จากประสบการณ์สอน 35 ปีที่ผ่านมา ทำให้มองเห็นว่าในปัจจุบันนี้ผู้เรียนในระดับที่ไม่เกินชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เขามาเรียนเพื่อทำตามหน้าที่เท่านั้น ยังไม่มีเป้าหมายของอนาคตที่แน่นอนเพราะมองว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องของพ่อแม่ผู้ปกครองเท่านั้นที่จะกำหนด จากการสอบถามดูน้อยคนนักที่จะตอบได้
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของผู้สอนที่จะทำอย่างไรจึงจะให้ผู้เรียนนั้นเกิดการสะสมทุนความรู้ติดไว้ในสมองของเขาให้มากที่สุด พร้อมที่จะดึงออกมาใช้ได้เมื่อถึงคราวจำเป็น ถ้าให้ผู้เรียนศึกษาจากตำรา หรือเอกสารต่าง ๆ เพียงอย่างเดียวโดยขาดการปฏิบัติจริงก็คงจะจดจำได้เพียงในระยะสั้น ๆ ไม่สามารถนำไปติดไว้ในสมองได้
สิ่งนี้เองที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องคิดหาวิธีการและเรื่องต่าง ๆ ที่จะให้ผู้เรียนนำไปเป็นทุนความรู้ติดไว้ในสมองให้มากที่สุดโดยเฉพาะเรื่องที่ต้องปฏิบัติจริง
ทุนความรู้ที่ติดในสมองของข้าพเจ้าจึงถูกนำออกมาใช้ประโยชน์บ้าง นั่นคือ เรื่องของดนตรีไทย ดนตรีสากล การหล่อกระถางคอนกรีต การทำบล็อกทางเท้า การทำเหล็กดัดประตู หน้าต่าง มุ้งลวด การผูกผ้าประดับตกแต่งสถานที่ต่าง การเดินสายไฟภายในอาคาร เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ได้ถูกนำมาใช้ในรูปของโครงการเสริมให้ผู้เรียนนอกเวลาเรียนบ้าง เรียนในรายวิชาโครงงานบ้างกระจกเงาของความสำเร็จเริ่มสะท้อนให้เห็นในวันงานคืนสู่เหย้าของโรงเรียน ผู้เรียนที่เรียนจบออกไป มีทั้งผู้ที่ได้ศึกษาต่อ ผู้ที่ต้องออกไปประกอบอาชีส่วนตัวเพราะพ่อแม่ไม่มีทุนให้เรียนต่อ มาพูดคุยกับข้าพเจ้าด้วยความดีอกดีใจถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมี่ทำให้เขาเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ นั่นคือ ผมกำลังศึกษาต่อวิศวโยธาครับ ผมทำงานอยู่ที่โรงงานครับ หนูทำงานที่บริษัทค่ะ ผมเปิดร้านทำเหล็กดัดประตู หน้าต่าง มุ้งลวดครับ ผมทำกระถางปูน ทำเสาปูนขายครับ เสียงพูดคุยถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้ทุนความรู้ไปติดอยู่ในสมองของเขาดังขึ้นแทบจะไม่มีคนฟัง แต่เป็นเสียงที่ทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขที่สุด
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ที่เกิดขึ้นทำให้ข้าพเจ้าได้คิดทบทวนถึงวิธีการทำงานว่าเราทำอย่างไรที่ทำให้เกิดกระจกเงาสะท้อนกลับมาอย่างนี้ สรุปคือใช้ยุทธศาสตร์ในการทำงานแบบ 4 ห้าม 3 ให้ 4 ห้าม คือห้ามที่ 1 ห้ามคิดแทนเด็ก นั่นหมายถึงอย่าตัดสินใจแทนเด็กในขณะที่เรายังไม่ได้ให้เขาทำ ยังไม่ได้ให้เขาคิด ซึ่งเรามักจะเห็นอยู่ว่าเมื่อไปเห็นเรื่องอะไรใหม่ ๆ หรือใครมานำเสนออะไรใหม่ ๆ ครูมักจะบอกว่าเด็กฉันคงทำไม่ได้ หรือถ้าจำเป็นต้องให้เด็กทำสิ่งนั้นเพราะได้รับการมอบหมาย ครูมักจะตัดสินใจคิดเอง ทำเองแทนเด็กโดยเด็กไม่ได้คิดอะไรเลย
ห้ามที่ 2 ห้ามรำคาญ เมื่อเราให้ผู้เรียนเขาทำงานอะไรก็ตาม งานนั้นอาจจะมีถูกบ้างผิดบ้าง หรืออาจจะไม่ถูกเลยก็ได้เพราะเขายังไม่รู้ ครูก็ต้องคอยให้คำแนะนำ หรือครูอาจต้องเรียนรู้ร่วมกันกับผู้เรียน อย่าเกิดความรำคาญในการทำงานของผู้เรียน ไม่เช่นนั้นผู้เรียนจะไม่ได้อะไรเลย
ห้ามที่ 3 ห้ามกลัว เมื่อครูอยากจะให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ต้องห้ามกลัว เช่นกลัวเครื่องคอมพิวเตอร์เสียห้ามเด็กเล่น กลัวเครื่องดนตรีพัง กลัวอันตรายจะเกิดขึ้น กลัวเด็กไม่เรียน ถ้าครูมีความกลัวผู้เรียนก็ไม่ได้เรียนรู้แน่นนอน จึงห้ามกลัวแต่อย่าประมาทในเรื่องนั้น
ห้ามที่ 4 ห้ามตำหนิ เมื่อผู้เรียนทำอะไรไม่ถูกต้อง ทำไม่ได้ ครูต้องไม่ตำหนิผู้เรียนเพราะจะทำให้เขาเกิดความท้อถอย เหตุที่เขาทำสิ่งนั้นไม่ได้ ทำผิด เพราะเขาไม่รู้ ครูต้องให้กำลังใจ ให้ความช่วยเหลือ
3 ให้ คือ
ให้ที่ 1 ให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ ครูต้องสร้างให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในเรื่องนั้น ถ้าผู้เรียนเกิดความสนใจการเรียนจะงายขึ้น เกิดการเรียนรู้ได้เร็ว เช่น ครูตีระนาดในห้องดนตรีเวลาพักกลางวัน เมื่อเด็กได้ยินจะเกิดความสนใจ มาดู เมื่อดูแล้วเกิดการอยากเล่น หรือครูพาผู้เรียนไปศึกษาดูงานในเรื่องนั้นจากที่เขาประสบผลสำเร็จว่าเป็นอย่างไร มีผลอย่างเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความสนใจ
ให้ที่ 2 ให้เวลากับผู้เรียน เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถ้าครูไม่ให้เวลากับผู้เรียน ผู้เรียนก็คงไม่อยากเรียนและไม่เกิดการเรียนรู้แน่นอน การให้เวลากับผู้เรียนทั้งในเวลาเรียนและนอกเวลาเรียนนี้ถ้าครูทำสิ่งนี้ได้มากเท่าไหร่ความเป็นกัลยานมิตรยิ่งเกิดขึ้นมากเท่านั้น นั่นหมายถึงเกิดความรัก ความผูกพัน ความเอื้ออาทรที่มีต่อกัน แล้วจะเกิดเป็นกระจกเงาให้กับตัวครู ถ้าไม่เกิดสิ่งนี้ในใจของผู้เรียน กระจกเงาอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้
ให้ที่ 3 ให้ผู้เรียนทำบ่อย ๆ ครูต้องหาโอกาสให้ผู้เรียนได้ทำในสิ่งที่เขาอยากเรียนรู้นั้นให้มาก ๆ ให้ทำซ้ำ ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และจะนำไปสู่ความมั่นใจในการกระทำ เช่น พาผู้เรียนซ้อมดนตรี พาออกฝึกงานนอกสถานที่ พาไปศึกษาดูงานจากของจริง การกระทำในสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้อย่าให้ผู้เรียนไปทำกันเอง ครูต้องเป็นผู้พานักเรียนทำ
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้วเกิดความสุข ความภูมิใจและเกิดกำลังใจในการที่จะทำงานต่อไป ท่านผู้อ่านท่านใดสนใจนำไปใช้ก็มิได้หวงห้ามแต่ประการใด หรือมีความคิดเห็นอย่างไรขอเชิญแสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับไม่มีความเห็น