เรื่องประทับใจของจิตเวช


หัวใจของความเป็นมนุษย์

เรื่องเล่าจิตเวช   :   หนูยังไม่อยากเป็นแม่

         เย็นวันหยุดวันหนึ่งที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน มีผู้ป่วยเด็กสาวคนหนึ่ง มารับการรักษาด้วยอาการปวดท้องโดยมีบิดาเป็นผู้นำส่งโรงพยาบาล โดยเด็กสาวให้ประวัติว่ากำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง   ในตอนแรกเด็กสาวปฏิเสธประวัติการมีเพศสัมพันธุ์แต่เนื่องจากพยาบาลห้องฉุกเฉินสังเกตเห็นว่าผู้ป่วยมีระดับหน้าท้องที่โตเกือบสะดือ สงสัยว่าอาจจะท้อง จึงได้ใช้หูฟังลองฟังเสียงหัวใจเด็กผ่านทางหน้าท้อง ผลพบว่าสามารถฟังเสียงหัวใจเด็กได้  และได้สัมภาษณ์ผู้ป่วยและบิดาผู้ป่วยทราบว่าผู้ป่วยไม่มีมารดา โดยบิดาได้แยกทางกับมารดามาตั้งแต่ผู้ป่วยยังเล็ก ๆ ปัจจุบันผู้ป่วยอยู่กับบิดาและน้องสาวซึ่งอยู่ในวัยเรียนทั้งพี่และน้อง บิดามีอาชีพรับจ้างรายได้ต่ำ และที่สำคัญบิดาไม่ทราบที่บุตรสาวตั้งครรภ์  พยาบาลเวรได้ตัดสินใจโทรศัพท์ปรึกษาพยาบาลเฉพาะทางจิตเวชเพื่อหาทางออกและแนวทางในการดูแลผู้ป่วยซึ่งมีท่าทีปฏิเสธไม่รับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น ตัวข้าพเจ้าเองซึ่งเป็นพยาบาลเฉพาะทางจิตเวชในตอนนั้นต้องถือว่ามือใหม่อยู่พอสมควร ยังไม่เคยเจอเรื่องราวแบบนี้มาก่อน ตอนนั้นข้าพเจ้ากำลังทำหน้าที่ดูแลครอบครัวของข้าพเจ้า เตรียมทำอาหารเย็นให้แก่ลูก ๆ และมารดาเพราะเป็นวันหยุด ข้าพเจ้ารู้สึกอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อได้รับโทรศัพท์จากน้องพยาบาลเวรที่โรงพยาบาล ในขณะเดียวกันความรู้สึกในตอนนั้นรู้สึกชื่นชมน้องพยาบาลคนนี้มากที่เธอเป็นคนละเอียดอ่อนที่สำคัญเธอคงมีหัวใจของความเป็นมนุษย์อยู่มากที่ไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไปแบบธุระไม่ใช่ ซึ่งเธอก็สามารถทำได้แต่เธอเลือกที่จะช่วยมากกว่า ในตอนนั้นสมองของข้าพเจ้าคิดว่าจะต้องช่วยเหลือเด็กสาวผู้ป่วยรายนี้ให้ได้ แต่จะทำอย่างไรดีล่ะ ในอันดับแรกคิดว่าต้องทำความเข้าใจประวัติการเจ็บป่วยให้มากที่สุดก่อนจึงได้สอบถามประวัติเพิ่มเติมจากน้องพยาบาลพอเข้าใจ และแนะนำให้ Admit เด็กสาวไว้ก่อนโดยที่ยังไม่ต้องคาดคั้นหรือแจ้งว่าเด็กสาวกำลังท้อง และบอกน้องพยาบาลว่าวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันจันทร์ข้าพเจ้าจะให้การ counseling เองและจะหาทางช่วยเหลือเด็กสาวต่อไป

