แกงผักหวานป่า :
ในแบบที่อยากทำ อยากรับประทาน ประสานประโยชน์
กระผมมีโอกาสได้ไปจังหวัดสระบุรี เลยไม่พลาดที่จะมองหา “ผักหวานป่า” ที่จะมีให้รับประทานกันตามฤดูกาลเท่านั้น ก็ในช่วงนี้ฤดูร้อนถึงต้นฤดูฝน ระหว่างปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ผักหวานจะแตกใบอ่อนและจะผลัดใบในช่วงปลายฤดูหนาว ผู้เขียนเคยได้รับรู้มาว่าผักหวานป่า จะนิยมปลูกกันมากที่นี่ อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี มีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่เป็นคนในพื้นที่เอามาขายกัน ราคาที่ขายก็กำละ 20 บาท กำใหญ่ๆทั้งนั้นเลย ก็เลยได้ซื้อมา 2 กำ ยอดอ่อนๆ สวย สดและปลอดสารพิษ น่ารับประทานมากๆเลย
วันนี้เลยได้มีเมนูมาแนะนำ “แกงผักหวานป่า” ที่ผู้เขียนทำแบบง่ายๆ รับประทานกันในบ้านกับสภาพอากาศร้อนๆข้างนอก จะได้ไม่ต้องออกไปทานนอกบ้านกัน ได้ทั้งความสุขที่ได้ทำ ความสะอาดในการปรุง ดีต่อสุขภาพมีคุณค่าทางโภชนาการครบตามแบบที่อยากทำ อยากทาน ประสานประโยชน์ กันไปเลยค่ะ
แกงผักหวานป่า
ส่วนผสม/เครื่องปรุง
พริกขี้หนูแห้งหรือพริกขี้หนูสด 7-10 เม็ด
หอมแดง 4-6 หัว
กระเทียม 4-6 กลีบ
กะปิ 1 ช้อนชา
เกลือ 1 ช้อนชา
ปลาอินทรีย์เค็ม/ปลาทูเค็ม (ขูดเอาแต่เนื้อปลา) 2-3 ช้อนโต๊ะ
ใช้แทนน้ำปลาร้าหรือจะใส่น้ำปลาร้าก็ได้แล้วแต่ความชอบส่วนตัว
ผักหวานป่า 150 กรัม
ปลาย่าง/ปลาเล็กปลาน้อย 1 ถ้วย
พริกขี้หนูแห้ง - หอม – กระเทียม
ปลาเล็กปลาน้อยย่าง
ปลาเล็กปลาน้อยย่างโขลกป่น
ผักหวานป่าเด็ดยอดอ่อน
วิธีปรุง
- โขลกเครื่องแกง ให้ละเอียดพอประมาณ
- ใส่กะปิ ปลาเค็ม โขลกให้เข้ากัน
- แกะเนื้อปลาแห้ง 3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าเป็นปลาเล็กปลาน้อยใช้ทั้งตัว
ได้เลย) ลงโขลกรวมกับน้ำพริกให้ละเอียด
- ตั้งน้ำในหม้อให้เดือดใส่น้ำพริกที่โขลกลงในหม้อ
คนให้ทั่วพอน้ำแกงเดือดเอาเนื้อปลาแห้งที่เหลือลงต้ม
ให้เดือดอีกครั้ง
- ใส่ผักหวานป่าต้มต่อให้เดือดจนผักสุก
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาตามชอบ แต่ถ้าใส่ปลาเค็มจะออกรสเค็มอยู่
แล้วและจะหอมเนื้อปลาเค็ม ตักเสิร์ฟร้อนๆ
คุณค่า/ประโยชน์ที่ได้รับ
ผักหวานป่า มีรสหวานกรอบ ช่วยแก้ร้อนในกระหายน้ำ และระบายความร้อนเป็นผักที่มีวิตามินซี คาร์โบไฮเดรต วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 โปรตีน เหล็กและเบต้า-แคโรทีน แคลเซียม โปรตีน ฟอสฟอรัสสูง ซึ่งช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตา ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
ปลาเล็กปลาน้อย ปลาตัวเล็ก ๆ หรือที่เรียกกันว่า ปลาเล็กปลาน้อย นำมาทำให้กรอบก็รับประทานได้หมดทั้งตัว ก็จะได้รับแคลเซียมจากก้างปลา หัวปลา กระดูกปลา มีคุณค่าทางโภชนาการทำให้ไม่เป็นโรคกระดูก เพราะแคลเซียมจะช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงวัยซึ่งกระดูกเสื่อมลงมากแล้ว
การบริโภคปลาเล็กปลาน้อยนอกจากคุณค่าทางอาหารแล้วราคาก็ไม่แพงอีกด้วย สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง เนื้อปลามีสารอาหารจำพวกโปรตีนที่ช่วยสร้างพลังงาน เป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายและคุณภาพดี ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที จึงส่งผลถึงระบบการย่อยของเราที่ไม่ต้องทำงานหนัก ทำให้สุขภาพดีอยู่เสมอ เมื่อรับประทานแล้วไม่ทำให้เกิดโรคอ้วน ร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์
โปรตีนมีหน้าที่สำคัญคือ เสริมสร้างการเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ควบคุมการทำงานของร่างกาย เป็นองค์ประกอบของของ ฮอร์โมน , เอนไซม์ , สารต้านทานโรค , สารพันธุกรรม และสารสื่อประสาท
เห็นแบบนี้แล้วใครที่ไม่ชอบทานปลา “ลองเปลี่ยนพลิกมุมคิด” แล้วหันมารับประทานปลาเพื่อสุขภาพที่ดีกันเถอะค่ะ
ไม่มีความเห็น