ในการทำงานนั้น หากเราได้ทุ่มเทเต็มกำลัง และได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้วนั้น มักจะมีทั้งบุคคลที่เห็นดีและให้กำลังใจ ในขณะเดียวกันกับที่มักจะมีบุคคลที่ริษยาเมื่อเห็นเราได้ดี และคอยจะเหยียบย่ำเมื่อเราตกต่ำอยู่เสมอ คำพูดของบุคคลที่ไม่เป็นประโยชน์อันใด ทั้งต่อการดำเนินชีวิต และการทำงานของเรานั้น หากเรายึดมั่นในคำพูดไร้สาระนั้นทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าเป็นเรื่องโป้ปดมดเท็จ ย่อมบั่นทอนทั้งกำลังกายและกำลังใจในการสร้างสรรค์ชีวิตให้สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติได้ จงยึดมั่นในการกระทำที่ถูกต้องของตน และดำรงชีวิตอยู่เคียงคู่กับอุดมการณ์ที่มี อย่าได้ไหวหวั่น เพราะคำพูดของคนเลวบางคนนั้น สามารถกลายเป็นอาวุธสังหารได้ทุกวินาที จงจำไว้เสมอว่า หากเรารับเอาคำพูดเลวร้ายที่ไม่เป็นจริงนั้นไว้ มันจะเป็นอาวุธที่ทำลายเราให้สิ้นซากทันที แต่หากเรามุ่งเดินหน้าประกอบในกรรมดีที่เหมาะที่ควรต่อไปไม่หวั่นไหว คำพูดเหล่านั้น ก็จะกลายเป็นอาวุธปลิดชีพของคนเลวที่เปล่งวาจาเหล่านั้นออกมานั่นเอง ดังคำคมชวนคิดประโยคหนึ่งที่บอกไว้ว่า
"คนฉลาดระวังคำพูดของตน คนโง่เท่านั้น แฉทุกอย่างที่ตนรู้ออกมาหมดซึ่งมีแต่ความโศกสลด และความยากลำบาก บางครั้ง…..การพูดความจริงอย่างหมดเปลือก…..ก็จะเป็นเรื่องที่เลวร้ายเกินกว่าการโกหกเหมือนกัน
ฉะนั้น ควรใช้ปัญญาไตร่ตรองอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด……….ความจริง เรื่องจริง พูดออกไปแล้วเดือดร้อนตนเองด้วย เดือดร้อนผู้อื่นด้วย
เงียบเสีย………….ไม่พูด………..จะไม่ดีกว่าหรือ…..?????"
แหม....ช่างโดนใจเสียจริง ประเดี๋ยวจะพิมพ์ให้ขนาดคำใหญ่ที่สุด เอาไปติดหน้าห้องทำงานให้มันรู้แล้วรู้รอดเสียเลย เพราะไม่ถือสา แต่ว่ารำคาญ หวังไว้ว่าในบางที ไม่ช้าไม่นานตัวมารนั้นจะตายเพราะคำพูดของตนนั่นเอง
ได้ข้อคิดดีอย่างมากครับ ขอบพระคุณมากครับ ที่แบ่งปันความคิดให้แด่กัน
ขอบคุณครับ..
ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่การ ไตร่ตรองและใคร่ครวญ ครับ
ทุกอย่างมีเหตุมีผลของมันครับ คำพูด หรือการกระทำ ของคนที่อิจฉาริษยาคนอื่น อาจทำให้เรากลุ้ม บ้าง แต่ถ้าเราวางทิ้งก็ไม่หนัก และผ่านไป ด้วยความดี และความจริงที่เราเป็น
แต่คนที่คิดอิจฉาริษยาคนอื่น ตัวเขาจะมีเพลิงสุมอกอยู่ตลอดเวลา เมื่อสำนึกได้เขาจะรู้เองว่าตัวเองนั้นน่าสงสารขนาดไหน