        เช้าวันจันทร์ข้าพเจ้าเข้าไปทำงานที่โรงพยาบาล ในสมองยังจดจำเรื่องราวของผู้ป่วยรายนี้เอาไว้เป็นอย่างดีและได้ประสานไปยังตึกผู้ป่วยในเพื่อหาทางช่วยเหลือเด็กสาว รายนี้ ข้าพเจ้าได้ให้การปรึกษาแก่เด็กสาว โดยเริ่มจากการแนะนำตัว เพื่อสร้างสัมพันธภาพและความไว้วางใจแก่เด็กสาว ในครั้งแรกที่เจอกัน เด็กสาวดูเป็นคนหน้าตาซื่อ ๆ ผิวคล้ำ ไม่แต่งหน้า พัฒนาการทางร่างกายตามวัย สีหน้าซึมมีแววตาฉายความกังวลอยู่ค่อนข้างมาก  ข้าพเจ้าได้เสนอการช่วยเหลือพร้อมแสดงความจริงใจแก่เด็กสาว ทำให้เด็กสาวยอมปริปากบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของเธอให้ข้าพเจ้าฟัง เธอเล่าว่าเธอยังไม่เคยได้เห็นหน้าแม่ ไม่รู้ว่าแม่จะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า โตขึ้นมาก็จำได้ว่ามีบิดาและน้องสาวอยู่ร่วมกันมาจนตอนนี้เธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 2 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง บิดาของเธอมีอาชีพก่อสร้าง มีรายได้น้อย เวลาเธอไปโรงเรียนบิดาจะให้เงินคนละ 10 บาททั้งตัวเธอเองและน้องสาว ทำให้บางครั้งเธอไม่ได้รับประทานอาหารกลางวันหากครูเก็บเงินค่ากิจกรรมพิเศษต่าง ๆ ข้าพเจ้ารับฟังด้วยใจที่อดนึกเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้ตอนวัยเท่านี้ บิดามารดาของข้าพเจ้าก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่ร่ำรวยอะไร แต่ก็ไม่เคยต้องอดแบบนี้ ทำให้อยากรู้เรื่องราวของเธอมากขึ้น เธอเล่าต่อไปว่า ที่โรงเรียนเวลาเรียนหรือครูจัดกิจกรรมที่ต้องใช้เงิน บิดาก็ไม่สามารถจะหาเงินให้เธอไปซื้ออุปกรณ์การเรียนได้ ทำให้เธอต้องยอมมีเพศสัมพันธุ์โดยครั้งแรก ๆ กับเพื่อนของบิดาโดยเขาจะให้เงินมาใช้ครั้งละ 100-200 บาท ต่อมาบิดาทราบจึงลงโทษด้วยการตีด้วยเข็มขัดและสั่งให้เลิกทำ ต่อมาเธอหารายได้ด้วยการไปเก็บเงินค่าน้ำประปา วันหนึ่งถูกชายเพื่อนบ้านตรงข้ามเรียกให้เข้าไปเอาเงินในห้อง แต่เมื่อเธอขึ้นไปจึงถูกชายคนนั้นปลุกปล้ำข่มขืน หลังจากนั้นก็หยิบเงินให้เธอ200 บาท และยังบอกว่าอย่าเอาเรื่องไปบอกใคร ถ้าคราวหน้าอยากได้เงินก็มาอีก เธอบอกว่าหลังจากนั้นเธอก็ไม่กล้าไปอีก และไม่กล้าบอกกับใครแม้กระทั่งบิดาตนเอง แต่ก็รู้สึกกังวลบ้างที่ประจำเดือนไม่มา ขณะเล่าสีหน้าเธอเป็นทุกข์ เธอบอกว่าก็กลัวว่าท้องอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เธออยากเรียนหนังสือให้จบก่อน  ข้าพเจ้าได้ถามเธอว่าตอนนี้อยากให้หมอช่วยอะไรเธอบ้าง เธอบอกว่าเธออยากให้หมอช่วยทำแท้งให้เธอด้วย ข้าพเจ้ารู้สึกเห็นใจในความทุกข์ของเธอมากเพราะมันหมายถึงอนาคตของเธอ การเรียนของเธอคงต้องหยุดชะงักลงแน่ แต่ก็จำเป็นต้องให้ข้อมูลตามความเป็นจริงว่าโรงพยาบาลทุกแห่งไม่มีนโยบายในเรื่องของการทำแท้ง และการทำแท้งถือว่าเป็นบาปมากเพราะเหมือนเป็นการฆ่าคนคนหนึ่งเลย แต่เราจะมีการประสานการช่วยเหลือไปยังสังคมสงเคราะห์ และกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อที่จะได้ร่วมกันหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหานี้ หลังจากการให้การปรึกษาเธอดูมีสีหน้าที่คลายกังวลลงมาบ้าง ข้าพเจ้าได้ส่งตัวกลับไปพักผ่อนที่ตึกผู้ป่วยในพร้อมกับได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตึกผู้ป่วยในในการดูแล ประคับประคองจิตใจแก่เธอในระหว่างที่กำลังหาทางออกให้กับเธอ และต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตึกผู้ในทุกคนที่ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการดูแลเธอด้วย

        ต่อมาหลังจากได้พูดคุยกับเธอแล้ว ข้าพเจ้าได้โทรศัพท์ประสานงานไปยังพมจ.แพร่และสังคมสงเคราะห์เพื่อขอความช่วยเหลือและหาแนวทางแก้ไขก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่จาก พมจ.แพร่ได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือเธอและรับเธอเข้าไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแพร่ พร้อมกับช่วยเหลือจัดการเรื่องบุตรของเธอ โดยในช่วงที่ตั้งครรภ์ให้เธอพักอาศัยอยู่ที่นั่นและได้คัดเลือกหาครอบครัวที่อยากจะมีบุตรบุญธรรมและมีความพร้อมที่รับบุตรของเธอไว้เลี้ยงเป็นบุตรจริง ๆ   ในช่วงที่เธอตั้งครรภ์ได้ประมาณ 32 สัปดาห์ ข้าพเจ้าได้มีโอกาสพบเธอโดยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กได้พาเธอมาพบที่ห้องให้การปรึกษาและให้ข้อมูลว่าตอนนี้กำลังดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดต่อเธอ ในครั้งนั้นข้าพเจ้าสังเกตว่าเธอดูเปลี่ยนไปมากจากเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ผิวคล้ำ สีหน้าท่าทางซึมเปลี่ยนไปเหมือนคนละคน วันนี้เธอดูมีสีหน้ายิ้มแย้มและแววตาที่สดใสดูมีความหวัง ร่างกายสมบูรณ์ตามแบบฉบับของคนที่กำลังจะเป็นแม่คนควรจะเป็น เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กยังให้ข้อมูลอีกว่าทางบ้านพักยินดีส่งเสริมในเรื่องการเรียนและอาชีพแก่เธอเต็มที่หลังจากคลอดแล้วขึ้นอยู่กับความใฝ่ดีของเธอเอง  ข้าพเจ้ารู้สึกปลื้มปิติในใจที่ทีมงานของเราได้ให้โอกาสแก่เธออีกครั้ง  เธอโชคดีที่ได้เจอกับพยาบาลห้องฉุกเฉินที่มีหัวใจความเป็นมนุษย์ ได้เจอกับพยาบาลในตึกผู้ป่วยในที่เอาใจใส่รายละเอียดความเจ็บป่วย ได้เจอกับทีมงานทุกคนที่ให้การช่วยเหลือประสานงานกันทั้งในหน่วยงานและนอกหน่วยงาน ทั้งบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแพร่และพมจ.แพร่ ข้าพเจ้าอยากขอบคุณทุก ๆ คนแทนเธอจริง ๆ ที่มีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือเธอในครั้งนั้นและขออวยพรให้เธอจงฝ่าวิกฤติของชีวิตในครั้งนี้ไปด้วยดี มีอนาคตที่แจ่มใส และแล้วในที่สุดผู้ที่ลงมือกระทำผิดกับเธอก็ได้รับโทษจำคุกตามผลกรรมที่เขาได้กระทำไว้กับเธอ

                                                               LAIAT K

 

หมายเลขบันทึก: 393672เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2010 09:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 03:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

อ่านแล้ว รู้สึกดีจัง........ขอชื่นชมและให้กำลังใจนะ........นี่แหละ ตัวตนของบุคคลในเครื่องแบบสีขาว ตัวจริง .....noot

เรียนท่านIco64

    เรื่องนี้หวังว่าคนทำคงสำนึกผิดนะคะ เป็นกำลังใจให้"หนูยังไม่อยากเป็นแม่"ด้วยนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท