Everyone communicate but few connect ?


สวัสดีครับชาว Blog

ผมอ่านหนังสือเล่มล่าสุดของ John Maxwell เขาเรียนทางด้านพระหรือศาสนามาจึงเทศน์เก่ง

หนังสือเล่มล่าสุด บอกว่า Everyone communicate แต่ few connect จริง - John คงหมายถึง e-mail หรือ Blog หรือ Facebook คือ ก็ติดต่อกันทาง digital แต่ไม่มี Human Touch มี Relationship กัน ไม่มี Feeling ต่อกันซึ่งไม่ดี ผมจึงอยากให้ทุกคนได้ใกล้ชิดกัน ไว้ใจกัน คำถามคือทำอย่างไร?

จีระ หงส์ลดารมภ์

คำสำคัญ (Tags): #นวัตกรรม
หมายเลขบันทึก: 391921เขียนเมื่อ 7 กันยายน 2010 17:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 เมษายน 2012 18:03 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับอาจารย์จีระ

เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียวครับ สมัยก่อนคุณย่าผมเคยเล่าว่าในระแวกเดียวกันเราสามารถเดินขึ้นไปกินข้าวร่วมวงกับบ้านนั้นบ้านนี้ได้ แต่ทุกวันนี้อย่าว่าแต่ชื่อเพื่อนบ้านที่รั้วแทบจะเกยกันยังแทบไม่มองหน้ากันด้วยซ้ำ สังคมเอื้อเฝื้อเกื้อกูลแทบจะเหือดหายไปจากวิถีไทย ยิ่งสังคม Digi สังคม Online ละยิ่งไม่ต้องคิดมาก ทุกคนต่างเม้มซ่อนตัวเองไว้หลังล็อกอิน จะด่าว่าจะทำร้ายจิตใจใครก็ได้ในสังคมไซเบอร์นี้ แต่ไม่ใช่ว่าเรื่องดีดีจะไม่สามารถเกิด ผมไม่รู้ทฤษฏีหรือหลักแนวคิดอะไร ขอยกตัวอย่างที่เจอเองแล้วกันครับ

อย่างที่ผมเล่นประจำอยู่ที่ www.pantip.com ซึ่งก็จะมีห้องม๋าหรือที่มีชื่อว่าห้อง jatujak แรกๆตามประสาคนรักม๋าผมและหลายๆคนก็จะเข้าไปโพสรูปลูกๆตัวเอง โอ้อวดความเวอร์ที่เราสุมใส่สัตว์เลี้ยงแสนรักของเราไปตามเรื่อง แล้วด้วยความที่รักม๋าเป็นทุน พวกเราก็เริ่มช่วยเหลือบรรดาม๋าอื่นๆ พวกม๋าจรจัดที่เจ็บป่วย จนมีการรวมตัวกันจัดงานมี๊ดติ้งเพื่อระดมทุน จากบรรดาคนที่ต่างหลบอยู่หลังล็อกอิน ก็เริ่มออกมาพบปะพูดคุยกันโดยมีเรื่องของงานสาธารณะมาเป็นตัวดึง ก็อาจจะพอพูดได้ว่า ความรู้สึกดีดีระหว่างคนได้เกิดขึ้น อย่างสมัยกระแสเสื้อหลากสี ก็มาจากชาวไซเบอร์นี่ละครับ

อาจจะเป็นไปได้นะครับ ที่เราจะใช้อะไรบางสิ่งบางอย่างมาดึงดูดคนให้ออกมา reach out and touch แบบที่ไดอาน่า รอสว่าไว้

ไม่ทราบว่าพอจะเป็นเนื้อหรือเป็นน้ำได้บ้าง

ด้วยความนับถือครับ

กุ๊ก กฤษณพงศ์

(PhD.Communication Innovation/Krirk U.)

พ.ต.ท.กรธวัช สวัสดิ์โรจน์

ผมคิดว่าสังคมที่มีความซับซ้อนและวุ่นวาย(มองแบบตำรวจครับ)มากขึ้นก็เพราะการ communicate นี่แหละครับ ซึ่งในความคิดผมมันมีทั้งด้านดีและเสีย(เหรียญสองด้านตามเคย)..ดีก็อาจตามตัวอย่างที่ คุณกุ๊กฯ ได้มีความเห็นไปแล้วส่วนหนึ่ง..ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้..ได้มีการช่วยเหลือ..ได้มีการปรับทุกข์กัน...ได้ระบายอารมณ์...แต่ก็อาจทำให้ความสงบแห่งชีวิตที่ควรไปตามวิถีมนุษย์แบบเดิมๆเปลี่ยนไป..วุ่นวายมากขึ้น...รู้จักกันมาก..ต้องช่วยเหลือ..ต้องเคารพ..ต้องเผื่อแผ่...ต้องแสดงความมีน้ำใจ...ทำให้ชีวิตที่เป็นแบบเดิมอาจต้องเพิ่มภาระในส่วนนี้ไป...คือผมแค่อยากแสดงความคิดให้เห็นถึงการใช้การติดต่อสื่อสารสมัยใหม่ให้พอดีครับ....พอดี...พอเพียง....แบบไม่เป็นภาระ..ไม่ทำให้ชีวิตยุ่งยากซับซ้อน...ติดต่อใช้กันเพื่อช่วยเหลือกัน...แลกเปลี่ยนเรียนรู้...ไม่ต้อง Connect ก็ไม่เป็นไร.....ที่สำคัญ...เพียงแค่ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด...หน้าที่ลูก..หน้าที่พ่อแม่..หน้าที่นาย..หน้าที่ลูกน้อง...และอีกหลายๆหน้าที่...บนพื้นฐานความพอเพียง...เพราะยังงัยเสียผมว่า....ต่อให้ไม่ได้รู้จักใครเพิ่มขึ้นมาเลย....ชีวิตก็ยังมีความสุขอยู่ได้เป็นอย่างดี....อย่างสงบกว่าซะด้วยซ้ำ....อ้อ...อย่างไรก็ตามผมไม่ได้อคติกับการติดต่อสื่อสารสมัยใหม่นะครับเพราะผมก็ใช้ Social Network ทุกอย่างที่มีเหมือนกันครับ....แต่ก็แบบอย่างที่ผมว่าครับ...อย่างพอดี...ได้มิตรเพิ่มเป็นกำไร...ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท