ภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน จัดระเบียบคนเร่ร่อนขอทาน ในกทม.

 

 

    ตั้งแต่งานแถลงข่าว บันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการปฏิบัติงานร่วมกัน เพื่อจัดระเบียบบุคคลเร่ร่อน ขอทานในกรุงเทพมหานคร ไปเมื่อวันที่ 13 ก.ย.53 ที่ผ่านมา โดยมีภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน ระหว่าง กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก มูลนิธิกระจกเงา และองค์กรเฟรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมทำงานเป็นภาคีเครือข่ายประสานการทำงานร่วมกันในรูปแบบลักษณะสหวิชาชีพ โดยยึดหลักนิติธรรม และหลักมนุษยธรรมเป็นสำคัญ มีการคัดกรองผู้เสียหายหรือที่ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ให้ได้รับการฟื้นฟูสภาพจิตใจ และเปิดโอกาสให้ได้รับสิทธิตามกฎหมาย คนเร่ร่อน ขอทาน ที่มีทั้งแม่และเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มที่เสี่ยงจากการค้ามนุษย์  รูปแบบของการช่วยเหลือเป็นการทำงานเชิงบูรณาการ ประสานส่งต่อไปยังสถานที่เหมาะสม ซึ่งเป็นหน่วยงานรองรับของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนสังคมฯ

      การทำงานเป็นภาคีเครือข่าย ที่ต้องทำงานร่วมกันหลายหน่วยงานหรือหลายฝ่ายเพื่อให้เกิดแนวทางที่ชัดเจน เป็นมาตรฐาน จึงได้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการปฏิบัติงานร่วมกัน เพื่อจัดระเบียบบุคคลเร่ร่อน ขอทานในกรุงเทพมหานคร มีการกำหนดนโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานตามบทบาทภาระกิจและอำนาจที่เชื่อมโยงกัน มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อเท็จจริงระหว่างหน่วยงาน

      จะเห็นได้ว่าสภาพของปัญหาของบุคคลเร่ร่อน ขอทานที่เกิดจากสภาพเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองมีทั้งภายในและระหว่างประเทศที่มีความแตกต่างกันของรายได้ ส่งผลกระทบให้ประเทศไทยต้องประสบปัญหาที่เกิดจากการอพยพย้ายถิ่น ปัญหาแรงงานต่างด้าว การลักลอบหนีเข้าเมือง ปัญหาขอทานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ ปัญหาดังกล่าวมาทั้งหมดมีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนและเกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษย์ชนอย่างมาก ที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายในการป้องกันปัญหาปราบปรามผู้กระทำผิด และช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายมีการใช้มาตรการและกลไกทางกฏหมายอย่างต่อเนื่อง เห็นภาพในข่าวตั้งแต่ต้นปี 2553 รองนายกรัฐมนตรี(พล. ต.สนั่น ขจรประศาสน์)ได้ดำเนินการปราบปรามผู้กระทำผิดไม่ว่าจะเป็นคนเร่ร่อน ขอทาน ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฏหมายได้จำนวน 557 คนแต่นั่นเป็นเพียงครั้งเดียวที่มีผู้ตกเป็นเหยื่อความเสียหายมากที่สุด ครั้งอื่น ๆ ไม่เห็นเป็นข่าว

       ถึงแม้ในปัจจุบันมีกฏหมายอยู่หลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พ.ร.บ.ควบคุมขอทาน พ.ศ.2484   พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551  พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546

        กระบวนการและขั้นตอนต่อไปมีการสนับสนุนและจัดชุดปฏิบัติการเพื่อลงพื้นที่จัดระเบียบบุคคลเร่ร่อน ขอทานและคัดแยกผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ มีการประสานเชื่อมโยงและส่งต่อบุคคลเร่ร่อนและขอทานหรือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ไปยังสถานรองรับของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดการสงเคราะห์ พัฒนาหรือคุ้มครองพิทักษ์สิทธิตามกฏหมายต่อไป ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการกับกลุ่มคนขอทานจำต้องมีแนวทางและขั้นตอนการปฏิบัติงานในการคัดแยกผู้เสียหายจากถูกค้ามนุษย์หรือกลุ่มเสี่ยงที่จะถูกค้ามนุษย์กับกลุ่มคนขอทานที่เกิดจากความสมัครใจ คงมิใช่การกวาดจับแบบเหมารวม วิธีแบบเดียวกัน การดำเนินการกับกลุ่มขอทานทุกคนทุกประเภทจำต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

        หน่วยงานที่สำคัญคือกรุงเทพมหานครต้องรณรงค์ให้เกิดมาตรการทางสังคมที่เป็นรูปธรรม ในการสร้างความตระหนักรู้แก่คนในสังคม และขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสอันเป็นประโยชน์ตลอดจนการรณรงค์ให้คนในสังคมยุติการสนับสนุนกลุ่มคนขอทาน ศูนย์ประชาบดี 1300   สายด่วน ก.ท.ม.1555 ตลอด 24 ช.ม.

[สันติสุข]

ครูมิ้น ครับ

ถ้าจะให้ขอทานหมดไปจากกทม.คงจะไม่มีวันนั้น หรือถ้าจะมีเราก็คงเวียนเกิดเวียนตายอีกหลายรอบ

สังคมไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้าง ช่องว่างก็เยอะ และนี่ก็กำลังจะทำให้อาเซี่ยนเป็นหนึ่ง เข้าออกกันแบบเสรี

เราคงไม่ตกงานแน่ๆ ถ้ายังคิดจะเอาทางนี้ เตรียมคิดโครงการช่วยคนเร่ร่อนไว้ล่วงหน้าได้เลย

[นาย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ (ครูหยุย)]

เคือข่ายยิ่งกว้างเท่าไหร่ งานช่วยคนก็ง่ายและสร้างสรรค์มากขึ้น

[สิทธพร ธรรมเนียมงาม]

ขอขอบคุณ ครูหยุย และ อ.สันติสุขที่มาเยี่ยมเยือนและให้ข้อเสนอแนะในการทำงาน

[สันติสุข]

สวัสดีปีใหม่ครูมิ้น

ขอให้มีแต่ความสุข คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนาตลอดปี 2554 ครับ