ส่งงานชิ้นที่1และ2 ใหม่คะ


อาจารย์คะ  หนูส่งงานชิ้นที่ 1 และ2 ใหม่แล้วคะ ในบล๊อกหนูนะคะ

สไบแพร  ศูนย์สตูล  กลุ่มที่ 5

 

ส่งงานชิ้นที่ 1 สรุปสาระสำคัญของการวิจัย

1. ชื่อเรื่อง : ความคาดหวังของผู้ปกครองที่มีต่อการบริหารการศึกษาของโรงเรียนบ้านประคำตง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์

 2. ผู้วิจัย : โพธิญาน ก้านจักร

3. ปีที่วิจัย : 2547

4. วัตถุประสงค์ :

4.1.เพื่อเปรียบเทียบความคาดหวังของผู้ปกครองที่มีต่อการบริหารการศึกษาของโรงเรียนบ้านประคำตง ในด้านการบริหารวิชาการ การบริหารงบประมาณ การบริหารงานบุคคล การบริหารงานทั่วไป

4.2. เพื่อเปรียบเทียบความคาดหวังของผู้ปกครองที่มีต่อการบริหารการศึกตามเพศ อายุ วุฒิการศึกษา อาชีพ รายได้

5. วิธีการวิจัย :

5.1.ประชากร  คือ หัวหน้าครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านประคำดง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 182 ครอบครัว กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนปะคำดง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 102 คน

 5.2เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย  แบบสอบถาม

5.3 การสร้างเครื่องมือ  ศึกษาเอกสาร  ให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจเครื่องมือ ทดลองใช้เครื่องมือและปรับปรุงเพื่อนำไปใช้จริง

5.4 การเก็บรวบรวมข้อมูล  นำแบบสอบถามและนำส่งขอความร่วมมือผู้ปกครองและขอรับกลับด้วยตัวเอง

5.5 การวิเคราะห์ข้อมูล  นำแบบสอบถามมาวิเคราะห์ด้วยการแจกแจงความถี่

5.6 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test

 6. ผลการวิจัย :

 6.1 ความคาดหวังของผู้ปกครองที่มีต่อการบริหารการศึกษาโดยภาพรวมอยู่ในระดับความคาดหวังมากโดยเรียงลำดับคือการบริหารงานทั่วไป การบริหารงานบุคคล การบริหารงบประมาณ การบริหารวิชาการ

6.2เปรียบเทียบความคาดหวังของผู้ปกครองที่มีต่อการบริหารการศึกษา โดยจำแนกตามเพศ โดยภาพรวมมีความคาดหวังไม่แตกต่างกันด้านบริหารวิชาการมีความคาดหวังแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 6.3 เปรียบเทียบความคาดหวังของผู้ปกครองที่มีต่อการบริหารการศึกษา โดยจำแนกตามอายุ วุฒิการศึกษา อาชีพ และรายได้โดยภาพรวมและรายด้านมีความคาดหวังไม่แตกต่างกัน

สรุปงานวิจัยชิ้นเรื่องที่ 2

1. ชื่อเรื่อง: การศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาต่อการกระจายอำนาจการบริหาร สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา จังหวัดสุรินทร์

2. ชื่อผู้วิจัย : วีระ แท่งทอง

3. ปีที่วิจัย : 2546

4. วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาต่อการกระจายอำนาจการบริหารการศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษา จังหวัดสุรินทร์

5. วิธีวิจัย :

5.1.ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง   ผู้บริหาร จำนวน 793 คน กลุ่มตัวอย่าง 292 คน ใช้ตารางเครจซี่และมอรืแกน

 5.2เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย  แบบสอบถาม

5.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล  ขออนุญาตสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ในการเก็บ

 5.4การวิเคราะห์ข้อมูล นำแบบสอบถามมาวิเคราะห์ด้วยการแจกแจงความถี่

5.5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล   ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t-test

6. ผลการวิจัย: 1.ความคิดเห็นของผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาต่อการกระจายอำนาจการบริหารการศึกษาสังกัดสำนักงานการประถมศึกษา จังหวัดสุรินทร์โดยรวมและรายด้านทุกด้านมีความเห็นอยู่ในระดับมากโดยด้านที่มีความเห็นด้วยมากที่สุดคือด้านการกระจายอำนาจการบริหารการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ส่วนด้านที่เห็นด้วยน้อยที่สุดด้านการกระจายอำนาจการบริหารการศึกษาในส่วนกลางตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542

2.ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาต่อการกระจายอำนาจการบริหารการศึกษาโดยรวมและรายด้านทุกด้านไม่แตกต่างกัน

3.ผลการแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมจากแบบสอบถามปลายเปิดพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามปลายเปิดมีความคิดเห็นเพิ่มเติมมากที่สุดคือการกระจายอำนาจการบริหารการศึกษาลงไปสู่เขตพื้นที่การศึกษาจะส่งผลให้เขตพื้นที่กาศึกษาแต่ละเขตได้มีการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.ผลจากการให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมจากแบบสอบถามปลายเปิดพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมมากที่สุดคือการจัดทำหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยโรงเรียนเป็นผู้จัดทำเองส่วนกลางควรจัดเอกสารและรายละเอียดขอหลักสูตรให้มากกว่านี้ตลอดจนสนับสนุนงบประมาณให้อย่างเพียงพอด้วย

 

คำสำคัญ (Tags): #วิจัย
หมายเลขบันทึก: 389511เขียนเมื่อ 30 สิงหาคม 2010 21:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 16:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท