ชีวิตของท่านเป็นอย่างไร เป็นเหมือนช้างตัวนี้หรือเปล่า


ช้างกับกิ่งไม้

    เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของชายที่ชื่อจีออฟ ทอมสัน (ผู้เขียน) เขาได้เล่าเรื่องช้างกับกิ่งไม้ว่า คนอินเดียเวลาจะฝึกลูกช้างให้เรื่อง (ไม่ให้หนีไปไหน) จะผูกลูกช้างไว้กับวัตถุขนาดใหญ่ ที่ไม่อาจขยับเขยื้อนได้ เช่น ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งไม่ว่าลูกช้างจะดึงหรือลากอย่างไร ก็ไม่อาจหลุดพ้นเป็นอิสระได้ (สิ่งนี้เองที่กลายมาเป็น "การจดจำว่าช่วยเหลือตัวเองไม่ได้" ในสัตว์) ดังนั้น หลังจากที่พยายามอย่างเต็มที่ และเป็นเวลานานพอ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จแล้ว ลูกช้างก็ยอมแพ้ไปเอง และเชื่อว่า ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่อาจหนีไปไหนได้ ท้ายที่สุด เมื่อลูกช้างโตเต็มที่ มีน้ำหนักหลายต้น คนเลี้ยงก็อาจเพียงแต่ผูกช้างนั้นไว้กับกิ่งไม้ก็พอ  มันจะไม่หนีไปไหน อันที่จริงมันไม่คิดแม้แต่ที่จะลองหนีเลยด้วยซ้ำ

 

    ในชีวิตจริงเราเองก็ไม่ต่างอะไรจากช้าง เราเชื่อไปเองว่าเราไม่อาจหลุดพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่ ซึ่งไม่ได้ดิบดีอะไรความเชื่อนี้จะฝังหัวเรามากขึ้นๆ จนในที่สุดก็กลายเป็นกลายความจริงในความคิดคำนึงของเรา และเนื่องด้วยระบบความเชื่อที่มีขีดจำกัดของเรานี้เอง เราจึงมีแนวโน้มที่จะ "คิดการเล็ก"

 

    ตอนที่ผมทำงานอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่ง ชีวิตในแต่ละวันของผม ติดตันอยู่แค่การได้รับค่าจ้างในวันศุกร์ ความคิดของผม ไม่อาจไปไกลกว่านั้น วันจันทร์เป็นวันที่น่าหวาดหวั่นมากจนต้องเก็บเอาไปเป็นกังวลอยู่บ่อยๆ ว่า จะต้องกลับไปเจอกับสภาพเดิมๆ ที่มีแต่น้ำมัน และสิ่งสกปรกอีก นี่แหละชะตาชีวิตของผมในเวลานั้น

 

    แม้ผมจะรู้สึกลึกๆ อยู่เสมอว่าน่าจะมีชีวิตที่สดใสกว่านี้ แต่ผมก็ไม่เคยแม้แต่จะคิดหนี ผมถูกรั้งไว้ด้วย สนามพลังที่มองไม่เห็น (วัตถุขนาดใหญ่ที่ไม่อาจขยับเขยื้อนได้) และดูเหมือนไม่อาจทำลายได้ เจ้าสนามพลังนี้ ดึงผมไว้ถึงสามสิบปี และทำให้ความพยายามที่จะหนีออกจากความจริงอันน่ากลัว ไปสู่ความฝันอันสดใสของผม ต้องล้มเลิกตั้งหลายครั้ง

 

    แต่ในที่สุดผมก็ตัดใจได้ ตอนนั้น ผมได้ตระหนักว่าวัตถุที่ไม่อาจขยับเขยื้อนได้นั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่อะไรเลย มันเป็นเพียงกิ่งไม้ ซึ่งผมสามารถหักทำงายเมื่อใดก็ได้ที่ต้องการผมได้หลุดพ้นจากหัวหน้าที่ดีแต่ดุด่า พ้นจากเสียงหวีดแหลมของเครื่องกลึงที่หมุนเร็วจี๋ และพ้นจากชีวิตที่ผมไม่เคยปรารถนาผมได้ไปสู่ชีวิตที่ผมไม่เคยรู้จักเป็นชีวิตที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นตาตื่นใจระหว่างการเดินทางจากโรงงานสู่อิสรภาพ ผมได้เรียนรู้กฎทองสิบสี่ข้อ ที่ช่วยให้ผมประสบความสำเร็จและมีความสุขล้นเหลือ ผลอยากให้คุณได้ร่วมรับรู้ด้วย

 

  ผลประหลาดใจจริงๆว่าทำไมผมต้องใช้เวลานานเหลือเกินกว่าจะรู้ว่าผมสามารถหักกิ่งไม้เล็กๆนั้นได้ เพราะเมื่อหวนนึกถึงอดีต ผมจำได้ว่าผมเคยมีความเชื่อบ้างแล้ว ความเชื่อที่ต้องใช้เวลาในการตกผลึกเป็นรูปเป็นร่างนานพอควร แต่เพราะความกลัวของผมเอง ที่ไม่เปิดโอกาสให้ความเชื่อนี้ตกผลึก ดูเหมือนว่าความเชื่อนี้กำลังรอจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่จะปรากฏชัดแจ้งออกมา ผมกลับดึงกลับมาด้วยความตื่นตระหนกดูเหมือนว่า ผมรู้สึกสบายใจกว่า เมื่อความปรารถนาไม่บรรลุผลสำเร็จ

 

    ต่อเมื่อผมหักกิ่งไม้นั้นได้ ผลถึงได้รู้ว่านี่คือโลกของเรา เราสามารถมีอะไรก็ได้ที่เราอยากมี เป็นใครก็ได้ที่เราอยากเป็นและทำอะไรก็ได้ที่หัวใจของเราปรารถนา ถ้าเราไม่ต้องการยืนอยู่หน้าเครื่องกลึง ปัดกวาดพื้นห้อง ส่งนมทุกเช้า หรือกดปุ่มเครื่องคิดเงิน เราก็ไม่ต้องทำ เราสามารถอยู่ในที่ที่เราเลือกที่จะอยู่ชั่วเวลาใดที่เราตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีกว่า ชั่วเวลานั้นเป็นชั่วเวลาสุดท้ายที่เราต้องยืนอยู่หน้าเครื่องกลึง และเป็นชั่วเวลาแรกของการเริ่มต้นทำในสิ่งที่เราต้องการทำ ด้วยชีวิตอันแสนสั้นของเรา

 

    ความคิดของเรานั่นเอง ที่ทำให้เราติดกับไปไหนไม่ได้และความคิดของเราอีกนั่นแหละ ที่สามารถทำให้เราเป็นอิสระ

 

แล้วตอนนี้ชีวิตของท่านเป็นอย่างไร เป็นเหมือนช้างตัวนี้หรือเปล่า

 

แหล่งที่มาตามปกเลยครับ ขอขอบพระคุณที่แปลหนังสือดีๆให้ได้แบ่งปันความรู้กันครับ

คำสำคัญ (Tags): #ช้างกับกิ่งไม้
หมายเลขบันทึก: 398973เขียนเมื่อ 27 กันยายน 2010 23:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 22:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ขอบคุณคุณนวพล สำหรับบทความดีๆที่แบ่งปันกันอ่านค่ะ

บางครั้งการหลุดจากพันธนาการก็ง่าย บางครั้งก็ยาก มนุษย์จึงต้องพบมุมหักเหของชีวิตจึงหลุดพ้นมาได้

เวลาทำให้หลายสิ่งหลายอย่างดีขึ้น เวลาทำให้รู้อะไรอีกหลาย ๆ อย่าง

ดังนั้นเวลาจะช่วยตัดสินอะไรอีกหลาย ๆ อย่างในชีวิตด้วยเช่นกัน

ขอบพระคุณคุณนวพลที่ได้นำบทความดีๆ มาสรรค์สร้างสังคมค่ะ

ได้แง่คิดที่ดีครับ ขอบคุณครับ

อย่าไปกลัว และอย่าไปท้อ

กับเรื่องที่เรายังไม่เคยทำอย่างถึงที่สุดมาก่อน

ขอบคุณกับเรื่องราวที่ให้แง่คิดดีๆ กับชีวิต

สวัสดี เพิ่งรู้นะว่าลูกศิษญ์เรามีความคิดดีๆๆๆมากมาย แต่อย่าลืมนำไปใช้นะคะ รักและเป็นห่วงเสมอ อ.นิ่ม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท