หลายเรื่องราวในชั้นเรียน(๑.๒) ขอพักคุยก่อนเข้าชั้นเรียน
เดิมทีผมตั้งใจจะเล่าเรื่องในชั้นเรียน ไล่เรียงตามจริง จากต้นจนถึงวันเวลาที่มานั่งเล่าเรื่องอยู่ที่นี่ แต่คิดอีกทีเพื่อให้บรรยากาศต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว ผมจึงจะขอเล่าเรื่องความเป็นมาให้เข้าใจภาพรวมอย่างชัดเจนขึ้นอีกนิดนะครับ...
จากตอนต้นๆที่ผมเล่าว่า ผมเริ่มต้นเข้าสู่ชั้นเรียนวิชาโหราศาสตร์อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ด้วยแรงจูงใจที่ไม่เหมือนใคร และขอบอกว่าหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่สนุกสุดๆ แต่ก็ต้องขอยอมรับตามตรงว่าผมเรียนหลักสูตรนี้แบบไม่ค่อยต่อเนื่องนัก เพราะภารกิจมีมากมายจริงๆ จำได้ว่าผมกับนายประกันเป็นสองคนแรกของกลุ่มที่อาจารย์กานต์ส่งเข้าสู่ชั้นเรียนของอาจารย์ใหญ่ (ไม่แน่ใจว่าเพราะผมสองคนเข้าใจพื้นฐานดีแล้ว หรืออาจารย์ท่านรำคาญที่พวกผมพูดมาก ถามมากทั้งคู่)
ในชั้นเรียนของอาจารย์ใหญ่ มีนักเรียนไม่แน่นอน บางครั้งก็มานั่งเรียนกันเป็นสิบ บางครั้งเหลือเพียงห้าหกคน มารู้ที่หลังว่าส่วนใหญ่แล้วลูกศิษย์ของท่านเป็นหมอดูอาชีพกันเกือบทั้งหมด มีทั้งที่นั่งทำนายตามสมาคม ชมรม และตามโรงแรมมีชื่อเสียง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด แวะเวียนมาทบทวน ฟื้นฟู (refresh) ความรู้ที่เรียนไปจากอาจารย์ สำหรับผมกับนายประกัน ถึงจะเป็นน้องใหม่ในชั้น น้อยกว่าทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ แต่ก็มักจะยกมือตอบอาจารย์เป็นคนแรกเสมอ ตอบถูกบ้างผิดบ้างก็ไม่มีอาย ถือซะว่าเป็นการเขี่ยบอลให้คนอื่นช่วยกันเตะ เป็นที่สนุกสนานเบิกบานอารมณ์ทั้งชั้นเรียน ผมเรียนอยู่ประมาณ ๑ ปี ก็ต้องไปเข้ารับการศึกษาหลักสูตรทางทหารเรือ (หลักสูตรชั้นต้น) เป็นเวลา ๖ เดือน จึงต้องห่างหายไปจากชั้นเรียนโหราศาสตร์เนื่องจากหลักสูตรต้องมีการเดินทางดูงานอยู่บ่อยๆและต้องทำรายงานส่งครู ซึ่งในหลักสูตรนี้มีนักเรียนประมาณ ๖๐ คน ผม (ซึ่งกำลังร้อนวิชา) จึงถือโอกาสอันดีนี้ ตั้งเป็นห้องแล็บโหร ทำนายดวงเพื่อนๆในชั้นเรียน โดยไม่คิดค่าครูแต่อย่างใด (แต่ก็มักมีคนเอาขนมและของฝากมาให้แทนค่าครูเสมอ) เพื่อเก็บสถิติและสอบทานความรู้ที่เรียนมาจากอาจารย์ว่าจะมีความแม่นยำขนาดไหน...เอาไว้จะเล่าให้ฟังต่อไปครับ... พอจบจากเรียนหลักสูตรชั้นต้น ผมก็ได้กลับมาเรียนกับอาจารย์ อีกประมาณ ๖ เดือน (เรียนบ้าง หยุดบ้างเนื่องจากต้องไปราชการต่างจังหวัด) คราวนี้ต้องไปเข้ารับการศึกษาหลักสูตรเสนาธิการทหารเรือในปี ๒๕๓๗ เป็นเวลา ๑ ปี ซึ่งหลักสูตรนี้ผมมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนประมาณ ๑๕๐ คน ห้องแล็บโหรห้องที่ ๒ จึงเปิดตัวตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียน...แล้วจะเล่าให้ฟังประกอบการยกตัวอย่างการทำนายดวง ว่าจะมันระเบิดเถิดเทิงแค่ไหน ( หากมีเพื่อน เสธ. ทร. เข้ามาอ่านเจอ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกแฉความลับนะครับ เพราะตามจรรยาบรรณของโหรที่ดี จะต้องไม่เปิดเผยความลับของลูกค้า แต่ผมจะมีวิธีเล่าโดยไม่ให้กระทบกระเทือนถึงใคร...ขอรับรองด้วยเกียรติครับ)
หลังจากจบหลักสูตรเสนาธิการทหารเรือแล้ว ผมก็ได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติงานในตำแหน่งนายทหารฝ่ายอำนวยการ(ฝ่ายเสธ.)ของหน่วย ซึ่งมีงานค่อนข้างมาก ทำให้ผมไม่ได้กลับไปเรียนกับอาจารย์ใหญ่อีกเลย แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ผมได้ใช้วิชาของอาจารย์ ไปช่วยเหลือเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง และบุคลอื่นๆ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สิ่งที่ผมได้รับนั้นคือความสุขใจที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นให้พ้นทุกข์ ช่วยให้ข้อมูลและสถิติ ที่ไม่สามารถจับต้องได้สำหรับใช้ประกอบการตัดสินใจ และถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไปเรียน แต่เพื่อนฝูงโดยเฉพาะนายประกัน ก็มักจะโทรมาตั้งโจทย์ที่อาจารย์สอนแต่ละวันให้ผมลองทำนายอยู่เสมอ เหมือนไปนั่งเรียนด้วยตัวเอง อาจารย์ทั้งสองท่านก็กรุณาผมมาก ท่านได้ให้เพื่อนฝูงโทรมาตามตัวให้ผมกลับไปสอบไล่ เพื่อจะได้จบพร้อมๆกับรุ่น ( ให้สังเกตในใบประกาศนียบัตรตามรูปข้างล่าง จะเห็นว่าห้วงเวลาล่วงเลยจากที่ผมเริ่มเรียนจริงมานานพอสมควร) ซึ่งผมก็เอาตัวรอดมาได้ครับ...ต้องกราบขอบพระคุณอาจารย์กานต์ฯ และดวงวิญญาณของอาจารย์ใหญ่ที่สถิตอยู่ ณ สรวงสวรรค์เบื้องบนเป็นอย่างสูงครับ
รับประกาศและครอบครู
อีกหนึ่งความภูมิใจ
ผมจึงจะขอเกริ่นไว้ ณ ที่นี้ก่อนที่เราจะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันต่อไปว่า.... เหตุผลที่แท้จริง ที่ผมลุกขึ้นมาเขียนเรื่องราวเหล่านี้ ไม่ใช่เพราะต้องการโด่งดัง มีชื่อเสียง เพราะผมไม่ใช่หมอดูอาชีพและยังไม่เคยคิดจะเป็น (แต่หลังเกษียณอายุราชการแล้วอาจจะทำก็ได้นะครับ จะได้มีอะไรทำแก้เหงา นอกเหนือจากการทำสวนในที่ดินที่แม่ของผมทิ้งไว้ให้) แต่ผมทำเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ ของอาจารย์ทั้งสองที่จะนำวิชาความรู้ไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ และสืบสานวิชาความรู้ไม่ให้สูญหาย ปัจจุบันนี้ผมก็ยังคงทำนายดวงชะตาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย (แต่ผมเลือกทำนายเฉพาะคนที่มีความเดือดร้อนจริงๆและไม่สามารถหาทางออกของชีวิตได้ ญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง แค่นี้ก็รับไม่ไหวแล้วครับ) สำหรับตำรับตำราที่ผมมี (ทุกของสำนัก) ถ้าเพื่อนฝูงอยากศึกษา ผมก็ให้ยืมอ่าน เพียงแต่ขอร้องห้ามถ่ายเอกสารตามที่เจ้าของลิขสิทธิ์ห้ามไว้ ใครขอซื้อก็ไม่ขาย ดังนั้นเหตุผลเชิงพาณิชย์สำหรับผมแล้วไม่มีแน่นอน แต่เหตุผลสำคัญที่ผมเข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องนี้คือเพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาโหราศาสตร์อย่างถูกต้องว่า เป็นวิชาที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และสถิติ ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ผลการทำนายอาจจะมีทั้งผิดและถูกไม่ควรเชื่ออย่างงมงาย จรรยาบรรณที่ดีของหมอดูเป็นอย่างไร(ซึ่งปัจจุบันผมว่ามันชักจะลางเลือนลงทุกที).....และเหนือเหตุผลใดๆทั้งปวงก็คือ เพื่อเชิดชูเกียรติของครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณของผม ให้ชื่อเสียงของท่านอยู่คู่ฟ้าเมืองไทยตลอดไป......พบกันในตอนต่อไปครับ
ไม่มีความเห็น