ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ
"ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการ"
1 ตุลาคม 2553 นับเป็นวันแรกที่ไม่ว่าข้าราชการ หรือลูกจ้างประจำ ที่เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ 2553 เป็นวันแรกที่พวกเขาเหล่านั้น...ได้พ้นจากตำแหน่ง หน้าที่ความรับผิดชอบ จากการที่เคยได้รับการบรรจุเข้ารับราชการมาเป็นเวลาอันยาวนาน...เรียกว่า..."ปลดแอก"...มีชีวิตใหม่ ไม่เหมือนกับชีวิตเดิม ๆ ที่จะต้องอยู่ภายใต้การบังคับบัญชา...ภายใต้ภาระงานที่ต้องรับผิดชอบ...เป็นชีวิตที่อาจไม่เคยเป็นมาก่อนในระหว่างระยะเวลาที่ได้เคยปฏิบัติงาน
ผู้เขียนได้ถามท่านที่เกษียน บางท่านตอบว่า...ก็ดี...ดูสบาย ๆ...เพราะไม่ได้คิดอะไร?...เกษียณ ก็คือ "เกษียณ"...ยอมรับสภาพของตนเองได้...ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งหน้าที่...เพราะคนเราเกิดมาเป็นวัฏจักร...เมื่อมีเริ่ม ก็ต้องมีวันจบ...(ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่มีวันเลิกรา)...ทำใจได้...คิดว่า...คนเราเกิดมามีหน้าที่หลายอย่าง...หน้าที่ในการทำงานโดยการรับราชการจบลงแล้ว...แต่เรายังต้องมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลตนเอง...ดูแลครอบครัว + พี่น้อง...ดูแลชุมชน + สังคม...นั่นคือ หน้าที่ที่เราจะต้องมีความรับผิดชอบต่อไป...
ผู้เขียนเห็นบางท่าน เมื่อใกล้เกษียณ รู้สึกหงุดหงิด ถามท่านว่า...ใกล้จะเกษียณแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?...ใจหายหรือไม่?...ท่านตอบว่า...ก็เป็นบ้าง...แต่ก็ทำใจได้...เพราะคนเราต้องมาถึงจุด ๆ นี้ กันทุกคน (สำหรับผู้ที่รับราชการ)...วันที่ 1 ตุลาคม ก็จะเป็นข้าราชการบำนาญ หรือประชาชนเต็มขั้นแล้ว...
เหตุที่ผู้เขียนถามท่านเกษียณ เพราะมีความรู้สึกว่า...บางท่าน รับราชการมานาน...การกระทำกับสิ่งที่คุ้นเคยได้กระทำบ่อย ๆ คนเคยชินกับการกระทำนั้น ๆ...ทำให้บางคนมักจะยึดติดและฝังใจกับพฤติกรรมนั้น ๆ โดยจะให้เปลี่ยนแปลงเลยนั้น กระทำได้ค่อนข้างยากมาก... บางคนรับราชการมานานถึง 40 ปี 30 กว่าปี...และก็เพื่อต้องการทราบว่า..."ท่านเหล่านั้น มีความรู้สึกเช่นไร"...สำหรับบางท่านที่ได้มี "Plan" (การวางแผน) ชีวิตไว้หลังเกษียณแล้ว...ไม่ต้องถามเลยว่าท่านมีความสุขมากน้อยเพียงใด...บางท่านตอบแบบตลก ๆ ว่า...เออดี...จะได้เป็นไทยเสียที...แล้วก็หัวเราะชอบใจ...ก็แสดงว่าท่านมิได้มีความซีเรียสอย่างไร...เพราะบั้นปลาย เป้าหมายชีวิตท่าน...คงมีความสุขหลังจากเกษียณชีวิตราชการอย่างแน่นอน...เนื่องจากท่านมีงานที่จะต้องรับผิดชอบใหม่เพื่อเตรียมรับไว้แล้ว...
ท้ายนี้ ผู้เขียนก็ขอแสดงมุทิตาจิตให้กับข้าราชการและลูกจ้างประจำทุกท่าน...ที่ได้เกษียณอายุราชการ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2553 ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับชีวิตใหม่...อยู่กับครอบครัวและลูก-หลาน เป็นที่ปรึกษาให้กับลูก - หลาน ตราบจนชีวิตจะหาไม่...
ประโยชน์ + คุณงามความดีที่ท่านเหล่านั้นได้ทำไว้กับ
แผ่นดินไทย...ยังคงจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของ
การรับราชการตลอดไป...
"นี่คือ...วิถีชีวิตของการทำงานโดยการรับราชการ ซึ่งขอฝากเป็น
ข้อคิดเตือนสติสำหรับเยาวชนรุ่นหลัง...ควรสร้างคุณงามความดี
ที่เป็นประโยชน์ต่อที่ทำงาน...ความมีคุณธรรม...
บริหารงานโดยใชหลักธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง
ต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด...แล้วชื่อท่านจะจารึก
อยู่ในประวัติศาสตร์ของการรับราชการไทย"
"อยู่ให้เขารัก...จากให้เขาอาลัย..."
ความเห็น (2)
อาจารย์ครับ 1ตุลาแล้ว พนักงานราชการกรม(ปศุสัตว์)ผมยังไม่ทำการต่อสัญญาเลยครับ กังวลใจมาก อาจารย์ครับการปรับปรุงพนักงานราชการ(56)จะเสร็จเมื่อไหร และอาจารย์ต้องไปประชุมที่ กพ.อีกนานไหมครับผมขอให้อาจารย์เป็นตัวแทนของพนักงานเพราะอาจารย์ทราบปํญหาและเข้าใจพนักงานราชการมากที่สุด
เคารพและนับถืออาจารย์
ตอบ...คุณ amnat...
ค่ะ พี่ขอให้คุณติดต่อกับส่วนราชการต้นสังกัดที่บรรจุคุณนะค่ะว่า...ต่อสัญญาให้กับคุณหรือไม่ เพราะถ้าเป็นที่ มหาวิทยาลัยของพี่ พี่ได้ดำเนินการให้กับพนักงานราชการในการต่อสัญญาจ้างแล้วค่ะ...แล้วให้สอบถามต้นสังกัดว่า กรอบอัตรากำลังที่จ้างพนักงานราชการ คพร.อนุมัติให้ตั้งแต่ปีไหนถึงปีไหน...(เพราะกรอบอัตรา คพร. จะทำให้กับพนักงานราชการ เป็นเวลา 4 ปี ค่ะ...มีกรอบอัตรากำลังแล้ว จึงสามารถทำการต่อสัญญาจ้างได้ไงค่ะ)... สำหรับปี 2556 นั้น เป็นเรื่องการทำสัญญาจ้างต่อเนื่องค่ะ...ขึ้นอยู่ว่าจะต่อสัญญาต่อเนื่องกี่ปี เช่น 4 ปี, 8 ปี, หรือ 12 ปีค่ะ...อย่าวิตกอะไรไปเลย...ตั้งใจทำงานนะค่ะ...สำหรับการต่อสัญญาจ้างว่าจะต่อหรือไม่ ความสำคัญอยู่ที่ส่วนราชการต้นสังกัดทำเรื่องขออนุมัติกรอบอัตรากำลังแจ้งให้ทาง คพร.ทราบก่อนค่ะ...เมื่อได้รับการอนุมัติกรอบอัตรากำลังแล้ว...ส่วนราชการจึงสามารถทำสัญญาจ้างพนักงานราชการได้ค่ะ...ขณะนี้ หมดหน้าที่ที่พี่ต้องเข้าร่วมประชุมแล้ว คงเป็นหน้าที่ของหัวหน้าส่วนราชการ กับตัวของพนักงานราชการ (อาจทุกคนหรือบางคน อยู่ที่ คพร. กำหนดค่ะ)...ที่จะต้องเข้าร่วมประชุมค่ะ คล้าย ๆ กับการทำประชาพิจารณ์ในการที่จะออกกฎหมายหรือระเบียบเพื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติเกี่ยวกับระบบของพนักงานราชการค่ะ...