๘๐ ชีวิตบนโรงแรมวีแอล หาดใหญ่ ถ้าเหตุการณ์ปกติเราก็คงจะเดินผ่านไปผ่านมา คงจะไม่มีเหตุอะไรที่จะได้พูดคุยกัน หลายชีวิตทั้งชาวไทย ชาวจีน มาเลย์ สิงคโปร์ และชาวรัสเซีย ..
การนั่งมองน้ำที่ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่สามารถทำอะไรได้ ๑ คืนผ่านไป ๑ วันผ่านไป เข้าสู่วันที่ ๒ ความวิตกกังวลเริ่มเห็นได้ชัด ..
บางคนพยายามส่งข่าวกลับบ้านให้คลายกังวล บางคนรายงานสถานการณ์ด้วยระบบ social network ที่ยังพอใช้สื่อสารได้ ..
บางกลุ่มได้พูดคุยถึงเรื่องราวประสาเพื่อนในห้วงเวลาที่ผ่านมา ..
หลายๆ คนปรึกษาหารือเรื่องราวของสุขภาพ มาพักที่นี่เพราะมาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ไม่ห่างออกไปนัก เบาหวาน/ความดัน แผลผ่าตัด เด็กน้อยที่เป็นโรคน้ำในสมองมากเกินไป ฯลฯ
ระยะเวลาและบรรยากาศที่ถูกกดดัน เคร่งเครียด ในบางครั้งก็ทำให้เราได้รู้จักคนมากขึ้น ความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน หรือความเห็นแก่ตัว ..
บางกลุ่มก็พยายามติดต่อหาทางกลับบ้านให้ได้โดยโทรฯ ขอความช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม เมื่อได้รับความช่วยเหลือก็เดินออกไปโดยไม่ให้ความหวังกับผู้คนที่ยังอยู่ข้างหลัง ..
บางกลุ่มก็ดูแลตัวเองยังไม่พอ คอยดูแลผู้อื่นอย่างดีอีกด้วย เช่น ผู้ดูแลของโรงแรม เข้าใจว่าเธอมาที่นี่เฉพาะกิจช่วงน้ำท่วม เธอสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี มีรอยยิ้ตลอดเวลาให้กับแขก คอยบอกและเตือนเราทั้งเรื่องน้ำ เรื่องไฟฟ้า เรื่องอาหาร ทำให้พวกเราไม่วิตก ไม่เครียดจนเกินไป ..
กลุ่มขาวจีน มาเลย์ ยังสนุกสนานพูดคุยเสียงดังตลอดเวลาที่อยู่ในกลุ่ม และกลุ่มนี้นี่เองที่ช่วยเรียกเรือแพยางมารับพวกเราที่ด้านหน้าของโรงแรม ..
ถ้ายังต้องใช้ชีวิตสักระยะที่หาดใหญ่ คงได้รู้จักผู้คนมากขึ้น และได้รู้จักตัวเองมากๆ เช่นกัน ...
เห็นความเป็นจริงของชีวิต ความเป็นจริงของผู้คน ความเป็นจริงของสังคม
ความเป็นญาติพี่น้องกันของเพื่อนมนุษย์ อีกมากมายเลยนะครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์วิรัตน์