ความรักอันยิ่งใหญ่.... หัวใจที่กล้าแกร่ง


ฉือจี้ไต้หวัน มูลนิธิเพื่อสังคม

                                                                                                                                                                                                       

             ความรักอันยิ่งใหญ่...

                 ... หัวใจที่กล้าแกร่ง

                                                                 โดย..ทวีศรี  จันทร์เอี่ยม

 

           ก้าวแรกที่เหยียบย่างลงบนผืนแผ่นดินเกาะ ไต้หวัน   สิ่งแรกที่ได้สัมผัสและรู้สึกประทับใจคือ การต้อนรับจากอาสาสมัครของมูลนิธิพุทธฉื้อจี้ด้วยรอยยิ้มที่สดใส       อากัปกิริยาที่นุ่มนวล  และแววตาที่เปี่ยมด้วยความรัก  ความเมตตา  ที่มีต่อแขกผู้มาเยือน   แม้จะสื่อสารกันคนละภาษาแต่พวกเราก็รู้สึกอบอุ่นถึงไมตรีจิตของอาสาสมัครฉือจี้ทุกคนที่ดูแลพวกเราตลอดระยะเวลาที่ศึกษาดูงาน  ตั้งแต่วันที่ 31  มีนาคม ถึง   วันที่  4  เมษายน   2551     

            จากการได้ศึกษาข้อมูลการทำงานตามภารกิจของมูลนิธิฉือจี้   ซึ่งมีภารกิจหลักอยู่  4  ประการคือ              

  1. ด้านการกุศล

  2. ด้านการศึกษา

  3. ด้านการพยาบาลและสาธารณสุข

  4. ด้านมนุษยธรรม

         สำหรับภารกิจด้านการศึกษานั้นมีสถาบันทางการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับมหาวิทยาลัยที่อยู่ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิฉือจี้   จำนวน  6  แห่ง   ซึ่งตั้งอยู่ที่เกาะไต้หวัน  จำนวน  5  แห่ง  และตั้งอยู่ที่ประเทศไทย  1  แห่ง  ( อ.ฝาง   จ.เชียงใหม่)  การจัดการศึกษาทุกระดับยึดหลักการเรียนรู้โดยการลงมือปฏิบัติ   แบบ “ เรียนไปด้วยทำไปด้วย   ทำไปด้วยเรียนไปด้วย ”   จนกลายเป็นวิถีชีวิตของทุกคน   ดังจะเห็นได้จากการสาธิตการสอนวาทะธรรม       เป็นการสอนของคุณแม่รักใหญ่ (Da-Ai Mom)   ซึ่งเป็นผู้ปกครองอาสาสมัครของมูลนิธิฉือจี้  เป็นอาสาสมัครที่เข้าใหม่ไม่เกิน 2 ปี  โดยได้รับการฝึกอบรมในด้านการเล่านิทาน  การทำสื่อ การสอนวาทะธรรม เดือนละ 1 ครั้ง    จากนั้น   คุณแม่รักใหญ่จะเข้าไปช่วยสอนนักเรียนเมื่อเวลาที่ครูไปประชุม  หรือเวลาที่ครูไม่อยู่   โดยมีวิธีการสอน   5   ขั้นตอน ดังนี้ 

       1. ขั้นตระหนักรู้      คือการนำวาทะธรรมมาให้นักเรียนได้อ่าน ผ่านสื่อที่น่าสนใจ เช่น ทำเป็นแผนภูมิ อย่างสวยงาม แสดงคำคมเป็นประโยค

      2. ขั้นเรียนรู้    คือการให้นักเรียนได้เรียนรู้ให้ได้รายละเอียดด้วยความรู้สึกของตนเอง  เช่น  เล่านิทาน หรือแสดงละครตามเนื้อหาของวาทะธรรม และประกอบท่าภาษามือ

     3.ขั้นตั้งคำถามเพื่อให้มีจิตใจจดจ่อโดยการตั้งคำถามให้นักเรียนได้ตอบคำถามตามเนื้อเรื่องในบทละคร หรือนิทาน   เพื่อให้นักเรียนมีใจจดจ่อ ตั้งใจฟัง ตั้งใจดู มีการให้รางวัลแก่นักเรียนที่ตอบได้

    4.ขั้นหาข้อสรุป    โดยให้นักเรียนแบ่งกลุ่มปรึกษา    ร่วมกันอภิปรายวิธีการ

นำไปใช้ ให้คิดวิเคราะห์    เพื่อตอบคำถาม ให้เชี่ยวชาญลึกซึ้ง

    5.ขั้นลงมือปฏิบัติ    โดยเริ่มต้นที่ตนเอง ทำไปด้วยเรียนรู้ไปด้วย     จากนั้นขยายเครือข่ายไปสู่เพื่อน   คนรอบข้าง   จนสามารถนำไปใช้เป็นวิถีชีวิตของทุกคนนอกเหนือจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมให้นักเรียน   ครู  และผู้ปกครองได้ทำ

ร่วมกัน   เช่น   วันเกิด   วันครู  วันปิดภาคเรียน  การพาไปออกค่ายผจญภัย        การพาไปเยี่ยมบุคคลสำคัญในครอบครัว     เยี่ยมบ้านเพื่อนนักเรียนด้วยกัน       เพื่อก่อให้เกิดความสัมพันธ์และความประทับใจซึ่งกันและกัน       

จะเห็นได้ว่าการจัดการศึกษาภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิฉือจี้  ประสบ

ความสำเร็จอย่างยั่งยืน และเป็นที่ชื่นชมแก่คนทั่วโลก       เกิดจากความรักอันยิ่งใหญ่ที่ทุกคนมีให้แก่กัน  ดังคำกล่าวของประธานสมาคมครูฉือจี้  ที่บอกว่า.......

       - ใช้ความรักบริหารครู (The Trustworthiness and feasibility of Education Road)

       - หัวใจครูเหมือนหัวใจพระโพธิ์สัตว์ (Teacher’s mind is just like Bodhisattva’s mind)

      - รักลูกคนอื่นเหมือนเป็นพ่อแม่เอง

       สุดท้ายนี้  ขอขอบคุณชาวฉือจี้ทุกท่านที่ได้มอบความรักอันยิ่งใหญ่ให้แก่พวกเรา ทำให้เข้าใจความหมายของความรักอย่างลึกซึ้ง       และจะพยายามช่วยเหลือมวลมนุษยชาติด้วยความรักให้มากที่สุด

 

                     ******************************

 

 

หมายเลขบันทึก: 403660เขียนเมื่อ 20 ตุลาคม 2010 06:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 16:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท