วันที่ 17 ส.ค. 2553 ท่าอากาศสุวรรณภูมิ - สนามบินนาโกย่า
เวลา 21.45 น. คณะเดินทางพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ เคาท์เตอร์
สายการบินไทย เพื่อทำการ Check in และผ่านขั้นตอนต่างๆ
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่กรุงเทพ (Bangkok in Thailand)
ครูเฟิน (โคราช) ครูเจ๊าะแจ๊ (ขอนแก่น)
บริเวณเคาท์เตอร์การบินไทย ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
คณะผุ้ร่วมเดินทางพบปะพูดคุย แนะนำตัวกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และครูพลังงานทั้ง 6 คน
จากซ้าย : คุณมัณฑนา ฟูกุล(สนย.)/ อ.ชัชวางย์ ชัยชนะ(มช.)/ ครูสมศักดิ์ สาเกกุล(ร.ร.คีรีมาศพิทยาคม จ.สุโขทัย)/ ครูบัวแก้ว ศรีภูธร(ร.ร.หล่มเก่าพิทยาคม จ.เพชรบูรณ์)/ คุณจิราภรณ์ จงรั้งกลาง(สวภ.6)/ ครูแพรวพรรณ์ พฤกษ์ศรีรัตน์(ร.ร.ห้วยแถลงพิทยาคม จ.นครราชสีมา)/ ครูจุรีรัตน์ บุญมาวงศ์(ร.ร.สันกำแพง จ.เชียงใหม่) และ คุณวัลชัย ทิหงษ์สา(สวภ.9)
แถวยืนจากซ้าย : คุณวิมาลา แก้วเนิน(สนย.)/ คุณนวลจันทร์ เตชะเสริมสุขกุล(สนย.)
แถวนั่งจากซ้าย : คุณณรงค์ อยู่สนิท(สวพ.8)/ คุณสุรชัย สินประกอบ(สวพ.5)/ ครูปิยวรรณ มุลาลี(ร.ร.เมืองพลพิทยาคม จ.ขอนแก่น)/ ครูอำพรรณ ใบศรี(ร.ร.ศรีสำโรงชนูปถัมภ์ จ.สุโขทัย)
ท่าน ผอ.นที ทับมณี (สนย.) กล่าวทักทายพูดคุยวัตถุประสงค์ในการดูงาน และท่านเป็นหัวหน้าทีมในการศึกษาดูงานครั้งนี้ด้วย
อาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทั้ง 3 ท่าน เป็นพี่เลี้ยงและให้ความรู้ในการเดินทางไปศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ จากซ้าย : อ.โนบุทากะ อิโตะ (คณะวิศวกรรมศาสตร์ มช.)/ อ.ชัชวาลย์ ชัยชนะ(สวพ.นครพิงค์ มช.) และ อ.เศรษฐ์ สัมภัตตะกุล(LCM Center มช.)
ครูเฟิน อยู่บริเวณผู้โดยสารขาออก ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
รอเวลาขึ้นเครื่องอีก 2-3 ชั่วโมง เดินดูสินค้าปลอดภาษี DUTY FREE SHOP ภายในส่วนผู้โดยสารขาออก
สินค้าภายใน DUTY FREE SHOP
*****
เวลา 00.05 น. เดินทางโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 644
เส้นทางกรุงเทพ-สนามบินเมืองนาโกย่า(Chubu Airport Nagoya)
ระยะทางตามแผนที่การเดินทางบนเครื่องบินจาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-สนามบินเมืองนาโกย่า(Chubu Airport Nagoya) เท่ากับ 4,550 กิโลเมตร
วันที่ 18 ส.ค. 2553 ถึงสนามบินนาโกย่า(Chubu Airport Nagoya)
เวลา 08.00 น. เวลาประเทศญี่ปุ่น (เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) ถึงสนามบินเมืองนาโกย่า(Chubu Airport Nagoya)
สนามบินนาโกย่า (Chubu Airport Nagoya) เป็นสนามบินสร้างจากการนำดินมาถมทะเลให้เป็นเกาะ มีสะพานเชื่อมระหว่างสนามบินกับแผ่นดินใหญ่ของญี่ปุ่น
ภาพด้านหน้าของสนามบินนาโกย่า
ขณะเดินออกจากเครื่อง ถ่านภาพนี้ด้วยความรวดเร็ว เป็นภาพเครื่องบินจอดอยู่ที่สนามบินนาโกย่า
สมาชิกดูงานไปรับกระเป๋า และขนสัมภาระออกไปยังห้องผู้โดยสารส่วนนอกสนามบินนาโกยา
บริเวณทางเดินเลื่อนไปยังห้องผู้โดยสารส่วนนอกสนามบิน
ครูจุ๊ และครูเฟิน ขนสัมภาระมายังส่วนนอกสนามบิน
"ถึงญี่ปุ่นแล้วครับ" คุณสุรชัย สินประกอบ ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกบริเวณห้องผู้โดยสารส่วนนอกสนามบินนาโกยา
ถึงญี่ปุ่นแล้วจ้า ...จากซ้าย พี่นาย คนสวย (คุณมัณฑนา ฟูกุล..ประชาสัมพันธ์ชำนาญการพิเศษ สนย.) ครูบัวแก้ว ครูอำพรรณ ครูเฟิน ครูเจ๊าะแจ๊ะ และครูจุ๊ ไม่มีพี่สมศักดิ์อยู่ในภาพ(เป็นการเดินทางมาญี่ปุ่นครั้งแรกของครูพลังงานทั้ง 6 คน)
