การจัดการความรู้เพื่อลดความทุกข์แบบ “คนธรรมดา”


โดยการจัดการความรู้ เพื่อเข้าใจตัวเอง เข้าใจทรัพยากร เข้าใจสังคม เข้าใจธรรมชาติ เข้าใจโลก

ตั้งแต่สมัยผมไปเรียนปริญญาเอกที่ประเทศออสเตรเลีย ประมาณ ๓๐ ปีมาแล้ว ผมได้รับคำถามที่พยายามสร้างกิเลสให้ผมจากนักเผยแพร่ศาสนาท่านหนึ่งว่า

"ถ้าท่านเลือกได้ ท่านอยากเป็นอะไรมากที่สุด"

ผมเกือบตกหลุมพรางของเขา แต่ก็พลิกความคิดได้ทัน และรีบตอบว่า

“อยากเป็นคนธรรมดา (Normal person)”

ที่เขาน่าจะสะดุดแบบถามต่อไม่ได้ แล้วก็เดินจากไปแบบผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด

แต่ถ้าถามต่อ ผมก็มีคำตอบรออยู่แล้วว่า คนธรรมดา คือ

“ไม่จน ไม่รวย ไม่เจ็บ ไม่ทุกข์ ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง”

เพราะ ผมคิดเอาเองว่าน่าจะมีลักษณะอย่างนั้น มีชีวิตที่เรียบง่ายไม่ต้องดิ้นรน และน่าจะสบายที่สุด

ต่อจากนั้นผมก็ค่อยๆคิดมาเรื่อยว่า คำตอบที่ผมตอบแบบพลิกสถานการณ์ไม่ให้เขามากวนใจนั้น น่าจะทำได้อย่างไรบ้าง

โดยพยายามเข้าใจธรรมชาติ เข้าใจตัวเอง เข้าใจสังคม และความจริงที่พอจะสัมผัสได้ จึงได้ข้อสรุปเพื่อการดำเนินชีวิตที่ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ

เพื่อพัฒนาตัวเองสู่ความเป็นคน “ธรรมดา” ให้เข้าใจ “ความเป็นเช่นนั้นเอง”

และผมได้พบประเด็นสำคัญๆ ได้แก่

ความไม่จน สามารถพัฒนาจาก

  • ความเข้าใจในปัจจัยสี่เพื่อการดำรงชีวิต
  • การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย
  • กินอยู่แต่พอดี กินของที่มีประโยชน์ "กินด้วยใจที่รู้ค่า" อร่อยไม่อร่อยไม่ใช่สาระ
  • ไม่ฟุ้งเฟ้อ โอ้อวด หรือหน้าใหญ่
  • ทำหน้าที่ของตัวเองตามสมควร
  • ที่จะไม่มีทางจน

ความไม่รวย สามารถพัฒนาได้จากทำความเข้าใจถึงความจำเป็นในชีวิต ว่าจะ

  • จำเป็นต้องใช้อะไรบ้าง และจัดหาตามความจำเป็น หรือจะเผื่อก็เล็กน้อย
  • โดยไม่พยายามหามากกว่านั้น
  • ถ้ารู้ว่าเหลือเกินความจำเป็นเมื่อไหร่ ให้รีบแจกจ่าย ทำบุญทำทาน

ความไม่เจ็บ โดยการรักษาสุขภาพ

  • ออกกำลังกายอย่างธรรมชาติ
  • รับประทานอาหารที่สะอาดปลอดภัย ละเว้นการบริโภคสารพิษ สารเสพติด
  • บริโภคในจำนวนพอดี ไม่มาก ไม่น้อย และ
  • พยายามตรวจสอบสุขภาพร่างกายสม่ำเสมอ ถ้ามีอะไรผิดปกติให้รีบแก้ไข
  • แต่ไม่ควรรับประทานยา "กลบความรู้สึก" หรือ ยาบำรุง วิตามินที่เป็นการหลอกตัวเองให้เป็นคนผิดธรรมชาติ หรือ “ไม่ธรรมดา”

ความไม่ทุกข์ โดยการเข้าใจความจริงของชีวิต

  • เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา
  • ตายแล้วก็ไปเกิดใหม่ สดใสกว่าปัจจุบัน
  • จะทุกข์ไปทำไมให้เสียคุณภาพชีวิต
  • แค่เตรียมตัวให้พร้อมไว้เสมอ และ
  • การทำตัวทำใจให้พร้อมที่จะตาย แบบไม่ให้ใครเดือดร้อนเป็นการลดหรือกำจัดความทุกข์ที่ดีที่สุดที่ผมทำอยู่เสมอ

ความไม่โลภ โดยการเข้าใจความจำเป็นพื้นฐาน และความเป็นธรรมชาติของสรรพสิ่ง

  • ความจริงแล้ว ไม่มีอะไรเป็นของใคร
  • ของใดที่เรามีแต่ไม่ใช้ มีค่าเท่ากับไม่มี แต่เสียเวลาดูแลวุ่นวาย เปล่าประโยชน์
  • ของที่เราใช้หรือมีอยู่ เป็นของที่เรายืมมาทั้งสิ้น
  • วันหนึ่งก็ต้องคืนเขาไปทั้งหมด แม้แต่ตัวเราเอง จะโลภให้ทุกข์ไปทำไม

ความไม่โกรธ โดยการใช้ชีวิตที่ไม่ตั้งความหวังอะไรมากนัก

  • จะทำอะไรแค่คาดหวังไว้ก็พอ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
  • แต่ทำทุกอย่างเต็มที่เท่าที่ทำได้ และพอใจเท่าที่ได้จริงๆ
  • จะได้ไม่ผิดหวัง ที่เป็นที่มาของความโกรธ
  • และเมื่อมีใครพยายามทำให้เราโกรธ ก็อย่ารับเข้ามา
  • แบบพุทธโอวาทว่า “สิ่งใดๆที่คนอื่นนำมาให้ ถ้าเราไม่รับ สิ่งนั้นเป็นของใคร”
  • แล้วเราก็จะไม่ทุกข์กับมัน วางมันไว้ในจุดที่มันเกิดนั่นแหละ

ความไม่หลง นี่สำคัญมาก ที่ผมเคยถามและตอบตัวเองบ่อยๆว่า

  • คนที่หลง มักคิดว่าตัวเองไม่หลง
  • หนำซ้ำ ยังชอบคิดว่าคนอื่นหลงอีกต่างหาก จะแก้ไขได้อย่างไร
  • ที่ผมพบว่า การจัดการความรู้ เพื่อเข้าใจตัวเอง เข้าใจทรัพยากร เข้าใจสังคม เข้าใจธรรมชาติ เข้าใจโลก
  • แล้วความหลงจะค่อยๆลดลงเรื่อย จนเข้าใกล้ความเป็น “ธรรมดา” แบบ ไม่หลง ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ

 

ถ้าทำเช่นนี้แล้วไซร้ เราก็จะเดินทางเข้าสู่ความเป็น “คนธรรมดา” ได้ง่ายขึ้น

ที่มี สติ และ ปัญญา ในการดำรงชีวิตที่ดีครับ

นี่คือวิถีที่ผมคิดและใช้อยู่ทุกวัน และรู้สึกว่า “ธรรมดา” ดีครับ

แต่ผมก็ยังมีข้อสงสัยเหมือนกันว่า

“ผมกำลังหลงหรือเปล่า”

จึงพยายามเล่ามาเพื่อท่านผู้รู้จะได้ช่วยชี้แนะให้ผมด้วยครับ

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

หมายเลขบันทึก: 393272เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2010 08:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2012 11:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ครับ

นับวันความคิดของผมก็เปลี่ยนไปมากขึ้น เมื่อก่อนเราก็อยากโน่น อยากนี่ตามประสาครับ เเต่มาถึงวันหนึ่งเราก็มองว่า ความสุขที่เเท้จริง มันน่าจะเรียบง่าย เเละสอดคล้องทุนเดิมของตัวเอง ผมจึงโหยหาอย่างที่สุดคือ ความสงบ สุข เเละความเป็นธรรมดา

เเต่ความฝันผมก็ยังคงมีเพียงพอที่ขับเคลื่อนชีวิตไปครับ

 

 

ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนที่สามารถนำพาตัวรอดได้ดีครับ

แต่ขอให้ลองปรับแนวคิดผมไปใช้ อาจจะดีขึ้นก็ได้ครับ

และผมจะได้รู้ด้วยว่า ความคิดของผม "ผิดพลาดตรงไหน"

ผมจะได้กลับมาตรวจสอบและแก้ไขได้ตามความเหมาะสมครับ

ขอให้โชคดีครับ

  • สวัสดีครับท่านอาจารย์
  • ปกติคนเราเกิดมาก็ธรรมดาอยู่แล้วครับ แต่พอมาได้เติมแต่งมากขึ้น ทั้งเกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง การชื่นชมยอมรับจากคนอื่น ก็เลยคิดว่าตนเองไม่ใช่คนธรรมดาไป อยู่ยาก กินยาก คบคนยาก ใครก็ไม่คู่ควรเหมาะสมกับตนเอง กลายเป็นคนที่ถือตัว เข้าถึงยากไป
  • ชีวิตที่เรียบง่าย อยู่แบบพอเพียง รู้จักเพียงพอ คือรู้จักพัฒนาตนเองและพอใจกับสิ่งที่ตนเองมี ไม่ประมาท มีสติในการดำเนินชีวิต คือชีวิตที่มีความสุขครับ

ครับ

คนส่วนใหญ่ เขาไม่ชอบเป็นคนธรรมดาครับ

แม้แต่โฆษณาก็ชอบใช้คำจูงใจว่า "ไม่ธรรมดา"

นี่แหละครับ น่ากลัวครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท