การตัดสินใจทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ อย่างง่าย


การตัดสินใจทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ อย่างง่าย

 

การตัดสินใจอย่างมีระบบ

หลายๆท่านเคยไหมที่เวลาซื้ออะไรแล้วรู้สึกว่า เราเลือกไม่ถูกว่าจะซื้ออะไรดี แล้วอะไรละที่ดีที่สุดสำหรับเรา ยิ่งถ้าสิ่งของที่ต้องการซื้อนั้นมีมูลค่าที่สูง ก็จำเป็นอย่างมากที่ต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบที่สุด และ ครอบคลุมทุกด้าน ดังนั้น ผมจึงนำเรื่องการตัดสินใจอย่างมีระบบมาให้นำเสนอ เพื่อให้เป็นแนวทางในการตัดใจสิน เลือกที่จะซื้อ เลือกที่จะทำ เลือกที่แก้ไข เลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นเอง มาดูกันเลย

เช่น วันหนึ่ง นาย ก. ต้องการซื้อรถยนต์ ไว้ขับไปทำงาน และ ไปหากิ๊ก เขาได้เลือกที่จะซื้อรถประเภท รถเก๋ง เขาได้เลือกรถที่เขาถูกใจไว้แล้ว3คันแต่เลือกไม่ถูกจะซื้อคันไหนดี นั้นก็คือ

1. HONDA - CIVIC - 1.8 i-VTEC AT ราคา 848,000 บาท

2.TOYOTA - YARIS - 1.5 [E] AT ราคา 519,000 บาท

3.MAZDA - 3 - 5Dr 2.0 AT ราคา 769,000 บาท

ก่อนอื่นเราต้องดูเชิงปริมาณก่อน โดยการเรียงลำดับราคาของแต่ละคัน แล้วก็ให้คะแนนตามลำดับ ดังนี้

ลำดับที่เชิงปริมาณ

คะแนนที่ได้

ลำดับที่1. TOYOTA - YARIS - 1.5 [E] AT ราคา 519,000 บาท

3

ลำดับที่2 MAZDA - 3 - 5Dr 2.0 AT ราคา 769,000 บาท

2

ลำดับที่3 HONDA - CIVIC - 1.8 i-VTEC AT ราคา 848,000 บาท

1

จากการวิเคราะห์เชิงปริมาณนั้นจะเห็นได้ว่า รถ TOYOTA – YARIS น่าซื้อที่สุดเพราะถูกสุด แต่แค่เชิงปริมาณยังไม่พอที่จะตัดสินใจซื้อของระดับ เป็นแสนได้ คุณยังต้อง วิเคราะห์เชิงคุณภาพด้วย มาดูกันดีกว่านะ

การตัดสินใจเชิงคุณภาพ

1.เราต้องเขียนปัจจัยที่เราต้องการจากรถที่ต้องการซื้อว่ามีอะไรบ้าง เช่น ความประหยัดน้ำมัน ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย เป็นต้น

2.คุณก็ กำหนดวิธีการให้คะแนนของคุณ เช่น ดีมาก=4 ดี=3 ปานกลาง=2 เฉยๆ=1 แย่=0

3.แต่ละปัจจัยในการซื้อรถนั้น มีความสำคัญต่างกัน คุณต้องมีการกำหนดค่านัยสำคัญของแต่ละปัจจัย เช่น ความประหยัดน้ำมัน ยุคนี้น้ำมันแพง มีความสำคัญมาก ให้ค่านัยสำคัญไปเลย0.5 ความสะดวกสบาย เอาไปสัก 0.3 ความปลอดภัย มีบ้างก็ดี ให้นัยสำคัญไว้สัก 0.2 การให้นัยสำคัญนั้น เมื่อรวมกันทุกปัจจัยต้องได้เท่ากับ 1 หรือ 100% เต็ม จึงจะดี

คงจะ งงๆ กันแล้ว มาดูตัวอย่างดีกว่า

 

ปัจจัย

ค่านัยสำคัญ

คะแนนที่ให้

คะแนนxนัยสำคัญ

YARIS

MAZDA3

 CIVIC

YARIS

MAZDA 3

CIVIC

การประหยัดน้ำมัน

0.4

4

2

4

1.6

0.8

1.6

เหมาะกับการใช้งาน

0.2

4

3

3

0.8

0.6

0.6

ความสวยงาม

0.2

3

4

3

0.6

0.8

0.6

ความปลอดภัย

0.1

3

3

3

0.3

0.3

0.3

ประสิทธิภาพเครื่องยนต์

0.1

3

4

3

0.3

0.4

0.3

รวม

1

17

16

16

3.6

2.9

3.4

 

จากตารางข้างบน เราได้ทำการให้คะแนนรถทั้ง3ยี่ห้อ ตามความคิดเห็นของเราเอง แล้วนำคะแนนที่ได้ไปคูณกับค่านัยสำคัญ ก็จะได้ค่าที่เราสามารถนำมาใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อรถได้แล้ว นำรถทั้ง3ยี่ห้อ มาเรียงตามลำดับคะแนนดังนี้

TOYOTA – YARIS ได้ 3.6 คะแนน

HONDA – CIVIC ได้ 3.4 คะแนน

MAZDA – 3 ได้ 2.9 คะแนน

จากทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ จะเห็นได้ว่า TOYOTA – YARIS น่าจะซื้อที่สุด แต่แค่นี้ยังไม่พอ เอาให้ชัวร์ คุณต้องนำผลการวิเคราะห์จากทั้ง เชิงปริมาณ และ เชิงคุณภาพ มารวมกัน ซึ่งเราต้องทำให้ทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณเป็นหน่วยเดียวกันสะก่อน โดยการให้คะแนนตามลำดับ ดังนี้

ลำดับที่เชิงคุณภาพ

คะแนนที่ได้

ลำดับที่1. TOYOTA - YARIS - 1.5 [E] AT

3

ลำดับที่2 MAZDA - 3 - 5Dr 2.0 AT

2

ลำดับที่3 HONDA - CIVIC - 1.8 i-VTEC AT

1

 

จากนั้น นำคะแนนจากการเรียงลำดับทั้งเชิงปริมาณ และ เชิงคุณภาพ มารวมกัน

ลำดับที่

คะแนนเชิงปริมาณ

คะแนนเชิงคุณภาพ

รวม

ลำดับที่1. TOYOTA - YARIS - 1.5 [E] AT ราคา 519,000 บาท

3

3

6

ลำดับที่2 MAZDA - 3 - 5Dr 2.0 AT ราคา 769,000 บาท

2

2

4

ลำดับที่3 HONDA - CIVIC - 1.8 i-VTEC AT ราคา 848,000 บาท

1

1

2

จากตารางรวม เป็นที่ชัดเจนว่า TOYOTA – YARIS มีความน่าซื้อที่สุด ทั้งเชิงปริมาณ และ คุณภาพ

แน่นอนว่า สิ่งที่ต้องการซื้อไม่ใช้สิ่งที่ดีที่สุด แต่ เป็นสิ่งที่เหมาะกับเรามากที่สุด วิธีการตัดสินใจนี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อของได้อย่างตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด จุดหลักก็คือ คุณต้องเขียนปัจจัยทั้งหมดที่คุณต้องการให้ครบถ้วน แล้วให้น้ำหนักความสำคัญแต่ละปัจจัยอย่างถูกต้อง แค่นี้ คุณก็จะได้ สิ่งที่คุณต้องการ

วิธีการตัดสินใจแบบนี้ประยุกต์มาจาก ABC Classification เป็นวิธีที่ง่าย สะดวก ไม่ต้องคิดเยอะก็แค่จัดเรียงตามลำดับความสำคัญเท่านั้นเอง คนทั่วๆไป สามารถประยุกต์นำไปใช้ได้กับการตัดสินใจทุกๆอย่าง

ขอบคุณที่อ่านครับ

หมายเลขบันทึก: 404769เขียนเมื่อ 27 ตุลาคม 2010 01:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 15:18 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

พูดยากนะครับ บางครั้งกำลังซื้อก็เป็นตัวกำหนดมาก ความสวยของรถก็เกี่ยวข้อง แต่ละคนมีปัจจัยตัดสินใจไม่เหมือนกัน น้อยคนนักจะคำนวณรายละเอียดแบบนั้น

ใช่ครับ น้อยคนที่จะทำการคำนวณอย่างละเอียด วิธีนี้ใช้กับการตัดสินใจเลือกซื้อ เครื่องจักรราคาแพง ที่ดินในการสร้างโรงงาน เป็นหนึ่งหลักการของ Logistics and supply chain management แต่ หลักคิดมันง่ายมากครับ ก็คือ การจัดเรียงเอาสิ่งน่าซื้อมาไว้อันดับแรก โดยดูเรื่องของราคา และ คุณภาพ เท่านั้นเองครับ ต้องอภัยที่เขียนอ่านยากไปหน่อยครับ

สวัสดี ครับ คุณอภิชิต

น่าสนใจมากนะครับสำหรับแนวคิดนี้

จะนำไปใช้ในการทำงานของผมได้นะครับ

แต่เออ...สามารถไปวัดกับคน กับ สิ่งของอื่นได้ไหมครับ

เช่น การเลือกคู่ครอง

ล้อเล่นครับ...

ขอบพระคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะครับ

สวัสดีครับ คุณ ทิมดาบ

ฮ่าๆๆ เอาไปเลือกคู่เลยเหรอครับ จะดีเหรอครับ แต่ก็ได้นะครับถ้า คุณคบกับแฟนคุณแบบทุนนิยม รักแท้แพ้เงินตรา ก็นับว่ายกเว้นการเลือกคู่ไปละกันครับ

วิธีนี้ เหมาะเอาไปใช้กับ พวกสิ่งของ เลือกลำดับความสำคัญของงาน ซื้อเครื่องจักร ซื้อที่ดิน เลือกที่ทำงาน

ในส่วนการวัดคนอาจจะใช้วัดไม่ได้ทั้งหมดครับ คงต้องหลายส่วนมาประกอบกัน

แต่การเลือกรับพนักงานเข้าบริษัทใช้วิธีนี้ได้ เพราะ เราจำเป็นต้องเลือกคนจากทั่วประเทศ ต้องดูแค่ปัจจัยที่เราต้องการเท่านั้น จะทำให้การเลือกบุคคลเข้ามาทำงานได้อย่างโปร่งใส ยุติธรรมครับ และ ได้บุคคลที่องค์กรต้องการมากที่สุด จะเห็นว่าเวลาเราไปสัมภาษณ์งาน คนที่สัมภาษณ์จะให้คะแนนอะไรสักอย่าง เขาก็ใช้หลักการนี้ละครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท