ต่อจากตอนก่อนครับ ครับ คนกลุ่มแรกที่จะทำ AI ได้ดีมากๆคือ คนที่อยากทดลองของใหม่ครับ...
เท่าที่ผมเจอ วิธีการส่่งเสริมคนกลุ่มนี้คือ
1. เขาอยากทำอะไร ทำโลดครับ...ทำไปเลย เราช่วยในด้านเอกสาร และด้านเทคนิคครับ ด้วยศักยภาพของเขา ความกล้า ถ้าเสนอให้ทำโครงการท้าทายประเภท Pioneer เขาจะรับครับ...เพราะฉะนั้นสามารถคิดการณ์ใหญ่แต่แรกได้ครับ
2. ตัวกระบวนกร (AI Coach) เองต้องฝึกผนตนเองให้ไปไกลๆ พอครับ..จึงจะมีประสบการณ์เพียงพอที่จะไปสอนคนกลุ่มนี้ได้นะครับ.หาประเด็นใหม่ๆมานำเสนอ มาคุยเรื่อยๆ...ถ้ายังไม่พอก็ดูข้อสามครับ คือ..เรียนรู้ด้วยกันไปโลดเลย
3. คุณเองจะได้โอกาส "เรียนรู้" ไปกับเขาครับ..กลายเป็นความสัมพันธ์แบบร่วมกันเรียน ร่วมกันรู้ครับ...เพราะเขาจะทำเรื่องใหม่ ที่ใหม่แม้กระทั่งคุณเองด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นความท้าทายมากๆครับ...ผมเองก็เรียนรู้จากคนกลุ่มนี้เยอะมากๆครับ....
4. ความท้าทายจริงๆของคนกลุ่มนี้คือ...เขาทำโครงการ AI เสร็จแน่นอน...แล้วคุณจะพบว่าเขาเก่งมากๆ มากจนเสียดายว่า จะจบเท่านี้เหรือ สิ่งที่ AI Coach อาจทำคือกระตุ้นให้เขาทำโครงการต่อไปในภาพใหญ่ขึ้นครับ...คือ Dream หรือสร้างวิสัยทัศน์ให้ไกลกว่าเดิม...ทำอย่างไรจะยังมีรักษา Momentum ครับ...ผมเองใช้เทคนิคง่ายๆคือ ให้เขาได้มีโอกาสสอนเพื่อนจะได้เก่งขึ้น หรือไม่ก็ส่งเสริมให้ตั้งเครือข่ายใหม่ไปเลยครับ...
5. จบไปแล้วผมยังแนะนำคนในเครือข่ายรุ่นใหม่ให้รู้จัก จะได้ยัง Active จุดประกายกันไปมาได้อีกครับ...
.........
ครับเป็นแนวทางบริหารฉันทะของกลุ่มเราครับ...ถ้าทำให้คนรักษาฉันทะได้ ที่เหลือวิริยะ จิตตะ วิมังสา มาเองครับ...
.......
คุณล่ะคิดอย่างไร
อ.โยครับ
ผมว่าหัวใจสำคัญที่จะนำมาสู่ "ฉันทะ" ได้ อยู่ที่ dare to fail ครับ
ซึ่งสังคมไทยเราเป็นสิ่งที่น่ากลัวครับ
ใครกล้าผ่านตรงนี้ไปได้ก็ โอเค ครับ
เรียนท่านอาจารย์ที่นับถือ
เมื่อวานไปศึกษาภัณฑ์ก็หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านค่ะ แต่ไม่ได้ซื้อค่ะ(ประหยัดตังค์)
ขอบคุณมากครับท่านอาจรย์
เรื่อง dare to fail นี่เอาไปเขียนต่อได้อีกครับ
ขอบคุณมากครับคุณยายครับ..