บรรยากาศภายในสนามบินนาโกย่าด้านนอก (เพราะด้านในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ)
ผู้โดยสารกำลังออกจากสนามบินนาโกย่า
แต่ละคนรีบจัดการภาระกิจส่วนตัวอย่างรวดเร็ว เพราะต้องไปดูงานต่อที่มหาวิทยาลัยมิเอะ
ห้องน้ำที่สนามบิน สะอาดมากๆๆๆ แต่กว่าจะกล้าใช้ เล็งอ่านหาปุ่มกดชักโครก ก็อ่านไม่ออก เพราะเป็นภาษาญี่ปุ่น กว่าจะเจอ (ลองผิดลองถูก) คำเตือน...จะกดปุ่มใหน ให้นั่งลงก่อน ไปก้มๆ มองๆ บนชักโครก เดี๋ยวน้ำล้างก้น จะฉีดมาล้างหน้าแทน (มีคนเตือนครูเฟินก่อนมาญี่ปุ่นจ้า)
หลังจากล้างหน้าแต่งหน้าสวยแล้ว ครูบัวแก้วกับครูอำพรรณ ก็มาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกบริเวณป้ายแนะนำมหาวิทยาลัยในห้องผู้โดยสารส่วนนอกสนามบินนาโกยา
คุณไกด์ "พี่จรัญ" มารับพวกเราที่สนามบิน เสื้อสีฟ้าคนกลางใส่แว่นเป็นคุณโชเฟอร์ขับรถพาเราไปสถานที่ต่าง ๆ ส่วนขวามือสุด อ.โนบุทากะ อิโตะ (อารมณ์ดีน่ารักมาก) เคยเป็นอาจารย์สอนคณะวิศวะฯ ที่มหาวิทยาลัยมิเอะ (Engineering Mie University) พอท่านเกษียณก็มาเป็นอาจารย์พิเศษคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และท่านเป็นคนเขตเมืองคาเมยามะ(Kameyama) เมือง Mie
คณะเดินทางขึ้นรถพร้อมที่จะออกเดินทางไปศึกษาดูงานที่มหาวิทยาลัย MIE
ด้านนอกสนามบินนาโกย่า
ออกจากสนามบินจะพบด่านเก็บเงินรถผ่านเข้าออกสนามบิน
นั่งรถออกจากสนามบินนาโกย่า มาตามสะพานเชื่อมไปสู่แผ่นดินใหญ่
บนสะพานเชื่อมระหว่างสนามบินนาโกย่า ไปยังแผ่นดินใหญ่ญี่ปุ่น
ภาพนี้มองเห็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างสนามบินนาโกยากับแผ่นดินใหญ่อย่างชัดเจน
เดินทางเข้ามาสู่แผ่นดินใหญ่ของญี่ปุ่น
พื้นที่บนแผ่นดินของญี่ปุ่น ถ้าไม่มีอุตสาหกรรม หรือชุมชนใหญ่ ก็จะเป็นภูเขาสูงถ้าไม่ใช่ต้นไม้ป่าธรรมชาติ ก็จะเป็นต้นไผ่และต้นสน ที่คนญี่ปุ่นปลูก (นั่งรถผ่านเดินทางไม่พบภูเขาที่โล่งเตรียนเลย) คนญี่ปุ่นปลูกไว้เพื่อทำเฟอร์นิเจอร์ ส่วนที่ราบจะเป็นนาปลูกข้าวญี่ปุ่น (พันธ์เมล็ดสั้น ข้าวจะเหนียวนุ่ม ปั้นเป็นข้าวปั้นได้) พบเห็นเรือนกระจกปลูกไม้เมืองร้อนอยู่ทั่วไป(หลังสีขาว) เพราะหน้าหนาวญี่ปุ่นอุณหภูมิติดลบ ...แต่ตอนไปถึงอากาศร้อนมากเพราะเป็นหน้าร้อน อุณหภูมิประมาณ 30 องศาเซลเซียส คงจะได้ (หรืออาจมากกว่าเล็กน้อย)
ภาพนี้จะเห็นบ้านของชาวญี่ปุ่น หลังคาเป็นกระเบื้องดินเผาคล้ายๆ กัน เป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมของเขา บ้านจะอยู่รวมๆ กัน ด้านบน ที่ราบด้านล่างปลูกข้าวสลับกับการปลูกถั่วเหลือง
พบต้นสนญี่ปุ่นตลอดทาง และ *** ประทับใจรถคันเล็กที่คนญี่ปุ่นใช้ บางคันประหยัดน้ำมัน 30 km/ลิตร สุดยอดเลยค่ะ
เข้าเขตเมืองยังติดชายฝั่งทะเล จะเป็นโรงแยกก๊าซ และอู่ต่อเรือในภาพ
ในภาพด้านหลังเป็นเสาสูงสีแดง เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า
...... กำลังจะไปมหาวิทยาลัยมิเอะ (Mie University)....สถานที่แรกในการดูงาน คนญี่ปุ่นทุกคนเป็นคนตรงต่อเวลามาก ดังนั้น ตามหมายกำหนดการ พวกเราคณะเดินทางก็เลยไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ได้ล้างหน้าบ้าง ส่วนใหญ่ยังใส่ชุดเดิม (คิดดูแล้วกันว่าครูเฟินใส่ชุดเดิม ตั้งแต่ออกจากโรงเรียนห้วยแถลงพิทยาคม เวลา 10.00 น. ของวันที่ 17 ส.ค. เวลาเมืองไทย ถึงสนามบินเวลา 08.00 น. ที่สนามบินนาโกย่า ....ไปดูงาน..แล้วกลับเข้าที่พักเวลาประมาณ 16.30 น. เวลาญี่ปุ่น...ที่เร็วกว่าไทยเรา 2 ชั่วโมง...555++ ไม่เคยอยู่ได้นานขนาดนี้มาก่อน...)
ไม่มีความเห็น