มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ตำรวจ หมู่บ้าน วัดและชุมชน
เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๓ ตามถนนสองข้างทางที่รถเราวิ่งผ่าน มีทั้งธงชาติและธงธรรมจักรปักอยู่เรียงราย เป็นที่หมายของทีมเราในวันนี้ ภารกิจดูจะแตกต่างออกไปไม่ใช่การออกไปเผยแพร่ชุดทดสอบ หรือ อะไร แต่เป็น
การมาร่วมบุญ กับงานทอดผ้าป่าสมุนไพรมหากุศลถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระนางเจ้าพระบบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันแม่แห่งชาติ ณ วัดสวนป่าเวฬุวนาราม
คำว่า “วัดป่า” เพียงระลึกถึงใจหนูก็น้อมถึงคำว่า
“โอ้ ถ้าบุญไม่ถึงนี่คงไม่ได้มานะเนี่ย”
ก็คงจะเป็นผู้สร้างกุศลมาบ้างอยู่หล่ะเหนาะ การมาครั้งนี้เหมือนมาเจอญาติ เมื่อรถจอดตลอดสองข้างทางมีผู้คนเรียงรายประหนึ่งรอต้อนรับคนสำคัญ สายตาบางคนที่มองมา มีคำถามว่า
“ใช่ไหมนะ”
(รู้สึกแบบนี้จริง ๆนะคะ ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า ฮา)
หนูก็ยิ้มให้ท่านเหมือนให้คำตอบว่า
“ไม่ใช่หรอกค่ะ”
(แต่ครานี้ดูท่าทาง หนูอาจจะคิดไปเอง)
แต่ก็ยังเดินอย่างมุ่งมั่นต่อไป ผู้นำทีมในวันนี้ก็คือ พี่วิชัย หัวหน้างานหนูนั่นเองค่ะ ก่อนมาถึงหนูได้โทรประสานพี่น้ำตาล ทีมงานของ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ท่านบอกว่า
“เดินเข้ามาข้างในเลยค่ะ”
ระหว่างทางมีคนหลายคนยืนถือต้นเงิน
บางคนก็ถือต้นไม้
สิ่งที่ฉาบอยู่บนใบหน้าของแต่ละคนนั้นน่าทึ่งมากเลยค่ะ
มันคือรอยยิ้มที่อิ่มเอิบ แบบล้นปรี่
แถวบ้านหนู เรียก ยิ้มแก้มแตก
ตลอดแนวแถวบางคนก็ใส่ชุดฟ้าขาวที่บ่งชี้ว่า คงทำงานในกระทรวงสาธารณสุข
บางคนก็ใส่ชุดนักศึกษา
บางคนก็ใส่ชุดไหม
บางคนก็ใส่ชุดเสื้อกาวน์
บางคนก็ใส่เสื้อม่อห่อม
บางคนก็ใส่ชุดตำรวจ
เป็นภาพที่งดงามมากค่ะในความรู้สึกน่าทึ่งที่
“เขาเอาคนเหล่านี้มารวมกันได้ยังไง เจ๋งจริง ๆ”
ระหว่างทางเจอรูปหล่อของพระสิวลี จึงหยุดแล้วน้อมสักการะแล้วค่อยเดินต่อไป
บรรยายกาศรอบนอกเป็นป่า ที่เป็นป่าจริง ๆ ไม้ใหญ่เจริญเติบโตอยู่ไม่น้อยใจหนูคิด
“อย่างที่คิดไว้เลย คิดถูกแล้วที่เอาไม้เล็กมาเป็นส่วนใหญ่”
เพราะในงานครั้งศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๖ (ขอนแก่น) ได้นำกล้าพันธุ์สมุนไพรมาร่วมงานกว่า ๕๐๐ ต้น ซึ่งทางเราได้รับความอนุเคราะห์กล้าพันธุ์สมุนไพรจากสถาบันวิจัยสมุนไพรและสวนสมุนไพรกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่จันทบุรีมาอีกที ขอบพระคุณนะคะที่ร่วมบุญด้วยกัน
พอเข้าไปถึงศาลาวัด พี่น้ำตาลเดินเข้ามาทักพร้อม ๆ กับน้องคนหนึ่งที่หนูรู้สึกคุ้นมาก ๆ ค่ะ สักพักพอหน่วยความจำของสมองเริ่มทำงาน ก็แว๊บว่า
“อ้าว รุ่นน้องเภสัชที่คณะนี่นา”
ตอนแรกน้องก็ดูจะจำหนูไม่ได้ แต่พอมองสบตากันสักพักน้องเอ่ยว่า
“พี่ติ๋ว เปลี่ยนไปเยอะมากจนหนูแทบจำไม่ได้”
เฮอะ ๆ หนูแทบปาดเหงื่อเป็นคำพูดที่ถูกทักทุกครั้งที่เจอรุ่นน้อง รุ่นพี่ หรือ เจอเพื่อน ๆ สถาบันเดียวกัน
ก็แหมตอนสมัยเรียน หนูหน่ะแต่งตัวเปรี้ยวปรี๊ด ผมยาวสลวยไม่ค่อยจะซ้ำทรง ประมาณว่าไม่แต่งหน้าไม่ออกจากหอพัก คอนแทค์เลนส์ก็ไม่ซ้ำสี แว่นตาหน่ะเหรอค่ะ แทบจะไม่ค่อยเจอกันเลยทีเดียว ประมาณว่า
“ไม่สวยไม่เริ่ดทำไม่ได้ เฮอะ ๆ” มั่นใจสุด ๆ
แต่ปัจจุบัน จากหน้ามือเป็น........ ช่างแตกต่าง เฮอะ ๆ ก็น้อมรับตามเหตุและปัจจัย เพราะตอนนี้หน้าก็ไม่แต่ง ผมก็ตัดสั้น เสื้อผ้าก็เอาสบายเข้าว่า ตามหน้าที่ ไม่แค่ร์สื่อ ไม่สนแฟชั่น เพียงแค่ให้เกียรติสถานที่นั้น ๆ ก็ พอ พร่ามเรื่องตนเองไปนาน ก็ แหม แอบสะเทือนเหมือนกันค่ะ แต่ก็........
“ไม่แคร์สื่อค่ะพี่น้อง ความดีไม่ได้วัดกันที่เสื้อผ้า หน้าผม สักกะหน่อย”
ระหว่างรอประธาน คือ ท่านอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หนูเดินสำรวจรอบ ๆ พื้นที่
"เขาจัดไว้ได้ชนะเลิศมากเลยค่ะขอบอก"
ป้ายนำเสนอสมุนไพรเป็นองค์ความรู้ มีผู้แวะเวียนมาดูมิได้ขาด มีทั้งของจริง ทั้งรูปถ่าย มีหมอดู มานั่งดูดวงด้วยซิค่ะ หนูแอบเหล่เหมือนกันค่ะ แต่คิว ย๊าว ยาว ก็เลยล่าถอยไป
ที่ดูจะดึงดูคนที่ไม่ได้ทานข้าวเช้ามาอย่างหนูในวันนั้นก็เป็น โรงทาน
โอ้โห อาหารสมุนไพรทั้งนั้น ลาภปากหนูทีเดียวค่ะ ทั้งของคาว ของหวาน ข้าว ขนม ส้มตำ น้ำสมุนไพร ไม่ได้ขาดตกบกพร่องเลยค่ะ จัดตกแต่งสวยสดงดงามประหนึ่งเตรียมจำหน่ายในร้านชั้นนำ แต่งานนี้ ทานฟรีค่ะ อะ หุ อะ หุ มีรึหนูจะพลาด
หยิบฉวยมาได้ก็หาที่เหมาะ ๆ มานั่งเคี้ยวตุ้ย ๆ พี่วิชัยเดินมา หนูกะจะแบ่งสักหน่อย แต่ท่านก็ขอบายซะนี่ พอทานเสร็จไม่นาน พิธีจะเริ่มแล้ว หนูล้างไม้ล้างมือ เตรียมตัวเตรียมใจ
ระหว่างเดินสำรวจได้เห็นภาพน่ารัก ๆ ของผู้มาร่วมที่สามัคคีกันนั่งล้อมวงทานอาหาร เห็นแล้วประทับจั๊ย ประทับใจค่ะ วิถีชาวบ้านแบบนี้ได้ใจมากทีเดียวเชียว
เป็นกำลังใจให้คะ
อยากเห็นรูปถ่ายสมัยเปรี้ยวๆ จังเลย
ขอบคุณสำหรับบทความให้ส่งมาให้อ่านค่ะ เอาใจช่วยอีกคนนะ