KM ใน มวล.


เริ่มด้วยความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ
KM ใน มวล.
ผมได้รับ อี-เมล์ จาก รศ. สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์  รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ม. วลัยลักษณ์ เมื่อวันที่ ๑๑ กย. ๔๘ ดังนี้
เรียน ท่านอาจารย์ วิจารณ์  ที่เคารพอย่างสูง
ตามที่ท่านอาจารย์ได้กรุณาให้ข้อแนะนำกระผมเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือ
KM ในการที่จะสร้างจิตวิญญาณ พลังในด้านจิตใจของพนักงานในการทำงานเพื่อองค์กร
ซึ่งจะนำไปสู่การมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี
ซึ่งกระผมก็ได้เริ่มหัดเดินเกี่ยวกับการทำ KM
และได้รับความกรุณาจากท่านอาจารย์ให้คุณธวัช และคุณอุรพิน มาช่วยนั้น
กระผมอยากเรียนท่านอาจารย์ว่า
กระผมได้พัฒนาขึ้นเป็นโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่แนวทางการปฏิบัติงานที่ดีเพื่อวลัยลักษณ์
โดยได้ดำเนินการรุ่นที่ 1 ไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ส.ค. และ 4-6 ก.ย. รวม 4 วัน
ซึ่งกระผมได้เลือกกลุ่มคุณกิจ (เริ่มจากพนักงานสายสนับสนุนก่อน) ที่ทำงานดีมากๆ
เข้ามาร่วมโครงการประมาณ 50 คน
และได้นำกิจกรรมสัมพันธ์มาผสมผสานกับการให้ความรู้และเรียนรู้เครื่องมือต่าง ๆ
ของ KM ปรากฏว่าได้ผลอย่างดียิ่งมากเลยครับ
เพราะพนักงานที่มาเข้าร่วมโครงการเกิดความรักและเห็นความสำคัญของการทำ KM
และที่สำคัญมีกำลังใจ
และมีพลังอย่างมากที่จะมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อมหาวิทยาลัย
และจะนำความรู้เกี่ยวกับ KM ไปขยายผลต่อในหน่วยงานของตน
หรือในกลุ่มงานที่ตนเกี่ยวข้องอยู่ จากการที่ได้มีการทำ AAR
ซึ่งกระผมดีใจมากที่ผลออกมาเป็นเช่นนั้น
เพราะจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อวลัยลักษณ์ในการที่จะเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพในการใช้
เครื่องมือต่างๆ ในเรื่องการพัฒนาองค์กรต่อไป
ตอนนี้พนักงานส่วนใหญ่ให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องนี้
ซึ่งกระผมได้วางแผนและเตรียมดำเนินการในรุ่นที่ 2 แล้ว
และคาดว่าจะปฏิบัติการได้ในประมาณเดือน พ.ย. นี้
กระผมหวังว่าจะได้รับความกรุณาจากท่านอาจารย์เช่นเดิม
ท้ายนี้กระผมใคร่ขอขอบพระคุณอย่างสูงในข้อแนะนำของท่านอาจารย์ที่ให้กระผมมาโดยตลอด
กระผมจะพยายามหัดเดินต่อไปเกี่ยวกับเรื่อง KM
เพื่อวลัยลักษณ์ และในที่สุดกระผมคิดว่าเราคงวิ่งได้แน่นอน
ด้วยความเคารพอย่างสูง
สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์
มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

 
ผมเป็นกรรมการสภา มวล. มานานนับสิบปี   และเคยไปรักษาการอธิการบดีอยู่ ๔ เดือน    ก่อนที่
จะได้ ศ. ดร. นักสิทธ์ คูวัฒนาชัยไปเป็นอธิการบดีตัวจริง    จึงมีความรักและผูกพันต่อ มวล. 
เป็นพิเศษ    เมื่อได้ข่าวดีเช่นนี้จึงนำมาบอกต่อ    จะเห็นว่าการประยุกต์ใช้ KM อย่างชาญฉลาด 
จะช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่คนรักองค์กร และรัก เคารพซึ่งกันและกัน    แต่เรื่องวัฒนธรรมต้อง
มีการทำซ้ำๆ จนเป็นวิถีชีวิตร่วมกัน    จึงคงต้องใช้เวลาสัก ๓-๔ ปี จึงจะมั่นใจได้ว่าเกิดการ
เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร
ใคร่ขอแนะนำ ท่านอธิการบดี ดร. สุพัฒน์ พู่ผกา และท่านรองอธิการบดี สมนึกให้ มวล. สมัคร
เป็นสมาชิก UKM ครับ    จะได้เพื่อนร่วมขบวนการ    ได้ ลปรร. ระหว่างกัน    ถ้าสนใจติดต่อได้ที่
ประธานประสานงานเครือข่าย รศ. นพ. อภิชาติ ศิวยาธร  siasv@mahidol.ac.th   
วิจารณ์ พานิช
๑๘ กย. ๔๘

หมายเลขบันทึก: 4032เขียนเมื่อ 18 กันยายน 2005 06:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน 2012 16:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท