ศุภัชณัฏฐ์ หลักเมือง
นาย ศุภัชณัฏฐ์ หลักเมือง (เอ) หลักเมือง

อุทกภัย น้ำท่วมธรรมดาหรือว่าธรรมชาติเตือนภัย


อุทกภัยครั้งใหญ่หรือธรรมชาติเตือนภัยแก่มนุษย์

อุทกภัยครั้งใหญ่ของไทย : บทเรียนและเสียงเตือนจากธรรมชาติ

ศุภัชณัฏฐ์  หลักเมือง

เครือข่ายประชาสังคมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

E-mail : [email protected]

                 นับเป็นระยะเวลาแรมเดือนแล้วที่เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย  โดยเกิดน้ำท่วมในจังหวัดต่าง ๆ เป็นวงกว้างใน 30 จังหวัด  ทั้งภาคเหนือ อีสาน  กลาง และใต้  สำหรับภาคใต้เกิด  วาตภัยซ้ำไปอีก  ต่อด้วยผลกระทบจากดินและหินถล่มเกิดผู้คนล้มตายทั่วประเทศเกือบ 200 คน    สร้างผลกระทบในวงกว้างทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อม  โดยเฉพาะความสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจจากความเสียหายของนาข้าว การเลี้ยงปลา ปศุสัตว์ พืชไร่และพืชสวน  รวมแล้วหลายหมื่นล้าน

                อย่างไรก็ดี  ความสูญเสียเหล่านี้เป็นภัยธรรมชาติที่คาดเดาได้ยาก ว่าจะเกิดขึ้นในระดับใด แค่ไหน ความช่วยเหลือทั้งภาครัฐและเอกชนก็ลงไปช่วยพี่น้องที่ประสบภัยอุทกภัยและวาตภัยกัน อย่างน่าชื่นใจ  เป็นการร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่  โดยเฉพาะรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี  ผมคิดว่าในสภาวการณ์เกิดภัยพิบัติอย่างต่อเนื่องและมีวงกว้างขนาดนี้  รัฐบาลก็สามารถบริหารจัดการ ดูแลช่วยเหลือพี่น้องของเราที่ประสบกับภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็ว     และนายกรัฐมนตรีและคณะได้ลงไปดูพื้นที่ด้วยตนเอง ทั้งภาคอีสาน ภาคกลางและภาคใต้ประกอบกับนโยบายที่ชัดเจนในการการให้ความช่วยเหลือ  และดูแลผู้ได้รับผลกระทบต่อภัยพิบัติต่าง ๆ ก็ทำให้คลายความกังวลใจและความทุกข์ใจไปได้บ้าง

                การเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ของไทยในครั้งนี้เป็นเสมือนเสียงเตือน  จากธรรมชาติที่รุนแรงครั้งหนึ่ง  แม้ว่าบางคนไม่เชื่อในคำพยากรณ์อากาศและคำเตือนคำประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาเลย  หรือเชื่อแต่ก็มีความเชื่ออีกว่า  ถ้าน้ำท่วมคงท่วมไม่มากรับมือไหว  ซึ่งหากเรามีการป้องกันอย่างดีแล้วความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินคงไม่มากมายเท่าไหร่  อุบัติภัยครั้งนี้จึงเป็นข้อเตือนใจอย่างดีว่า  อย่าไว้ใจในธรรมชาติ  เพราะว่าปัจจุบันสภาวะอากาศและสิ่งแวดล้อมบนโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก  เช่น  สภาวะอากาศร้อนจัด  หนาวจัด  การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลมีระยะเวลาสั้นหรือยาวผิดปกติกว่าเดิม  สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุบ่งบอกถึงวัน เวลา ที่มนุษย์ทุกคนบนโลกต้องเตรียมตัวรับ กับภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้

                ผลกระทบอย่างหนึ่งที่ชัดเจนมากหลังจากน้ำลดแล้ว นั่นก็คือ ขยะเมื่อรวม ๆ กันแล้วในเมืองใหญ่ ๆ มีขยะรวม ๆ กันประมาณ 30 ตัน  ซึ่งต้องใช้เวลาในการเก็บกวาดและทำความสะอาด ประมาณ 3 สัปดาห์ คิดดูว่าขยะจำนวนมากมาย มหาศาลเหล่านี้มาจากไหน มาจากการเก็บขยะและทำลายขยะที่ไม่ถูกต้องตามสุขลักษณะหรือไม่ หรือเพราะความมักง่ายของแต่ละคนที่ทิ้งขยะไม่เป็นที่ พอน้ำท่วมก็พัดพาขยะเหล่านี้มารวมกัน การไม่มีมาตรการในการดูแล ขุดลอกคูคลองระบายน้ำ  ขยะและผักตับชวาเต็มไปหมดจนตื้นเขิน ทุกอย่างที่กล่าวมานั้นสามารถแก้ปัญหาได้หากแต่ละคนมีจิตสำนึกที่ดีต่อการจัดการขยะของตนเองแต่ละครอบครัว ก็จะลดผลกระทบดังกล่าวได้มากทีเดียว เริ่มต้นที่ตนเองและแต่ละครอบครัวครับ เพราะเมื่อเกิดน้ำท่วมแล้วหลังน้ำลดปัญหาขยะจะตามมา รวมทั้งทั้งกลิ่นเหม็น และเชื้อโรคต่าง ๆ แล้วเราจะไปโทษแต่เจ้าหน้าที่ของเทศบาล หรือ อบต. ที่มีหน้าที่จัดเก็บขยะอย่างเดียวไม่ได้ เพราะว่าสาเหตุที่แท้จริงคือ  แต่ละคน   แต่ละครอบครับนั่นแหละ มาสร้างจิตสำนึกที่ดีลดขยะแต่ละครอบครัว ดูแลเก็บ และคัดแยกขยะเป็นอย่างดีทุกครอบครัวแล้ว ปัญหากวนใจเรื่องขยะ  จะไม่เกิดขึ้นครับ.     

    

 

หมายเลขบันทึก: 407779เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2010 15:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

แรกๆ ธรรมชาติจะตักเตือนแบบเบาๆ ก่อน แล้วค่อยๆหนักขึ้นจนคนเราสำนึกรู้ว่าไม่อาจต้านทาน ธรรมชาติได้

นี่คือสิ่งที่น่ากลัวครับ อาจารย์โสภณ และเวลาก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท