แผนที่ความคิดการวางแผนกลยุทธ์


 

 

หมายเลขบันทึก: 388897เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2010 23:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:26 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีครับอาจารย์ จากกลุ่มหนองจอก

อยากได้เนื้อหาทั้งหมดที่อยู่ใน mindmap นี้

โรงเรียนบ้านหนองผือ

กลยุทธ์ที่ 1 ปรับโครงสร้างและระบบการบริหารให้ได้มาตรฐาน (SBM)

1.1 สร้างและพัฒนาองค์กรแบบมีส่วนร่วม

1.2 พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ

1.3 ยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน

1.4 สร้างเครือข่ายในโรงเรียน

กลยุทธ์ที่ 2 ส่งเสริมการจัดทำงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ (PBB)

2.1 พัฒนาการมีส่วนร่วมในการบริหารงบประมาณ

2.2 พัฒนาระบบบริหารการเงิน การบัญชี ตามแผนของงบประมาณประจำปี

กลยุทธ์ที่ 3 ส่งเสริมภูมิปัญญาไทยและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต

3.1 สืบสวนวิถีชีวิตและภูมิปัญญาไทย

3.2 ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม

3.3 พัฒนาและจัดแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต

กลยุทธ์ที่ 4 พัฒนาระบบประกันคุณภาพสถานศึกษา

4.1 ประเมินคุณภาพการศึกษาเพื่อรับการประกันคุณภาพภายนอก

4.2 สร้างเครือข่ายโรงเรียนกับหน่วยงานอื่น

กลยุทธ์ที่ 5 เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรครู

5.1 พัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ

5.2 พัฒนาความก้าวหน้าในวิชาชีพของครู

5.3 วิจัยและพัฒนาเพื่อการเรียนรู้

5.4 สร้างขีดความสามารถขององค์กรแห่งการเรียนรู้

กลยุทธ์ที่ 6 เสริมสร้างความเข้มแข็งในการจัดกระบวนการเรียนรู้

6.1 พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาให้ยืดหยุ่นสอดคล้องกันกับเศรษฐกิจและสังคม

6.2 พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้

6.3 จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศ

6.4 บูรณาการกระบวนการเรียนรู้สู่ชีวิตจริง

กลยุทธ์ที่ 7 เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ด้านภาษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและอาชีพ

7.1 ส่งเสริมการเพิ่มขีดความสามารถด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและอาชีพ

7.2 พัฒนาศักยภาพทางด้านภาษา

7.3 ส่งเสริมศักยภาพผู้เรียนสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ

7.4 พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

สวัสดีครับคุณมนตรี

ได้ครับแล้วจะจัดให้

แบบทดสอบ งานค้างครับ

1. จากคำกล่าวที่ว่านโยบายอยู่เหนือเหตุผล ท่านจะอธิบายตามหลักนโยบายศาสตร์อย่างไร

นโยบาย หมายถึง แนวทางหรือกรอบที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้ในการดำเนินงานหรือปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมายตามต้องการ

เหตุที่นโยบายอยู่เหนือเหตุผล เพราะนโยบายต่างๆ มีหลักการเป้าหมายวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน

นโยบาย ต้องผ่านการคัดเลือกแล้วกลั่นกรอง ลงมติ และอนุมัติ อย่างเป็นระบบ แต่เหตุผลอาจเป็นความคิดหรือความรู้สึกของใครคนใดคนหนึ่ง

2. นโยบายมาจากแหล่งใด

1. ชนชั้นปกครอง (eliter)

2. ข้าราชการ/นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ (bureaucratr or technocrats)

3. กลุ่มผลักดันผลประโยชน์(pressure groups/interest groups)

3. จงเขียนวงจรนโยบายสาธารณะเริ่มจากใดและสิ้นสุดลงอย่างไร

1. เกิดจากการก่อตัวนโยบาย

2. การกำหนดนโยบาย

3. การตัดสินนโยบาย

4. การนำนโยบายไปปฏิบัติ

5. การประเมินผลนโยบาย (ดังรูป)

5. นโยบายการกระจายอำนาจการจัดการศึกษาให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นท่านคิดว่าเกิดจากตัวแบบนโยบายสาธารณะตัวแบบใด จงอธิบายและให้เหตุผลประกอบ

นโยบายการกระจายอำนาจการจัดการศึกษาให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นท่านคิดว่าเกิดจากตัวแบบนโยบายสาธารณะตัวแบบสถาบัน (Institutional Model) คือนโยบายสาธารณะที่เป็นกิจกรรมของสถาบัน โดยเฉพาะสถาบันของรัฐ

6. นโยบายการประกันคุณภาพการศึกษา ท่านคิดว่าเกิดจากตัวแบบนโยบายสาธารณะตัวแบบใด จงอธิบายและให้เกตุผลประกอบ

เกิดจากตัวแบบสาธารณะตัวแบบกระแส หน้าต่างนโยบาย คือ เกิดจากกระแสปัญหา กระแสนโยบาย และกระแสการเมือง นำมาสู่การกำหนดแนวทาง การแก้ปัญหา เกิดวาระนโยบาย และสุดท้ายเกิดเป็นนโยบายสาธารณะ

7. นโยบายโรงเรียนดีประจำตำบลท่านคิดว่าเกิดจากตัวแบบนโยบายสาธารระตัวแบบใด จงอธิบายและให้เหตุผลประกอบ

เป็นตัวนโยบายแบบเชิงระบบ (System Model) นโยบายสาธารณะเกิดขึ้นจากการกลั่นกรองของระบบการเมือง เกิดจากปัจจัยนำเข้าหรือการเรียกร้อง การสนับสนุนจากระบบการเมือง และนำไปใช้ เป็นปัจจัยออก

8. จงอธิบาย Swot Analysis วิเคราะห์พร้อมยกตัวอย่างการวิเคราะห์นโยบายในหน่วยงานของท่าน พอสังเขป

ความหมายของ SWOT Analysis SWOT Analysis เป็นการวิเคราะห์สภาพองค์การ หรือหน่วยงานในปัจจุบัน เพื่อค้นหาจุดแข็ง จุดเด่น จุดด้อย หรือสิ่งที่อาจเป็นปัญหาสำคัญในการดำเนินงานสู่สภาพที่ต้องการในอนาคต

SWOT เป็นตัวย่อที่มีความหมายดังนี้

1. Strengths - จุดแข็งหรือข้อได้เปรียบ

2. Weaknesses - จุดอ่อนหรือข้อเสียเปรียบ

3. Opportunities - โอกาสที่จะดำเนินการได้

4. Threats - อุปสรรค ข้อจำกัด หรือปัจจัยที่คุกคามการดำเนินงานขององค์การ

หลักการสำคัญของ SWOT ก็คือการวิเคราะห์โดยการสำรวจจากสภาพการณ์ 2 ด้าน คือ สภาพการณ์ภายในและสภาพการณ์ภายนอก ดังนั้นการวิเคราะห์ SWOT จึงเรียกได้ว่าเป็นการวิเคราะห์สภาพการณ์ (Situation Analysis) ซึ่งเป็นการวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน เพื่อให้รู้ตนเอง (รู้เรา) รู้จักสภาพแวดล้อม (รู้เขา) ชัดเจน และวิเคราะห์โอกาส-อุปสรรค การวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภายนอกและภายในองค์กร ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารขององค์กรทราบถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายนอกองค์กร ทั้งสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้วและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคต รวมทั้งผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ที่มีต่อองค์กรธุรกิจ และจุดแข็ง จุดอ่อน และความสามารถด้านต่าง ๆ ที่องค์กรมีอยู่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการกำหนดวิสัยทัศน์ การกำหนดกลยุทธ์และการดำเนินตามกลยุทธ์ขององค์กรระดับองค์กรที่เหมาะสมต่อไป

จุดแข็ง คือ โรงเรียนพยัคฆภูมิวิทยาคารเป็นโรงเรียนในฝันประจำอำเภอที่มีชื่อเสียงนักเรียนต้องการเข้ามาเรียนจำนวนมาก

จุดอ่อน คือ นักเรียนแต่ละห้องเยอะเกินไปและมีจำนวนห้องเรียนไม่เพียงพอ ห้องน้ำมีน้อย โรงอาหารมีที่นั่งไม่เพียงพอสำหรับเด็ก

โอกาสที่จะเกิดขึ้นได้คือถ้ารัฐบาลให้การสนับสนุนเรื่องงบประมาณในการจัสร้างอาคารสถานที่ห้องเรียน ห้องน้ำ และโรงอาหาร จำนวนนักเรียนที่มีจำนวนมากก็จะได้รับความสะดวกสบายและก็จะมีคุณภาพมากขึ้น

อุปสรรค ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลน้อยและมีขั้นตอนในการทำงานมากกว่าจะมาถึงโรงเรียนต้องใช้เวลาไม่ทันต่อการพัฒนา

9. Blue Ocean Strategy เป็นกลยุทธ์การบริหารจัดการในการสร้างความต้องการหรืออุปสงค์ขึ้นมาใหม่ (Demand Creation) โดยจะไม่มุ่งเน้นการแข่งขันเป็นหลัก แต่จะให้ความสนใจกับความต้องการที่แอบแผงอยู่ของกลุ่มลูกค้า และกลุ่มที่ยังไม่ใช่ลูกค้าของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน โดยจะสร้างสินค้าและบริการที่เพิ่มคุณค่าให้กับผู้บริโภค และในขณะเดียวกันก็จะต้องสามารถลดต้นทุนในส่วนที่ไม่จำเป็นขององค์กรอีกด้วย อันจะเป็นแนวทางหนึ่งของการเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน

Blue Ocean Strategy นี้ไม่เป็นเพียงแต่ทฤษฎีทางความคิด แต่ได้นำเสนอถึงวิธีการ กระบวนการและขั้นตอนปฏิบัติอย่างเป็นระบบและมีรูปแบบที่ชัดเจน รวมถึงเครื่องมือต่าง ๆ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ซึ่งแนวความคิด กระบวนการคิด ขั้นตอนและเครื่องมือต่าง ๆ นี้ ถูกนำไปทดสอบกับการบริหารงานจริงอีกด้วย

ตัวอย่าง Starbucks' กับการใช้กลยุทธ์ Blue Ocean Strategy

Prof.Kim วิเคราะห์ว่าความสำเร็จของ Starbucks' ไม่ได้อยู่ที่การขายรสชาติของกาแฟที่หอมกรุ่นเข้มข้นเท่านั้น แต่อยู่ที่ "บรรยากาศ" (Atmosphere) ของการดื่มกาแฟ

ในสมัยปู่ย่าตายายของเรานั้น ร้านกาแฟก็คือ ร้านขายกาแฟจริงๆ ที่คนจะเข้าไปนั่งดื่มกาแฟตอนเช้า และรับประทานอาหารเช้า ก่อนเร่งรีบไปทำงาน ไม่ค่อยจะมีคนไปนั่งร้านกาแฟเพื่อคุยธุรกิจกัน ทั้งนี้เพราะร้านกาแฟ ไม่ได้รับการออกแบบให้มีเก้าอี้นั่งสบาย บรรยากาศเงียบๆ เหมาะแก่การคุยกัน

โดยมากร้านกาแฟจะมีบรรยากาศจ้อกแจ้กจอแจ เก้าอี้นั่งตัวเล็กๆ ประมาณว่าให้รีบดื่มรีบไป ลูกค้าคนอื่นจะได้มานั่งต่อ แต่ Starbucks' เล็งเห็นความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่อยากดื่มกาแฟรสอร่อยในบรรยากาศสบายๆ คล้ายนั่งในล็อบบี้ของโรงแรม สามารถคุยธุรกิจกันไป ดื่มกาแฟกันไป ยิ่งถ้าสามารถใช้โน้ตบุ๊คได้ มีระบบ wi-fi ให้ด้วยก็ยิ่งแจ๋ว เพราะจะได้พรีเซนท์งานได้เลย

ตรงนี้แหละเป็น "ตลาด" ใหม่ที่ร้านขายกาแฟรุ่นปู่ย่าตายายมองไม่เห็น นี่คือ ตลาดที่กว้างใหญ่ไพศาลและสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ นี่คือ Blue Ocean Strategy!

10. กรอบแนวคิดของแมคคินซีย์ (McKinsey 7 s Framework)

แนวคิดนี้ได้รับการเผยแพร่เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1980 โดย Robert Waterman, Tom Peter and Julien Phillips แนวคิดนี้ต้องการนำเสนอว่าประสิทธิภาพขององค์กรธุรกิจเกิดจากความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆ 7 ประการ ของธุกิจว่ามีลักษณะและมีสภาพอย่างไร

1. กลยุทธ์ (Strategy) หมายถึง การวางแผนเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม การพิจารณา จุดแข็ง จุดอ่อน ของกิจการ

2. โครงสร้าง (Structure) เป็นโครงสร้างขององค์การที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ รวมถึงขนาดการควบคุม การรวมอำนาจ และการกระจายอำนาจ ของผู้บริหาร การแบ่งโครงสร้างงานตามหน้าที่ ตามผลิตภัณฑ์ ตามลูกค้า ตามภูมิภาค ได้อย่างเหมาะสม

3. ระบบ (System) หมายถึงกระบวนการและลำดับขั้นการปฎิบัติงานทุกอย่างที่เป็นระบบที่ต่อเนื่องสอดคล้องประสานกันทุกระดับ

4. รูปแบบ (Style) หมายถึง การจัดการที่มีรูปแบบวิธีที่เหมาะสมกับลักษณะองค์การ เช่น การสั่งการ การควบคุม การูงใจ สะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์การ

5. การจัดการบุคคลเข้าทำงาน (Staff) หมายถึง การคัดเลือกบุคลากรที่มีความสามารถ การพัฒนาบุคคลกรอย่างต่อเนื่อง

6. ทักษะ (Skill) หมายถึง ความโดดเด่น ความเชี่ยวชาญในการผลิต การขาย การให้บริการ

7. ค่านิยมร่วม ( Shared value) หมายถึง ค่านิยมร่วมกันระหว่างคนในองค์การ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

12. PEST Analysis

เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมภายนอกทางการตลาดระดับมหภาค(Macro Environment) โดยเฉพาะ ประกอบไปด้วย

1. P – Political วิเคราะห์ผลกระทบจากการเมือง การปกครอง รวมถึงกฎหมายต่างๆ

2. E – Economics วิเคราะห์ผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ และปัจจัยทางเศรษฐศาสตร์

3. S – Social เป็นการวิเคราะห์ผลกระทบจากสังคม วัฒนธรรม สภาพความเป็นอยู่

4. T – Technology วิเคราะห์ผลกระทบจาก Technology หรือ Innovation อื่นๆ

mindmap นี้ มองภาพได้ชัดเจนมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท