มังคุดท่ามะพลากินได้ทุกลูก
อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ได้ชื่อว่าเป็นเมืองผลไม้โดยเฉพาะมังคุดอายุเป็นร้อยปี ผลผลิตมังคุดจำหน่ายผู้บริโภคทั้งภายในและภายนอกประเทศ ปีละหลายพันตัน บางปีเป็นหลายหมื่นตัน ผู้คนทั่วไปรู้จักดี วันนี้ขอแนะนำวิสาหกิจชุมชนกลุ่มมังคุดท่ามะพลา ผู้กล้าประกาศ มังคุดท่ามะพลากินได้ทุกลูกเขาทำกันอย่างไร
ผมมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชม ร่วมประชุม ร่วมเสวนา กับกลุ่มนี้หลายครั้งส่วนหนึ่งก็สนใจว่าทำไมเขาทำได้ ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2553 หลังจากไปเก็บภาพร่องรอยการผลิตมังคุดรอบ 2 ช่วงนี้เป็นช่วงดูแลดอกและผลอ่อนซึ่งต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องฉีดพ่นสารเคมีกำจัดหนอน เพลี้ยไฟ ไรแดง และปุ๋ยทางใบ ช่วงพัก มานั่งคุยกันที่บ้านกำนันเชาวลิต พุ่มขจร ผู้ร่วมวงนอกจากเจ้าของบ้าน ก็มีพี่อุไรวรรณ รื่นฤทัย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรผู้รับผิดชอบตำบลท่ามะพลา คุณสมพงษ์ จินาบุญ ประธานกลุ่ม คุณสิทธิพงษ์ อรุณรักษ์ รองประธาน จากการพูดคุยกันทำให้ทราบว่า วิสาหกิจชุมชนกลุ่มมังคุดท่ามะพลา เดิมเป็น กลุ่มมังคุดคุณภาพหมู่ 7 ท่ามะพลา โดยเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตตามมาตรฐาน GAP ตั้งแต่ปี 2547 และสมาชิกทุกคนได้รับการรับรองแหล่งตามมาตรฐาน GAP (Q) ทุกแปลง แต่ผลที่ได้รับสมาชิกก็ยังขายผลผลิตได้ราคาเท่ากับเกษตรกรทั่วไป คุณสมพงษ์ เล่าว่า เราต้องขายมังคุดให้ได้ราคา โดยทำมังคุดเกรดส่งออก ผิวมันหูเขียว การผลิตต้นทุนค่อนข้างสูงถ้ามีข้อผิดพลาดขาดทุน เนื่องจากต้องหมั่นดูแลและป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ ไรแดงและสารเคมีที่ใช้ต้องปลอดภัยกับผู้บริโภค ซึ่งมีราคาแพง ทำไปได้ 1 ฤดูกาลสมาชิกลดลงเหตุผลเนื่องจากค่อนข้างจะเป็นเกษตรประณีต ประกอบกับพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบในการคัดเกรด ผลผลิตราคาสูง เบอร์ 1 สัดส่วนน้อย เบอร์ 2 มากและสืบทราบมาว่าพ่อค้าซื้อแล้วไปคัดที่ล้งจากเบอร์ 2 ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ต้องกลับมาทบทวนกันใหม่ “ต้องทำให้ได้” จากคำพูดของรองประธาน คุณสิทธิพงษ์ โดยที่ตัวเองเข้าไปศึกษาการคัดเกรดมังคุดเกรดส่งออก คัดออกมาเป็น 6 เกรด และเป็นมาตรฐานของกลุ่มจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
มังคุดเบอร์1 : มังคุดผิวมันหูเขียวขนาดน้ำหนัก 80 กรัมขึ้นไป
มังคุดเบอร์2 : มังคุดผิวมัน
มังคุดเบอร์3 : มังคุดผิวมันหูเขียวขนาดน้ำหนัก 56-79 กรัม
มังคุดเบอร์4 : มังคุดผิวมันลาย 100% ขนาดน้ำหนัก 56 กรัมขึ้นไป
มังคุดเบอร์ดอก : มังคุดขนาดน้ำหนัก 55 กรัมลงมา
มังคุดเบอร์ดำ : มังคุดที่มีสีคล้ำถึงดำ
คุณสิทธิพงษ์ เล่าให้ฟังว่า ในช่วงแรก คณะกรรมการกลุ่ม 3 คนช่วยกันคัดมังคุดจากสมาชิกจำนวน 10 ตัน ตั้งแต่ 6 โมงเย็น จนถึง 2 โมงเช้าอีกวันหนึ่ง 3 วันติดต่อกันคิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ถ้าจะไม่ไหวเลยให้สมาชิกช่วยกันคัด แล้วให้หัวหน้าชุด 1 คนคุมสมาชิก 5 คน ปัจจุบันสมาชิกทุกคนสามารถคัดเกรดมังคุดออกเป็น 6 เบอร์ได้ทุกคนมาตรฐานใกล้เคียงกันทำให้ไม่มีปัญหาการคัดเกรดในช่วงการประมูล การประมูลของที่นี่ประมูลทุกเบอร์ เริ่มประมูลเวลา 5 โมงเย็น ผมถามประเด็นในการดูแลรักษาในการผลิตว่ามีการจัดการกันอย่างไรนอกจากการประชุมกันบ่อยครั้งแล้ว กลุ่มยังมีผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะคุณสิทธิพงษ์ คุณสมพงษ์ และท่านกำนันเชาวลิต เล่าให้ฟังว่านอกจากนักวิชาการเข้ามาแนะนำแล้วก็ไปดูงานในสถานที่ต่างๆที่ผลิตมังคุดคุณภาพเช่น นครศรีธรรมราช แล้วนำมาพัฒนา มีประเด็นหนึ่งที่ผมประทับใจ ท่านบอกว่าสมาชิกไม่เข้าใจว่าเพลี้ยไฟ ไรแดงมันอยู่อย่างไร ลักษณะ เพราะไม่เคยเห็น พ่นสารเคมีแบบคาดเดาเอา คุณสิทธิพงษ์ บอกว่าหลังจาการประชุม พาสมาชิกไปที่ต้นมังคุด โดยพกกระดาษขาว และแว่นขยายไปด้วย แล้วไปเคาะที่ลูกมังคุด ใช้แว่นขยายส่งดูแล้วบอกว่า “ตัวที่คลานคือเพลี้ยไฟตัวที่กระโดดคือไรแดง” ผมแอบภูมิใจว่านี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของรุ่นพี่ได้มาแนะนำไว้ โดยเฉพาะพี่ล็ก อุไรวรรณ รื่นฤทัย อีกประเด็นหนึ่งถ้าพบว่าเป็นช่วงภาวะเสี่ยงจะพ่นสารเคมีพร้อมกัน เพราะมิฉะนั้น สวนที่ไม่ได้ฉีดจะเสียหายหนัก ศัตรูพืชสองชนิดนี้เป็นอุปสรรคต่อการทำมังคุดผิวมัน ผมทราบข่าวก็เลยเข้ามาเก็บภาพร่องรอยไว้ในช่วงรุ่นแรกมาเก็บภาพไม่ทัน และเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2553 มีการประชุมกลุ่มฯและรับสมาชิกเพิ่ม มีผู้มาสมัครเพิ่ม 36 ราย คาดว่าผลผลิตชุดนี้จะเก็บเกี่ยวได้ปลายเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2553 ผลผลิตภายในกลุ่มประมาณ 200 ตัน และรับประกันว่า “มังคุดท่ามะพลากินได้ทุกลูก”
ร่องรอยของความมุ่งมั่น
ปี 2553 ผลผลิตน้อยเปิดประมูลวันเว้นวัน ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2553-17 สิงหาคม 2533 ได้ราคาสูงสุดเบอร์ 1 กิโลกรัมละ 51 บาทเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2553 จำนวน 1238 กิโลกรัม จากผลผลิตที่นำเข้าประมูล 1645 กิโลกรัมและต่ำสุดเบอร์ 1 กิโลกรัมละ 19 บาทเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2553 จำนวน 855 กิโลกรัม จากผลผลิตที่นำเข้าประมูล 6132 กิโลกรัม ผลผลิตที่ประมูลของกลุ่มทั้งหมด 115477 กิโลกรัม แยกเป็น เบอร์ 1 จำนวน 30341 กิโลกรัม เบอร์ 2 จำนวน 8503 กิโลกรัม เบอร์ 3 จำนวน 14035 กิโลกรัม เบอร์ 4 จำนวน 13550 กิโลกรัม เบอร์ ดอก จำนวน 39666 กิโลกรัม เบอร์ ดำ จำนวน 9382 กิโลกรัม โดยมีผู้มาประมูลสูงสุด 13 รายใน 1 วัน คุณสิทธิพงษ์ เสริมว่า “สมาชิกกลุ่มฯไม่ทราบเลยว่าราคาข้างนอกเขาซื้อขายกันอย่างไร”เพราะนำผลผลิตมาประมูลที่กลุ่มฯทั้งหมด
การได้รับการสนับสนุน
- จากองค์การบริหารส่วนจังหวัด สร้างอาคารศูนย์รวบรวมผลผลิต
- จากงบพัฒนาจังหวัดโดยสำนักงานเกษตรจังหวัด สนับสนุนตะกร้าพลาสติกหูเหล็ก
ช่วงใบอ่อนและผลอ่อนเป็นช่วงสำคัญต้องมีการพ่นสารเคมีกำจัดหนอน เพลี้ยไฟ ไรแดง
การคัดคุณภาพผลผลิตจากสวนของสมาชิกโดยสมาชิก
นำผลผลิตมาที่กลุ่มเพื่อรอการประมูล
เปิดประมูล รอลุ้น
การประชุมกลุ่ม
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของร่องรอยการค้นหาความจริง กระบวนกลุ่มได้สร้างแนวคิด ทางออก จากการแลกเปลี่ยนประการณ์ ด้วยจิตอาสาและความมุ่งมั่น ความสามัคคีคือทางรอด “มังคุดท่ามะพลากินได้ทุกลูก” ไม่ใช่คำพูดลอยๆ
ประสงค์ บุญเจริญ
1. พี่ขอแสดงความชื่นชมในจิตวิญญาณ และการกระทำของน้องประสงค์ ที่ทำงานอย่างเป็นระบบตั้งแต่กำหนดยุทธศาสตร์ (พี่เคยอ่านยุทธศาสตร์มังคุดของน้อง) การแปลงยุทธศาสตร์ลงสู่การปฏิบัติ การติดตาม การถอดองค์ความรู้ รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะการเผยแพร่ในลักษณะเล่าความข้างบนนี้ ดีมาก ทำให้มองเห็นภาพที่ทำมาทั้งกระบวนการ ซึ่งผู้อ่านสามารถวิเคราะห์ศักยภาพและปัญหา และเสนอแนะแนวทางการการแก้ปัญหา และวางแผนพัฒนาต่อยอดได้ง่าย
2. ขอชื่นชมน้องเล็กอุไรวรรณ ที่สร้างงาน/สานฝันด้วยความขยันมาถึงวันนี้
3. ขอชื่นชมคณะกรรมการกลุ่มที่ช่วยกันพัฒนามาอย่างเป็นขั้นตอน และหวังว่าจะเป็นแม่ข่ายในการพัฒนามังคุด ให้ทุกทิศ ทั่วไทย เมื่อคิดถึงมังคุดทีไร ต้องคิดถึงมังคุดท่ามะพลา หรือมังคุดหลังสวนก่อน (มังคุดท่ามะพลากินได้ทุกลูก , มังคุดท่ามะพลา มังคุดเต็มกิโล)
พี่เชื่อมั่นว่า การพัฒนา เดินมาถูกทางทั้งการพัฒนากลุ่มและการพัฒนากิจกรรม (ธุรกิจ) โดยเฉพาะการผลิต การคัดเกรด และการควบคุมคุณภาพ
สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การรับสมาชิกใหม่ จะต้องให้มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของกลุ่มและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้นด้วย และควรจะมีระยะทดลองหรือทดสอบสมาชิกใหม่ก่อนที่จะรับเข้าเป็นสมาชิกสามัญ
มีอะไรที่คิดว่าพี่พอที่จะช่วยได้ โปรดอย่างเกรงใจ โทร.081-319-4435 ได้ตลอดเวลา (รวมทั้งทุกท่านที่อ่านกระดานข่าวนี้)
วิโรจน์ แสงบางกา
ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาเกษตรกรและองค์กรเกษตรกร
มังคุดที่นี้มีพ่อค้ามาชื้อเพื่อทำการส่งออกใหมค่ะ? ถ้าจะติดต่อชื้อส่งออกควรทำอย่างไรและติดต่อใคร? ขอบคุณค่ะ