หนังสือที่ กบข.3040/5419/2553 ลงวันที่ 22 กันยายน 2553
เรื่อง ตอบข้อสงสัยและแนวทางการดำเนินการของสมาชิก กบข.ประเภทพนักงานมหาวิทยาลัย
เรียน รองศาสตราจารย์ ดร. สุชน ตั้งทวีวิพัฒน์
อ้างถึง หนังสือสภาพนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ ศธ 6392(14)/พิเศษ ลงวันที่ 15 กันยายน 2553
ตามหนังสือที่อ้างถึง สภาพนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ขอให้กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) พิจารณาแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการนำส่งเงินสะสมและเงินสมทบของข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยและเป็นสมาชิก กบข. ตามมาตรา 70/8 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 ในขณะที่กฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดบัญชีอัตราเงินเดือนยังไม่ได้ประกาศใช้บังคับ ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น
กบข. ขอเรียนชี้แจงดังนี้
1.ด้วยมาตรา 70/6 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 กำหนดให้สมาชิกซึ่งเปลี่ยนสถานภาพไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยและประสงค์จะเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่บทบัญญัติแห่งหมวดนี้ใช้บังคับ ยังคงมีสมาชิกภาพของสมาชิกต่อไป และให้นำบทบัญญัติในหมวด 3 ว่าด้วยสมาชิกและสิทธิประโยชน์ของสมาชิกมาใช้บังคับกับสมาชิกตามหมวดนี้โดยอนุโลมเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งหมวดนี้
ปรากฎว่า กฎกระทรวงกำหนดบัญชีอัตราเงินเดือนในการนำส่งเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามมาตรา 70/8 ยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่เพื่อไม่ให้สมาชิก กบข.เสียผลประโยชน์ จึงขอให้ข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. นำส่งเงินสะสม ตลอดจนเงินสมทบและเงินชดเชยตามอัตราที่กำหนดโดยใช้บัญชีอัตราเงินเดือนที่มีผลบังคับอยู่ในปัจจุบันไปพลางก่อน และเมื่อกฎกระทรวงดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็สามารถตกเบิกและนำส่งเงินเพิ่มเติมในภายหลังได้ อย่างไรก็ตามในส่วนผลประโยชน์ของเงินตกเบิกที่นำส่งเพิ่มเติมนั้น จะมีการคำนวณให้แก่สมาชิก กบข. ณวันที่มีการนำส่งเงินตกเบิกเพิ่มเติมเข้ามา
สำหรับสถานภาพการเป็นสมาชิก กบข. ของพนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยังคงมีอยู่ตลอดไป แม้กฎกระทรวงดังกล่าวจะยังไม่มีผลบังคับใช้ ตลอดจนสามารถนับเวลาราชการต่อเนื่องเพื่อคำนวณบำเหน็จบำนาญได้ โดยไม่ได้พิจาราณาจากการนำส่งเงินหรือไม่นำส่งเงินเข้า กบข.แต่อย่างใดทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรา 70/6 และมาตรา70/7 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539
2. กรณีการขอชลอหรือการหยุดส่งเงินสะสมเข้า กบข. เมื่อสถานการณ์ไม่เหมาะต่อการลงทุนหรือสมาชิกไม่พร้อมนั้น ปรากฎว่า มาตราที่ 39แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 กำหนดให้สมาชิก กบข. ส่งเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยให้ส่วนราชการเจ้าสังกัดเป็นผู้หักจากเงินเดือนของสมาชิก กบข. และนำส่งเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการในวันที่มีการจ่ายเงินเดือน จะเห็นได้ว่ากฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้สมาชิก กบข. สามารถเลือกที่จะชลอหรือหยุดนำส่งเงินสะสมเข้า กบข. ได้แต่อย่างใด ดังนั้นสมาชิก กบข.จึงไม่สามารถขอชลอหรือการหยุดส่งเงินสะสมเข้า กบข. ได้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
(นางศรีกัญญา ยาทิพย์)
ผู้ช่วยเลขาธิการกลุ่มงานสมาชิกสัมพันธ์
ปฎิบัติงานแทนเลขาธิการคณะกรรมการ กบข.
ไม่มีความเห็น