แด่เพื่อนร่วมทุกข์
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า “อักษรไม่กี่อักษร คำพูดไม่กี่คำ”
ที่ถูกถ่ายทอดจากคนผู้หนึ่ง ส่งผลกระทบต่อคนหมู่มาก
เป็นบทเรียนที่หนูได้เรียนรู้มากับตนเอง
จากจดหมายอิเล็กทรอนิกซ์ ที่ส่งให้คนทั้งกรมฯ
จุดเริ่มต้นจากประกายความคิดและงานเขียนอันงดงาม
จากผู้มีพลังเชิงบวกเต็มเปี่ยม สู่ผู้อ่าน
ผ่านผู้มีพลังเชิงบวกและมีอำนาจกระตุ้นให้มีพลังส่งผ่านคนหมู่มาก
เกิดการสั่นสะเทือน เชิงบวกโดยส่วนใหญ่
มีการตอบสนองทั้งเชิงบวกและลบ ตามจริตนิสัย
แรงสะท้อนส่งผลกระทบต่อตัวตนของหนู
ซึ่งมีหน้าที่เพียงส่งผ่าน ทำให้เกิดการชะลอ
จนพิจารณาในตนเองอย่างแยบคาย ว่า “ควรทำ”
จึงเขียนชี้แจงผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิคว่า “จะขอโอกาสทำต่อ”
แต่ด้วย ณ ขณะนั้น จิตของผู้เขียนจดหมาย ขุ่นมัว และมีเรื่องอื่น ๆ ที่กำลังพิจารณาค้างอยู่ แต่ไม่สามารถแยกแยะได้
ด้วยความยังเป็นผู้เขลา จดหมายถูกส่งไปผนวกกับความรู้สึกมากมาย ผู้ได้รับจดหมาย อ่านแล้วเกิดแรงสั่นสะเทือนตามจริตนิสัย
บางคนอ่านแล้วรู้สึก แล้วก็พูด ๆ ๆ แล้วก็เงียบไป
บางคนอ่านเเล้วรู้สึก แต่ก็ไม่พูดอะไร เงียบไป
บางคน อ่านแล้ว ตอบกลับ
บางคนอ่านแล้วสงสัย ถามกลับ
บางคนอ่านแล้วสงสาร
หลากหลายความสั่นสะเทือน
จนสุดท้ายได้เขียนชี้แจงไปทุกฉบับ
แต่มีจดหมายฉบับหนึ่งส่งถึงผู้มีพลังและมีอำนาจ
แต่ผู้เขียนยังปะปนกับความขุ่นมัวที่มีทุนเดิม
ด้วยความไม่คาดคิด จดหมายถูกกระจายสู่คนหมู่มาก
เกิดผลกระทบทั้งเชิงบวกและลบ
ณ ขณะที่รับรู้
ได้เรียนรู้ว่า
“โลกแห่งอินเตอร์เน็ตไร้ขอบเขต”
ง่ายมาก ๆ ที่จิตเราจะหลงไป
ความหลงเป็นบ่อเกิดของ ความโกรธ และความโลภ ตามมา
ถ้ามองความหลงไม่ทัน ก็จะ เกิดความโกรธ เกิดความโลภ
สุดท้ายก็ "เกิดทุกข์"
จิตของมนุษย์นั้น เคลื่อนไปรวดเร็วมากมาย
กำลังแห่งสติปัญญาของหนู ไม่มากพอที่จะ ตามกิเลสในตนเองทัน
ได้สร้างอกุศลกรรมโดยไม่ได้ตั้งใจ
ได้เรียนรู้กับตนเองอย่ารวดเร็ว กับ ระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน
เป็นความทุกข์ที่หนักอึ้ง
แต่ช่างเป็นบทเรียนที่งดงาม เป็นทุกข์ที่พอมองเห็นปุ๊บก็ดับปั๊บ
ทำให้ระลึกถึงคำกล่าวของครูที่เอ่ยเมื่อไม่นานมานี้ว่า
“โอ่งน้ำที่เรามองว่ามันใส
แต่พอเอามือลงไปกวนมันก็ขุ่น”
เหมือนที่ผ่านมา เหมือนจิตหนูค้าง ติดสุข สบายอยู่ ไม่ค่อยเร่งภาวนา ค้าง ๆ แบบสบาย ๆ เหตุการณ์นี้ ช่วยกระตุ้นให้เห็นทุกข์ กระตุ้นให้เห็นว่า
“ยังไม่พอ”
“ฝึกตนเท่านี้ยังไม่พอ ต้องทำอีก”
เป็นบทพิสูจน์ว่า
กับที่ผ่านมาเป็นบทเรียนอันงดงามที่ต้อง ทบทวนกับตนเองให้มาก
พยายามให้มาก เพราะกิเลสในใจมันฉลาด รอจังหวะที่จะแหลมหน้าออกมา สร้างอกุศลกรรม อยู่ร่ำไป
กราบขอบพระคุณทุก ๆ สรรพสิ่งที่ให้บทเรียน
และกราบขอขมาทุกสิ่งทุกอย่างกับความโง่ที่รู้ไม่เท่าทันกิเลสแห่งตน
จากบทเรียนแห่งความเขลา
ถ้าให้มอง น่าจะกำลังเป็นจุดหักเลี้ยว หักเหอะไรสักอย่าง
แต่ปัญญายังไม่ถึงพร้อม ทำได้เพียงน้อมกายน้อมในลงเรียนรู้ ความจริง
สวัสดีครับ
อ่านความรู้สึกจากบทความของพี่แล้ว เหตุการณ์นี้ก็เคยเกิดขึ้นกับผมเหมือนกันครับ
ขอเป็นกำลังใจให้พี่นะครับ
ขอบพระคุณค่ะ ณัฐวรรธน์
เป็นความล้ำค่าของการฝึกตน ทำให้ผ่านวิกฤตมาได้
ด้วยใจที่เบา ยอมรับผลของการกระทำแห่งตนได้ง่ายขึ้น
เป็นบทเรียนที่ "ครูแห่งธรรมชาติเข้ามาสอนแบบจะ จะ เลยค่ะ"
สวัสดีค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้เข้มแข็งต่อไปนะคะ โลกแห่งนี้ ยากที่จะหาคนจริงใจได้ค่ะ อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะคิดและรู้สึกแบบเดียวกับเรา สู้ๆๆค่ะ
"ถึงใบไม้ร้องเพลงที่รำพึง
มาสะท้อนถึงบทเรียนการเขียนอ่าน
ในโลกแห่งการเรียนรู้เป็นประสบการณ์
ต้องรู้เท่า รู้ทัน รู้กัน รู้แก้ และรู้อภัย........
ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบพระคุณค่ะ มนัสนันท์ ครั้งนี้งดงามที่ได้เรียนรู้
ทบทวนในตนเองค่ะ....(^_^)
มาเป็นกลอนเลยนะคะท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
ขอบพระคุณค่ะ
เป็นบททดสอบข้อใหญ่ ที่ทำให้หนูรู้ว่า
"ยังฝึกตนเองไม่พอ ต้องทำอีก"
ขอบพระคุณค่ะ (^_^)