บ่ายวันนี้ (28 ก.ย.) เริ่มประชุมคณะกรรมการเสริมสร้างความสมานฉันท์ในระบบบริการ นพ.วันชาติ ศุภจัตุรัส นายกแทพยสมาคมแห่งประเทศไทย ได้ประกาศนำทีมวอล์คเอาท์ ในห้องประชุมเหลือแค่ตัวแทนกระทรวง สธ., โรงเรียนแพทย์, สภาวิชาชีพอื่นๆ และตัวแทนผู้บริโภค ผู้ป่วย
รศ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้แถลงจุดยืนของคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
ข้อเสนอแนะของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบด
ความเห็นชอบดังกล่าวของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีนั้น เพื่อนร่วมวิชาชีพหลายคนพูดว่าเป็นการเอาตัวรอดของโรงเรียนแพทย์ แต่จริงๆแล้ว เราพยายามหาทางรอดหรือเราหาโอกาสรอดจากผลกระทบของ พ.ร.บ.ฉบับนี้มากกว่า
จากการรับฟังข้อมูลทุกฝ่ายเราเข้าใจดีว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องจากโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งไดเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และผู้ป่วยจากแบบอุปถัมภ์ เป็นแบบพันธสัญญา จึงเป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นในการเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เราจึงไม่สามารถใช้ความสามัคคีเพียงอย่างเดียว เราจำเป็นต้องใช้สติเพื่อพิจารณาข้อเท็จจริง ใช้องค์ความรู้ด้านการบริการจัดการที่มีอยู่ทุกด้าน เพราะเราเชื่อว่า ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ภาพสุดท้ายที่เราทุกคนต้องการเห็นคือ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทีมผู้ให้บริการรักษาพยาบาลกับผู้ป่วย เพื่อนำไปสู่ผลการรักษาที่ดีที่สุด ภายใต้การใช้ทรัพยากรสุขภาพที่เหมาะสม เราไม่อยากเห็นภาพที่เกิดขึ้นในบางประเทศ ซึ่งแม้จะมีความเจริญ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูง แต่ความสัมพันธ์ของแพทย์และผู้ป่วย ชักนำทำให้เกิดลักษณะการแพทย์แบบป้องกันตนเองทางเทคโนโลยีสูง แต่ความสัมพันธ์ของแพทย์และผู้ป่วย ชักนำทำให้เกิดลักษณะการแพทย์แบบป้องกันตนเอง (Defensive Medicine) ซึ่งนำไปสู่การใช้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเรื่อยๆ ควบคู่ไปกับความไม่ไว้วางใจระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยมากขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจุบัน เรายอมรับว่าธรรมชาติของกระบวนการรักษายังมีความพลาดพลั้ง หรือผลการรักษาที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ แม้จะให้การรักษาตามมาตรฐานตามวิชาชีพแล้ว <span>กลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการพลาดพลั้งหรืออาการแทรกซ้อนควรได้รับการเยียวยาในกรณีเดียวกันบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐานวิชาชีพควรได้รับการคุ้มครอง</span> เพื่อให้สามารถทำงานได้ด้วยความสบายใจตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี เข้าใจดีและเห็นใจแพทย์ที่ออกมาคัดค้าน พ.ร.บ.ดังกล่าว ซึ่งเป็นแพทย์ที่อยู่ในโรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลเอกชนต่างๆ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน ท่านเป็นผู้รับผิดชอบภาระงานในการรักษาพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ ภายใต้ทรัพยากรที่ถูกจัดสรรให้อย่างจำกัด ขอเรียนให้ทราบทั่วกันว่า ผู้บริหารและบุคลากรของโรงพยาบาลรามาธิบดีมีสถานภาพและเผชิญปัญหาไม่ต่างจากโรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ต่างๆ นอกจากนี้ผู้รับการบริการของเราส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลของท่าน เนื่องจากมีปัญหายุ่งยากซับซ้อนในการดูแลรักษาซึ่งย่อมทำให้การรักษามีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนหรือไม่เป็นไปตามความคาดหวังได้มากกว่า แม้การเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนถ้าใช้จำนวนผู้ป่วยเป็นหลัก ทางโรงพยาบาลรามาธิบดีคงต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนมากกว่าโรงพยาบาลอื่นๆ แต่สิ่งที่บุคลากรของเราสามารถก้าวข้ามประเด็นข้อขัดแย้งของ พ.ร.บ.ดังกล่าวได้เนื่องจากฝ่ายบริหารของคณะซึ่งมีท่านคณบดี (ศาสตราจารย์รัชตะ รัชตะนาวิน) เป็นประธานได้ทำการศึกษาผลกระทบและนำไปสู่การบริหารจัดการโดยใช้แนวทางการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร (enterprised risk management) ตามแนวทางของ CoSo และ ISO ตามนโยบายมหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลได้ปรับโครงสร้างองค์การโดยจัดตั้งหน่วยงานของโรงพยาบาลเข้ารับผิดชอบทำหน้าที่ช่วยเหลือเยียวยาผู้รับบริการ ขณะเดียวกันที่จะทำหน้าที่ดูแลเรื่องร้องเรียนจากผู้รับบริการแทนแพทย์ผู้รักษา ซึ่งจะทำให้ทีมผู้รักษาสามารถปฏิบัติงานต่อไปได้โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องร้องเรียน ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นความรับผิดชอบ (Accountability) ของผู้บริหาร
ทางคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เชื่อว่าการที่บุคลากรเข้าใจวิธการและเห็นการเตรียมพร้อมเพื่อบริหารจัดการผลกระทบจากพ.ร.บ.ดังกล่าวจากผู้บริหาร ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เราก้าวข้ามปัญหาต่างๆ และนำไปสู่การมีมติ เห็นชอบในหลักการของ พ.ร.บ.ดังกล่าว
สุดท้ายนี้ ทางคณะขอร้องฝ่ายตัวแทนผู้รับบริการให้ความเห้นใจและเข้าใจการปฏิบัติงานของฝ่ายแพทย์และทีมผู้รักษา ขณะเดียวกันขอความร่วมมือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก้าวข้ามประเด็นแห่งความขัดแย้งเพื่อความสามารถและองค์ความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการบริหารจัดการผลกระทบจากพ.ร.บ.ฉบับนี้เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้จริงโดยยึดหลักการคำนึงถึงผู้ที่ส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
รศ.ธันย์ สุภัทรพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี
28 ก.ย.53
ละเอียดอ่อนมากเรื่องนี้ คงต้องค่อยๆ พิจารณาไปอย่างช้าๆ ทีละมาตราครับ ทางออกมีเสมอ อย่าเพิ่งใจร้อนนักทั้งสองฝ่าย ผมเองอยู่วงกลางครับ พยายามดูทั้งสองฉบับเทียบเคียงกันอยู่