ในทีมงานวิจัยของ มน. ให้เข้ามาเป็นนิสิตช่วยงาน ประมาณปีเศษแล้วจึงได้มีโอกาสเข้ามาสังเกตการณ์การทำงานทีมงานของผมทั้งด้านวิจัย-QA-KM ของ มน. มานานพอสมควร ปีนี้เขาได้รับเลือกให้เป็นรองประธานสภานิสิต หนึ่งปีที่ผ่านมาเขาเปลี่ยนไปมากอย่างไม่น่าเชื่อ จากน้องใหม่ที่ท่าทางเด๋อ ๆ ด๋า ๆ กลายเป็นคนที่มีบุคลิกดี มีความมั่นใจในตัวเองสูง ความคิดความอ่านเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ผลการเรียนก็อยู่ในเกณฑ์ที่สามารถได้เกียรตินิยม
ผมคุยกับ “ปืน” ได้พักหนึ่งก็ต้องขอตัวเนื่องจากมีนัดอื่นรออยู่ แต่ก็นัดกันว่าวันพรุ่งนี้ (ซึ่งก็คือวันนี้ วันอังคารที่ 25 ก.ค. 49) เวลาเย็นประมาณ 17.00 น. ค่อยมาคุยกันต่อ และผมจะเตรียมร่างกำหนดการ Workshop มาคุยกันด้วย จะได้เห็นภาพพจน์มากขึ้น ส่วน “ปืน” นั้น ผมฝากให้ไปหาข้อมูลมา 2-3 อย่าง เพื่อการพูดคุยกันต่อ
ตกเย็นวันรุ่งขึ้น “ปืน” มาพบผมก่อนเวลานัด ไม่มาคนเดียวพาน้องใหม่คณะมนุษยศาสตร์ (น.ส.กมลวรรณ กมลวัฒน์ หรือชื่อเล่นว่า “ปุ๊ก”) มาทำหน้าที่เป็นเพื่อนและเป็นเลขานุการ และเป็นการฝึกน้องไว้ทำงานในปีหน้าด้วย ส่วนตัวผมก็ให้ “คุณตูน” (น.ส.เจนจิต รังคะอุไร) ผอ. QAU ช่วยจัดเตรียมร่างกำหนดการไว้พูดคุยเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ก่อนที่จะมาพบผม “ปืน” ได้ไปปรึกษาอาจารย์ที่ฝ่ายกิจการนิสิต และได้รับคำแนะนำจากที่นั่น ว่าให้ไปจัดนอก มน. จะได้ผลดีกว่า และมีงบประมาณสนับสนุนให้ได้ ผมจึงแนะนำให้ไปที่สุโขทัยเนื่องจากห้องประชุมใหญ่มีหลายห้อง เหมาะกับการทำกิจกรรมกับคนจำนวนเป็นร้อยคนขึ้นไป
“ปืน” ยังได้เตรียมข้อมูลที่ผมขอไว้มาประกอบการพูดคุยด้วย เช่น วัตถุประสงค์หลักของการจัดกิจกรรมนี้ กลุ่มเป้าหมายของผู้เข้าร่วมพร้อมทั้งจำนวน ความคาดหวังหรือประโยชน์ที่จะนำไปใช้ งบประมาณ วัน เวลา และสถานที่ เป็นต้น
เราพูดคุยกันนาน ตกลงกันในเบื้องต้นว่าจะไปจัดกันที่สุโขทัย ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 2-3 ก.ย. 49 ซึ่งมีเวลาในการเตรียมตัวค่อนข้างน้อยทั้งสองฝ่าย กำหนดการเราตกลงในเบื้องต้นว่าจะเป็นทำนองนี้ครับ <Link>
เรานัดคุยกันใหม่อีกรอบในเย็นวันอังคารที่ 1 ส.ค. 49 การบ้านที่ผมให้ทั้งคู่ (ปืน+ปุ๊ก) ช่วยทำก่อนมาพบกันครั้งหน้าคือให้นำ Sheet ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ KM ไปแจกให้กลุ่มเป้าหมายได้อ่านล่วงหน้า และให้ทั้งคู่ช่วยกันคิด “หัวปลา” หลาย ๆ หัวไว้ให้ผู้เข้าร่วม Workshop ได้มีโอกาสเลือกและปรุงตามความชอบของแต่ละคน (ตามข้อเสนอแนะใหม่ล่าสุดของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ <Link> )
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ผมมีความมั่นใจในผลลัพธ์น้อยที่สุดเท่าที่เคยจัด KM Workshop มา เนื่องจากต้องทำงานกับ “นิสิตระดับปริญญาตรี” ที่ผมห่างเหินมานาน (ไม่ค่อยได้สอนหนังสือครับ) และจำนวนคนเข้าร่วมก็มีมากเกินความพอดีที่จะจัด Workshop ให้ดีได้อีกด้วย (ผู้นำนิสิตจำนวนประมาณ 130 คน อาจารย์ที่ปรึกษาชมรมต่าง ๆ 40 คน และเจ้าหน้าที่กองกิจการนิสิต 10 คน) แถมเวลาเตรียมการก็มีน้อย แต่ก็เต็มใจที่จะลองพยายามทำดูเนื่องจากไม่อยากให้ความตั้งใจของนิสิตต้องสะดุดหรือชะงักลง
ดังนั้น ผมขอขอบคุณล่วงหน้าเป็นอย่างมากเลยครับ ถ้าจะมีคำแนะนำดี ๆ สำหรับการเตรียมการในครั้งนี้
วิบูลย์ วัฒนาธร
.