ความสุขพอเพียง ที่ซื้อไม่ได้
ในการทำงานนั้นไม่ว่าจะเป็นงานใด ๆ นั้นมักมีทั้งปัญหาอุปสรรคและประสบการณ์ ในการทำงานที่ดี สำหรับปัญหาและอุปสรรคนั้นให้เราเก็บไว้ เป็นข้อคิดเตือนใจ เป็นบทเรียนในการทำงาน เพื่อมิให้เกิดปัญหา นั้น ๆ ขึ้นอีกในครั้งต่อไปส่วนการได้รับคำยกย่องชมเชยนั้น ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะมันคือกำลังใจให้เราสามารถทำงานต่อไปได้ สำหรับตัวดิฉันก็ เช่นกัน มีทั้งสุขและทุกข์คละเคล้ากันไป แต่สำหรับปัญหาหรืออุปสรรคดิฉันคิดว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เราสามารถแก้ไขให้ผ่านไปได้ และต้องคิดเสมอว่ามันคือแบบทดสอบตัวเรา เราต้องผ่านมันไปได้ มีคนเคยพูดไว้ว่าที่สุดของความทุกข์นั้นคือความสุข ซึ่งสำหรับตัวดิฉันเองคิดว่าความสุขของดิฉันนั้นมันคือความสุขเมื่อทำให้คนสุขสมหวัง ดิฉันปฏิบัติงานอยู่แผนกห้องคลอด แรกเริ่มนั้นดิฉันไม่เคยชอบลักษณะงานในแผนกนี้เลย แต่เมื่อใดมาปฏิบัติงานที่แผนกนี้จริง ๆ แล้ว ดิฉันกลับรู้สึกอบอุ่นกับการต้อนรับสมาชิกใหม่ ของพี่ ๆ ทุกคน ที่คอยช่วยเหลือแนะนำสอนงานดิฉันและอยู่กันอย่างเป็นกันเอง เหมือนพี่เหมือนน้อง และยิ่งเมื่อเวลาได้เห็นความสุขความดีใจของผู้ที่มาคลอด สามีและญาติหลังทราบว่ามีทารกตัวน้อย ๆ ได้ลืมตาดูโลกแล้ว ดิฉันก็รู้สึกสุขใจที่ได้มีส่วนร่วมในความสุขของพวกเขาเหล่านั้น เหมือนเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่ดิฉันจำได้ไม่ลืม เมื่อดิฉันขึ้นมาปฏิบัติงานในช่วงเวรบ่ายวันหนึ่ง หลังรับเวรแล้วดิฉันได้เดินไปตรวจและพูดคุยกับผู้ป่วยซึ่งนอนรอคลอดอยู่ เป็นหญิงไทยอายุ 24 ปี เป็นมารดาท้องแรก ตอนนั้นปากมดลูกเปิดมากแล้ว ผู้ป่วยและสามีมีสีหน้าวิตกกังวล เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ในการคลอด ดิฉันจึงพูดปลอบโยนให้กำลังใจ ผู้คลอดและสามีดูแลความสุขสบาย แนะนำเทคนิคบรรเทาปวดและเปิดโอกาสให้สามีและญาติเข้ามาเยี่ยมและดูแล เพื่อให้ผู้คลอดรู้สึกอุ่นใจ ลดความกังวลลงระยะของการคลอดนั้นดำเนินไปตามปกติ ผู้ป่วยให้ความร่วมมือในการักษาดี เบ่งคลอดถูกวิธีและคลอดเวลา 19.30 น. ทารกเป็นทารกเพศหญิงสมบูรณ์แข็งแรงดี มารดาหลังคลอดแข็งแรงดีหลังจากเย็บแผลเสร็จจึงย้ายผู้ป่วยมานอนที่ห้องพักฟื้น จากนั้นออกมาแจ้งสามีและญาติว่า “คุณได้ลูกสาวนะค่ะ ทั้งแม่และลูกแข็งแรงปลอดภัยดีค่ะ” ขณะนั้นเองดิฉันก็ได้ยินเสียงสามีและญาติ อีก 4-5 คน โห่ร้องด้วยความดีใจ พร้อมรอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนใบหน้าของพวกเขาเหล่านั้น ดิฉันรู้สึกมีความสุขใจเล็ก ๆ อย่างบอกไม่ถูก หลังจากนั้นดิฉันก็ดูแลมารดาและทารกหลังคลอด และทำ Chart คลอดจากนั้นไม่นานสามีของผู้ป่วย ก็เดินเข้ามาหาดิฉันและมีพยาบาลอีกคนหนึ่งซึ่งกำลังนั่ง Clear เอกสารอยู่ พร้อมยืนซองขาว 2 ซองให้ดิฉัน ดิฉันและพี่พยาบาลมองหน้ากันแบบงง ๆ ดิฉันจึงหันไปถามเขาว่า “นี้ซองอะไรค่ะ” เขาตอบดิฉันว่า “ขอบคุณที่ช่วยดูแลภรรยาผมเป็นอย่างดีและช่วยทำคลอดลูกสาวให้ผม” ดิฉันและพี่พยาบาลจึงพูดกลับไปว่า ไม่เป็นไรหลอกค่ะ เพราะมันเป็นหน้าที่ของดิฉันอยู่แล้ว เขาจึงตอบกลับมาอีกว่า “ไม่เป็นไรหลอกครับ” รับไว้เถอะผมอยากให้จริง ๆ ขอบคุณมากและเขาก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ดิฉันหยิบซองขาวมาดู เปิดดูพบว่ามีเงินอยู่ซองละ 1,000 บาทหลังจากนั้นสักครู่หนึ่งเขากลับเข้ามาเยี่ยมภรรยาและลูกน้อยอีกครั้งดิฉันจึงเดินไปหาเขาและยื่นซองขาวคืนให้เขาทั้ง 2 ซอง และบอกเขาอีกครั้งว่า เรารับได้ไม่ได้จริง ๆ มันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องดุแลอยู่แล้ว ผู้ป่วยและลูกคลอดออกมาปลอดภัยก็ดีที่สุดแล้ว เขายิ้มและรับซองแล้วเดินออกไปดิฉันและพยาบาลกลับมานั่งทำงานต่อ จนกระทั้งใกล้เวลาย้ายผู้ป่วยไปตึกหลังคลอด สามีผู้คลอดได้กลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมตะกร้าของขวัญเป็นรังนกและซุปไก่สกัด 2 ตะกร้า และขอให้เราทั้ง 2 รับไว้ หลังจากที่เขาพยายามพูดหลายครั้ง ดิฉันเลยรับไว้และกล่าวขอบคุณ เพราะดิฉันคิดว่าเขาคงมีความตั้งใจที่อยากจะให้เราจริง ๆ จากเหตุการณ์นั้นทำให้ดิฉันได้ทราบว่าเรากำลังทำงานอยู่บนความคาดหวังของผู้มารับบริการคลอดและครอบครัวของเขาซึ่งเขาหวังที่จะได้รับการดูแลเขาให้ดีและปลอดภัยที่สุด
ปัจจุบันถึงแม้ว่า ผู้ป่วยและญาติจะมีคำบ่น ข้อร้องเรียนที่ไม่เข้าใจเรา ทำให้เสียความมั่นใจบ้าง เสียความรู้สึก แต่ยังมีสิ่งดี ๆ ที่เป็นกำลังใจให้เราได้ทำงานต่อไป
แวะมาให้กำลังใจคะ งานทุกอย่างย่อมมีคุณค่า
ความสุขอยู่ที่การให้