กระบวนการทางปัญญา
1.ฝึกสังเกต
สังเกตในสิ่งที่เราเห็น หรือสิ่งแวดล้อม การสังเกตจะทำให้เกิดปัญญามาก โลกทรรศน์และวิธีคิด สติและสมาธิ จะเข้าไปมีผลต่อการสังเกตและสิ่งที่สังเกต
2.ฝึกบันทึก
เมื่อสังเกตอะไรแล้วควรบันทึก การบันทึกเป็นการพัฒนาปัญญา
3.ฝึกการนำเสนอต่อที่ประชุมกลุ่ม
เมื่อมีการทำงานกลุ่มเราไปเรียนรู้อะไรมาบันทึกอะไรมาจะนำเสนอให้เพื่อนหรือครูรู้เรื่องได้อย่างไรก็ต้องฝึกการนำเสนอ การนำเสนอได้ดีจึงเป็นการพัฒนาปัญญา รวมทั้งผู้นำเสนอและของกลุ่ม
4.ฝึกการฟัง
ถ้ารู้จักฟังคนอื่นก็จะทำให้ฉลาดขึ้นโบราณเรียกว่าเป็นพหูสูตร ฉันทะ สติ สมาธิ จะช่วยให้ฟังได้ดีขึ้น
5.ฝึกปุจฉา-วิสัชนา
เมื่อมีการนำเสนอและการฟังแล้วฝึกปุจฉา-วิสัชนาหรือถามตอบ ซึ่งเป็นการฝึกใช้เหตุผล วิเคราะห์ สังเคราะห์ ทำให้เกิดความแจ่มแจ้งในเรื่องนั้นๆ
6.ฝึกตั้งสมมติฐานและตั้งคำตอบ
เวลาเรียนรู้อะไรไปแล้ว เราต้องสามารถตั้งคำถามได้ว่าสิ่งนี้คืออะไร สิ่งนั้นเกิดจากอะไร อะไรมีประโยชน์ ทำอย่างไรจะประสบผลสำเร็จอันนั้น และมีการฝึกการตั้งคำถาม คำถามที่มีคุณค่าและมีความสำคัญก็อยากจะได้คำตอบ
7.ฝึกการค้นหาคำตอบ
เมื่อมีคำถามแล้วก็ควรไปค้นหาคำตอบจากหนังสือ จากตำรา จากอินเทอร์เน็ต การค้นหาคำตอบต่อคำถามที่สำคัญจะสนุก และทำให้ได้ความรู้มาก บางคำถามเมื่อค้นหาคำตอบทุกวิถีทางจนหมดแล้วก็ไม่พบ แต่คำถามยังอยู่ และมีความสำคัญ ต้องหาคำตอบต่อไปด้วยการวิจัย
8.การวิจัย
การวิจัยเพื่อหาคำตอบเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ทุกระดับ การวิจัยจะทำให้ค้นพบความรู้ใหม่ ซึ่งจะทำให้เกิดความภาคภูมิใจ สนุกและมีประโยชน์มาก
9.เชื่อมโยงบูรณาการ
เชื่อมโยงบูรณาการให้เห็น ความเป็นทั้งหมด และเห็นตัวเอง ธรรมชาติของสรรพสิ่งล้วนเชื่อมโยง เมื่อเรียนรู้อะไรมาอย่าให้ความรู้นั้นแยกเป็นส่วนๆ แต่ควรจะเชื่อมโยงเป็นบูรณาการให้เห็นความเป็นทั้งหมด
10.ฝึกการเขียนเรียบเรียงทางวิชาการถึงกระบวนการเรียนรู้และความรู้ใหม่ที่ได้มา
การเรียบเรียงทางวิชาการเป็นการพัฒาตนเองอย่างสำคัญและเป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ของผู้อื่นในวงกว้างออกไป
ไม่มีความเห็น