ตักบาตรเทโว ในปี 2553 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2553 ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 วัดนาขุม หมู่ 7 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้จัดขึ้นตามประเพณีสืบต่อกันมา มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมาทำบุญจนศาลาของวัด เมื่อสมัยผู้เขียนยังเด็กๆ (2530) ภูมิใจอย่างยิ่งที่วัดบ้านเกิดมีศาลาที่ใหญ่โตกว่าวัดอื่นๆ ในหมู่บ้านใกล้เคียง แต่ปัจจุบันกลายเป็นศาลาที่คับแคบแล้ว ด้วยหมู่บ้านมีประชากรมาก อีกทั้งลูกหลานที่จากถิ่นฐานบ้านเกิดไปทำงานทั่วทุกสารทิศ ได้มาลูกหลานกลับมาทำบุญที่บ้านเกิด
งานบุญครั้งนี้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลก จากเรื่องเล่ามีอยู่ว่าพรรษาที่ 7 นับแต่วันตรัสรู้ พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อเทศน์โปรดพระพุทธมารดา ที่ได้กำเนิดเป็นเทพบุตรอยู่ในชั้นดุสิต เมื่อออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 จึงเสด็จลงจากเทวโลก ทุกภพจะเห็นพระพุทธองค์ และเห็นกันเองทุกภพ รวมทั้งพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงเปล่งฉัพพรรณรังสี ขณะที่พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทุกวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 พุทธศาสนิกชนจึงพากันทำบุญตักบาตร เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น จึงนิยม ตักบาตรเทโว กันจนเป็นประเพณีสืบมาตราบเท่าทุกวันนี้
งานตักบาตรเทโวของบ้านนาขุมครั้งนี้ ดูจะเงียบเหงาไปนิด เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมนาข้าวเสียหายหลายไร่ อีกทั้งก่อนงนบุญฝนตกลงมาสนามหญ้าหน้าวัดเปียกแฉะ พระครู สุจิณวรธรรม เจ้าอาวาสวัดนาขุม และเจ้าคณะตำบลท่าช่าง จึงให้ใส่บาตรอาหารแห้งบนถนนจากศาลาวัด-โบสถ์ ซึ่งเป็นพื้นที่คับแคบ ผู้เขียนได้แต่นึกในใจว่า ถ้ามีผู้มีจิตศรัทธาปรับสภาพสนามวัดให้แน่นและสูงกว่าเดิมเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังคงจะดีกว่านี้แน่ ซึ่งจะออกความคิดเห็นให้พระอาจารย์ฟังผู้เขียนเองก็ไม่มีกำลังเพียงพอที่จะหาทุน จะได้ก็เพียงแต่คิดเท่านั้น
งานบุญครั้งนี้ เป็นเหมือนข้อบงบอกถึงทุนทางสังคมของชุมชนบ้านนาขุมที่มีความเหนียวแน่น มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเดียวกันคือวัดนาขุม ทุกคนมีจิตใจที่มุ่งมั่นด้วยจิตศรัทธา และรอยยิ้มให้กันยามพบหน้า เป็นเสน่ห์ดึงดูดพี่น้องประชาชนให้กลับบ้านเกิดเมืองนอนไม่ว่าจะจากไปทำงานที่ใดก็ตาม เพื่อเข้ามาทำบุญที่วัดในเทศกาลต่างๆ ผู้เขียนขออนุโมทนาสาธุในกุศลจิตทุกๆ ท่านที่ร่วมทำบุญไม่ว่าจะทำที่วัด หรือที่ใดๆ ก็ตาม...สาธุ...สาธุ
มาแวะเยี่ยมชมค่ะ...ขอบตุณนะคะ..ที่ทักทายกัน
ตัวหนังสือในบันทึก ถ้าโตกว่านี้จะดีสำหรับคนวัยทองมากเลยค่ะ..อิอิ