เราไปฟังการบรรยายเรื่อง มขข. โดยคุณเดชา ประธาน มขข. และเรื่อง รร. ชาวนาแต่ละโรง รวม ๔ แห่ง นำเสนอโดยตัวแทนนักเรียนชาวนา ที่สำนักงาน มขข. ตั้งแต่ ๙.๑๕ น. จนถึงเวลาเที่ยงจึงเดินทางไป อ. ดอนเจดีย์ เพื่อกินอาหารเที่ยงฝีมือชาวนา และฟังการบรรยายสรุปเรื่องกิจกรรมของ รร. ชาวนา ต. หนองแจง ซึ่งมีลักษณะพื้นที่ต่างจาก รร. ชาวนาอีก ๔ แห่งที่เป็นเขตนาน้ำฝน ไม่มีชลประทาน นักเรียนชาวนาจึงต้องเรียนปฏิบัติโดยการทดลองปลูกข้าวในกระถาง
นักเรียน รร. ชาวนาบ้านหนองแจง เตรียมตัวต้อนรับคณะเราเต็มที่ คุณชมพู่ (ชลสรวง พลแสน) “คุณอำนวย” ประจำ รร. ถึงกับไปนอนที่นั่นเพื่อเตรียมความพร้อมให้เราไปดูที่จุดทดลอง แต่ฝนที่ตกหนักในช่วง ๒ วันที่ผ่านมาทำให้รถตู้เช้าไม่ได้ เราเลยฟังการบรรยายสรุปกัน ณ จุดรับประทานอาหารเที่ยงนั่นเอง
ที่ อ. อู่ทอง เราไปเยี่ยมชมกิจกรรมของนักเรียนชาวนา ต. บ้านดอน ๒ บ้าน คือบ้านของ คุณประทิน ห้อยมาลา กับคุณ -- ได้เห็นวิธีเตรียมหัวเชื้อจุลินทรีย์หลากหลายวิธี ทั้งแบบใช้ใบไผ่ และใช้ดินปลวกผสมรำทำเป็นก้อน เราได้มีโอกาสดมกลิ่นหอมของหัวเชื้อจุลินทรีย์แต่ละแบบซึ่งหอมต่างกัน และได้รับแจกน้ำหมักจุลินทรีย์ ฮอร์โมน สารกำจัดเชื้อรา ข้าวสาร ที่นักเรียน รร. ชาวนาผลิตเองทั้งสิ้น นอกจากนั้นยังได้ไปชมแปลงนาพัฒนาพันธุ์ข้าวที่นักเรียนชาวนาดำเนินการตามแบบของ มขข. ซึ่งเพิ่งดำนาไปเพียง ๗ วัน โดยดำที่ละต้นเดียวตามที่ มขข. บังคับ เราได้เห็นสาหร่ายที่ชาวบ้านเรียกว่าเทา อยู่ในแปลงนา ชาวบ้านบอกว่าถ้าดินไม่สมบูรณ์จะไม่มีเทา เทานี้เอามายำกินได้
ผมดีใจที่วันนี้ผมได้ทำตามสัญญากับนักเรียนชาวนา ต. บ้านดอน และ บ้านหนองแจง ว่าจะไปเยี่ยม บัดนี้ผมได้ไปเยี่ยม รร. ชาวนาครบทั้ง ๔ แห่งแล้ว แต่ยังเสียดายที่ไม่ได้ลงพื้นที่ของบ้านหนองแจง ผมจะหาโอกาสไปเยี่ยมถึงที่ให้ได้
คุณเดชา ศิริภัทร ย้ำอีกว่าอยากให้ “บัณฑิตชาวนา” ที่จบ ระดับ “อุดมศึกษา” ได้รับ “ปริญญา” จากสมเด็จพระเทพฯ ผมคิดว่าความฝันนี้อาจใกล้ความจริงเข้ามา เพราะว่าผู้ที่ไปเยี่ยมและชื่นชมต่อผลงานของ รร. ชาวนาในวันนี้เป็นผู้ใกล้ชิดพระยุคลบาท สามารถกราบบังคมทูลได้ ผมได้มีโอกาสกำชับนักเรียนชาวนาที่บ้านหนองแจงว่าให้ตั้งใจเรียนให้ดี อาจได้รับ “ปริญญา” จากพระหัตถ์สมเด็จพระเทพฯ
ดร. ศิริพร บอกว่า สกศ. (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา) จะหาทางไปทำวิดีโอกิจกรรมของ รร. ชาวนา เพราะเป็นเรื่องภูมิปัญญา และได้ขอให้ผมเขียนเรื่องสั้นๆ เกี่ยวกับความซาบซึ้งของนักเรียน รร. ชาวนาที่ได้เข้าเฝ้าถวายรายงานในงานนิทรรศการที่สถาบันวิจัยโภชนาการ เมื่อวันที่ ๑๖ สค. ๔๘ ลงในหนังสือที่ สกศ. กำลังจัดพิมพ์เฉลิมฉลองพระชนมายุ ๕๐ พรรษา สมเด็จพระเทพฯ ดร. ศิริพร ตั้งข้อสังเกตว่านักเรียนชาวนาทุกคนมีสีหน้าที่แสดงความสุข
ศ. ดร. สิปปนนท์ แนะนำว่า จะให้ KM ได้เป็นประโยชน์แก่ชุมชน – ประชาสังคมไทย จะต้องหาทางให้กระทรวงมหาดไทย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าใจ ท่านยังให้ความเห็นว่าควรทำความตกลงการใช้คำภาษาไทยแทน tacit knowledge และ explicit knowledge ให้ใช้ตรงกันได้แล้ว จะได้ไม่สับสน ท่านชอบ "ความรู้ฝังลึก" มากกว่า ความรู้ซ่อนเร้น เพราะคำว่าซ่อนเร้นดูจะจงใจซ่อนและมีเจตนาไม่ดี แต่คำว่าฝังลึกมีความหมายไปทางธรรมชาติของความรู้นั้นเอง ส่วน explicit knowledge ท่านชอบคำว่า "ความรู้แจ้งชัด"
นายก อบต. ซึ่งเป็นบัณฑิตเทคนิคการแพทย์จาก ม. มหิดล และกำลังเรียนปริญญาโทเกี่ยวกับการบริหาร อบต. กับ มข. แต่เรียนที่กาญจนบุรี บอกว่าการที่มีผู้ใหญ่มาเยี่ยมชมและให้กำลังใจเช่นนี้มีประโยชน์มาก ทำให้นักเรียนชาวนาเกิดความมั่นใจ และภูมิใจ ยิ่งขึ้น
คุณเดชาเล่าว่า ผวจ. สุพรรณบุรีเรียกไปคุย และบอกว่าต้องการให้ช่วยขยายงานส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ออกไปให้เต็มพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ต้องการงบประมาณเท่าไรให้เสนอมา มขข. ได้เสนอที่จะดำเนินการ รร. ชาวนา ๑๐๐ โรง มีชาวนาเข้าโครงการ ๕,๐๐๐ คน พื้นที่นา ๒๕,๐๐๐ ไร่ ผลิตพันธุ์ข้าวอินทรีย์ สำหรับไปใช้กับแปลงนา ๑๕๐,๐๐๐ ไร่
เลขาธิการสภาพัฒน์ ดร. อำพน สนใจเรื่องเงิน SML ที่รัฐบาลส่งลงไปให้ชุมชนเป็นพิเศษ คอยสอบถามชาวบ้านว่ามีการปรึกษาหารือเพื่อนำไปใช้ทำประโยชน์จริงจังต่อส่วนรวมแค่ไหน ดูท่านจะอยากให้เอามาใช้ส่งเสริมกิจกรรมเกษตรอินทรีย์และการเรียนรู้แบบ รร. ชาวนานี้
อ. สุวรรณี พรหมจันทร์ จากสถาบันวิจัยโภชนาการ มม. ศูนย์จังหวัดอุบลฯ บอกว่ามองเห็นพลังของ KM ที่จะไปใช้เป็นเครื่องมือทำงานของนักพัฒนาชุมชนในภาคอีสาน และอยากให้ สคส. ช่วยฝึกให้ เรายินดีนะครับ คุณอ้อมจะเป็นผู้ประสานงานครับ
ค่ำวันนี้ (๑๗ กย.) ผมนั่งเครื่องบินกลับจากหาดใหญ่ มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกผมว่า ศ. ดร. สิปปนนท์ เอาเรื่อง รร. ชาวนาไปเล่าในการประชุมในสภามหาวิทยาลัยทักษิณในวันนี้
นับว่าการพาผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไปเยี่ยม รร. ชาวนา ครั้งนี้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี
วิจารณ์ พานิช
๑๗ กย. ๔๘
ไม่มีความเห็น