ระหว่างอยู่เชียงใหม่ เลขาฯได้พบน้องชาวบราซิลคนหนึ่งโดยบังเอิญ
ดูดู เพิ่งอายุครบ 21 เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้เอง วันก่อนที่จะเจอกัน ดูดูขับมอเตอร์ไซค์เช่ามาเที่ยวแถวบ่อสร้าง เกิดเบื่อสถานที่ท่องเที่ยว อยากเห็นชีวิตชาวบ้านจริงๆบ้าง บังเอิญได้เจอคนลาหู่ใจดี ชวนดูดูไปกินข้าวที่บ้าน พอดูๆทำท่าอธิบายว่าอยากดูคนปลูกข้าว คนลาหู่คนนั้นก็เลยพาไปที่แปลงปลูกข้าวของมูลนิธิไทย-ลาหู่ ที่น้องๆและเจ้าหน้าที่กำลังดำนากันอย่างสนุกสนาน ดูดู เก็บภาพไปมากมาย ก่อนจะสัญญาว่า วันรุ่งขึ้นจะมาร่วมพิธีนมัสการวันอาทิตย์ที่บ้านแห่งความหวัง
เลขาฯได้คุยกับ ดูดู หลังพิธีนมัสการ ดูดู เป็นนักเรียนแพทย์ ขอพักการเรียนมาหนึ่งปีเพื่อมาทำงานอาสาสมัครในองค์กรคริสต์ที่มาเก๊า องค์กรนี้ดูแลเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง โดยมีเงินช่วยเหลือทั้งจากบุคคลทั่วไปและจากรัฐบาล ดูดูกับเพื่อนไปช่วยดูแลเด็กอยู่ 4 เดือน ก่อนจะแวะมาเที่ยวเมืองไทย และกำลังจะไปเป็นอาสาสมัครในอีกองค์กรหนึ่งที่อินเดีย ก่อนจะกลับไปเรียนต่อให้จบ
4 เดือนในมาเก๊า ดูดูไม่เพียงแต่ดูแลเด็กๆ แต่ยังอาสาทำสื่อประชาสัมพันธ์ให้องค์กรด้วย ดูดูกับเพื่อนชอบถ่ายและตัดต่อวิดีโออยู่แล้ว เลยได้ผลงานออกมา และเอามาให้เรานั่งดูประกอบการคุยอย่างได้รสชาติ ดูดูบอกว่า การได้มีโอกาสออกมาสัมผัสโลกก่อนจะออกไปทำงานจริง ช่วยเปิดโลกของเขาให้กว้างขึ้นกว่าการเรียนอยู่ในห้องมากมาย เด็กๆที่ได้ดูแล สอนให้ดูดูเข้าใจการดูแลมนุษย์ทั้งทางร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆกัน ดูดูคงจะเรียนจบมาเป็นแพทย์ที่น่ารักมากคนหนึ่งเจอดูดูที่บ้านพักเด็กที่ดอยสะเก็ดค่ะ มีแต่ภาพดูดูกำลังแบ่งปันข้อความในพระคัมภีร์กับเด็กๆ
ถ้ามีโอกาส ก็อยากจะเอาอย่างดูดูบ้างเพราะการออกมาเรียนรู้โลกภายนอกนั้นทำให้เราได้สัมผัสกับความจริงของชีวิตทำให้เข้าใจชีวิตว่าจริงๆแล้วมันเป็นอย่างไร ถ้าเราจะแค่เรียนรู้แค่ในตำราเพียงอย่างเดียวนั้นคงไม่พออย่างแน่นอนเผลอๆคนที่ไม่ได้เรียนอาจจะประสบผลสำเร็จมากกว่าคนที่เรียนหนังสือเพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้มีการออกมาเผชิญกับโลกภายนอกเลยก็ได้ ก็อยากให้วัยรุ่นไทยเป็นอย่างดูดูมากๆ