วันนี้ไปกินข้าวที่เซ็นทรัลกับหลาน ระหว่างที่กินอาหารในจานไปได้สักครึ่ง มองไปนอกร้านเห็นคนหลายคนวิ่งหน้าตื่นผ่านไป ปากตะโกนว่าไฟไหม้ แล้วก็เห็นคนอีกจำนวนมากวิ่งตามกันไปอย่างไม่คิดชีวิต สักครู่คนในร้านอาหารที่ผมนั่งอยู่ก็เริ่มทะยอยวิ่งตามออกไป หลานผมฉุดมือผมวิ่งออกตามไปทันที รู้สึกงงๆ ที่ว่ายังไม่ได้จ่ายค่าอาหาร และงงๆ ที่ว่าจะวิ่งหนีอะไร
ระหว่างทางที่วิ่งตามฝูงคน ก็มีคนกรูกันออกจากร้านอาหารต่างๆ วิ่งตามกันออกมาเพิ่มอีก ทุกคนวิ่งตามด้วยความตกใจ ไม่รู่ว่าหนีอะไร แต่รู้ว่าต้องวิ่งให้เร็ว จะปลอดภัยที่สุด ฝูงคนบางกลุ่มวิ่งออกไปทางประตูหนีไฟ ผมกับหลานตามอีกกลุ่มหนึ่งวิ่งไปที่จอดรถ เกิดความอลหม่านทุกแห่งที่ฝูงคนวิ่งผ่านไป บางคนรีบวิ่งขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจคนอื่น รถบางคันขับย้อนศรเพื่อรีบลงไปให้ถึงชั้นล่าง
ในหมู่ฝูงคนที่กำลังหนีอะไรบางอย่างนั้น ประกอบไปด้วยลูกค้า พนักงานขายของ พนักงานร้านอาหาร คนไทย คนฝรั่ง ลูกเล็กเด็กแดง คู่หนุ่มสาว ครอบครัว ฯลฯ ทุกคนวิ่งลนลานตามกันไป
ผมกับหลานเปลี่ยนจากวิ่งมาเป็นเดินเร็วๆ แทน เพราะเริ่มรู้สึกว่าเราตื่นตูมมากไปหรือเปล่า หันไปมองรอบๆ ก็ยังไม่เห็นวี่แววของควันไฟ แต่คนรอบข้างก็ยังเคลื่อนตามกันต่อไป รถคันหนึ่งขับย้อนศรลงมาอย่างเร็วพร้อมบีบแตรไล่คน มองไปด้านล่างเห็นคนจำนวนหนึ่งไปยืนรออยู่แล้ว
ได้ยินเสียงประกาศจากทางห้างไกลๆ เป็นเสียงเพราะๆ แบบฟังแล้วก้องหู ไม่รู้ว่าพูดอะไร คิดว่าน่าจะเป็นความพยายามที่ทางห้างจะสื่อสารกับลูกค้าที่กำลังวิ่งหนีกัน เมื่อเราลงมาถึงชั้นหนึ่ง จึงไปถามพนักงานรักษาความปลอดภัย ที่สุดก็ได้ความว่า เกิดแก็สรั่วในบริเวณศูนย์อาหาร แต่ตอนนี้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว
ผมกับหลานเปลี่ยนใจเดินกลับเข้าไปในห้างอีกครั้ง ควันหลงจากเหตุการณ์ทำให้บู้ธหลายบู้ธปิดเร็วกว่ากำหนด ร้านค้าบางร้านปิดประตูเหล็กไว้ได้เพียงครึ่งเดียว พนักงานในร้านอาหารหลายร้านยังยืนจับกลุ่มคุยกันแบบงงๆ คล้ายว่าเราจะทำอย่างไรดี กับลูกค้าที่ยังไม่ได้ชำระเงิน โดยเฉพาะภัตตาคารแบบบุฟเฟ่ต์ ที่กินก่อนจ่ายทีหลัง หลานบอกผมว่าเราน่าจะกลับไปชำระเงินค่าอาหาร ผมเห็นด้วยและนึกชื่นชมเขาอยู่ในใจ พนักงานร้านอาหารบอกผมว่า หนี้บิลค่าอาหารนี้เขาคิดว่าพวกเขาคงต้องร่วมกันรับผิดชอบเพราะไม่ได้มีเหตุการณ์หรือวินาศภัยเกิดขึ้นจริง
การวิ่งหนี "อะไร" ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของข้อมูลข่าวสารที่แม้ยังไม่ได้ถูกกลั่นกรอง แต่ก็มีอำนาจเพียงพอทำให้เกิดความเสียหายไปล่วงหน้า การวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตอาจอันตรายมากกว่าคนที่นั่งอยู่ในร้าน เพราะอาจถูกเหยียบ หรือถูกรถที่ขาดสติชนเอา ไม่นับความเสียหายของพนักงานร้านอาหารที่ยังงงไม่หายว่าค่าบิลจำนวนหลายโต๊ะวันนี้จะไปเก็บที่ใครดี และเหตุการณ์ดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของระบบการสื่อสารของทางห้างกับลูกค้าในยามฉุกเฉิน
ขอชื่นชมในความคิดดีและการทำดีของท่านกับหลานครับ แม้ว่ามันจะมีเหลืออยู่น้อยเต็มทีในปัจจุบัน
อยากให้คนอื่น ๆ ได้อ่านบันทึกนี้นะครับ
การอ่านช่วยสร้างโอกาสและเพิ่มประสบการณ์ให้ชีวิต
ขอขอบคุณครับสำหรับคำชม ผมเชื่อว่าน่าจะมีคนดีๆ ในสังคมของเราอีกมาก และคนดีๆ ต้องมาช่วยกันทำดีให้สังคมได้เห็นจนเกิดเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่ดีของสังคมไทย