รายชื่อข่าวที่เพื่อนๆ ส่งแล้ว


ควร หรือไม่ควร

** โต โตกันแล้วคิดบ้าง อะไรบ้าง ตัวอย่างกรณีศึกษาที่สอนในห้อง ควร หรือไม่ควร ที่จะเอามาส่งเป็นการบ้านเพื่อเอาคะแนน ***


รายชื่อข่าวที่เพื่อนๆ ส่งแล้ว


1. ตร.บุกจับเว็บประชาไท ทำผิด พรบ. คอมพิวเตอร์ แพร่ข้อมูลหมิ่นเบื้องสูง โวยทำตามใบสั่ง'มาร์ค'


2. แฮ็กเกอร์ซ่า ขโมยข้อมูลบัตรเครดิต บิลล์ เกตส์


3.ใครแพร่คลิปหลุด โฟร์-มด  RS ฟ้องดำเนินคดีแน่ !


4.กองปราบรวบแฮกเกอร์หนุ่ม เจาะรหัสบัตรเติมเงิน เสียหายนับร้อยล้าน


5.ตำรวจ ปศท.จับมือตำรวจปากน้ำ รวบแฮกเกอร์หนุ่มหัวหมอ หลอกเหยื่อคลิกโหลดเกมออนไลน์ในเว็บบอร์ด แต่ความจริงเป็นไวรัสเจาะฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ ก่อนเอาข้อมูลเข้าไปโอนเงินจากบัญชีของเหยื่อมาใช้จ่ายค่าบริการมือถือ-ขาย ยอดเติมเงินมือถือในราคาครึ่งเดียว เผยมีเหยื่อโดนถอนเงินจากบัญชีไป 8 แสนกว่าบาท


6.ศาลสั่งคุก2 ปีเจ้าของเว็บแพร่คลิปร่วมเพศเหยื่อสาว


7. จับ 10 สาวเว็บแคม"

 

8.ตำรวจกองปรามฯ นำทีมบุกจับสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ยึดกลางกว่า 3 หมื่นชิ้น มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท พร้อมระบุสหรัฐฯ เตรียมติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทาง ปัญญาของประเทศไทย

9. ศาลอนุมัติหมายจับ "เคทอง" ความผิดพรบ.คอมฯ


10. มือฟอร์เวิร์ดเมลลวง ไทยปรับเวลา ผิด พรบ.คอมพิวเตอร์


11. รวบแฮกเกอร์ เจาะ-ดูดเงิน ลูกค้ากรุงไทย

 

12 โรคจิตป่วนโพสต์เบอร์สาวเทควันโดชวนอึ๊บ

13.เรื่อง ลามกโผล่ซํ้าไฮไฟว์

14.ข่าว ลือเบอร์มรณะละเมิดสิทธิผู้ใช้บริการหนัก สบท.ซัดต้นตอปล่อยข่าวระวังเจอความผิดฐานหมิ่นประมาท และให้ข้อมูลเท็จทางคอมพิวเตอร์

15.สั่งจำคุกมือโพสต์อ้างเหยื่อแลกประสบการณ์เสียว  ศาล สั่งจำคุก 6 เดือน มือโพสต์เบอร์โทรศัพท์สาว วัย 29 พร้อมระบุข้อความแลกเปลี่ยนประสบการณ์มีเพศสัมพันธ์ ในเว็บไซต์

 

16บก.ปอศ.จับจริงลุยร้านอินเทอร์เน็ตพบซอฟต์แวร์ผีเพียบ

17บุกรวบพ่อค้าซีดีเถื่อน! คารังผลิต กลางเมืองพัทยา

 

18.จับหนุ่มเชียงใหม่ขายรูปลามก

19.สุวิชา ท่าค้อ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว เป็นผู้ต้องหากระทำผิดกฎหลายบท หลายกรรม ด้วยการเผยแพร่ข้อมูลรูปภาพ ซึ่งเป็นการกระทำดูหมิ่นองค์พระมหากษัตริย์และองค์รัชทายาท

20."กิเลส ตัณหา" กับธุรกิจ ค้าภาพลามก ผ่านเว็บเว็บไซต์กูซี้ดดอตคอม (www.gooseed.com)

 

21.บุกทลายโรงงาน กาแฟปลอม เลียนแบบยี่ห้อดัง

 

22.ยิ่งลักษณ์กรี๊ด ขู่ฟ้องกลับ หาตัดต่อคลิป

 

23.ดีเอสไอ ลุยใช้ พ.ร.บ.คอมฯ เล่นงานมือป่วนเน็ต เต็มรูปแบบ

 

24.บุกรวบพ่อค้าซีดีเถื่อน! คารังผลิต กลางเมืองพัทยา

 25.ศาลสั่งคุก2 ปีเจ้าของเว็บแพร่คลิปร่วมเพศเหยื่อสาว

ให้ส่งงานทางเมล

26.3 G ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
27. กองปราบลุยจับโต๊ะบอลรับแทงผ่านอินเตอร์เน็ต 4 แห่ง ตลิ่งชัน-หนองจอก-หนองแขม-สมุทรสาคร
28.ศาลตัดสินจำคุก10 ปี หนุ่มใหญ่หมิ่นสถาบันเบื้องสูง หลังแพร่ข้อความรูปภาพดูหมิ่นผ่านทางอินเทอร์เน็ต
29.ผู้ ปกครองตะลึง! หลานชาย และหลานสาว อายุ 7 และ 10 ขวบ นั่งดูคลิปการ์ตูนลามก “นารูโตะ”
30.บุ๋ม-ปนัดดา ร้อง ปคม. ถูกตัดต่อภาพอนาจาร 

31.อัจฉริยะ จบแค่ ป.4 Hack ระบบ ATM ธนาคาร โอนเงินเข้ามือถือ

---------------------------------------------------

รายชื่อคนที่ส่งแล้ว ณ วันที่ 1 กันยายน 2553

 sec B1
นายทศพล กลีบแก้ว  53116940070
นางสาววารุณี  มะนิยะ 53116940061
นายอาณัติ คะเน็ตนอก 53116940095
นางสาวเบญจพรทองประเสริฐ 53116940058
นางสาว พีรดา  หัสดีผง  53116940098
นางสาว ณัฏณิชา  จันทร์สี  53116940107
นายศุภชัย  กรับทอง   53116940094
นายปฏิภาณ  ชัยวรรณธรรม     53116940092
นายสุระ ยอดสิงห์ 53116940115
นายจารุกิตติ์  วรรธนะบูรณ์ 53116940112
นายชิษณุชา  อ่อนคำ  รหัส 53116940100  
นายเอกพงศ์  ลีลาประเสริฐศิลป์ รหัส 53116940085 

นางสาวมีนา   แก้วพุ่มพวง  รหัส 53116940066  sec B1
นายนวโดม    ทองมณี      รหัส 53116940071  sec B1
น.ส.  แสงระวี  สินทอง   รหัส 53116940073   ตอนเรียน  B1
 น.ส.  ปภัสรา   จั่นอาจ   รหัส 53116940074   ตอนเรียน  B1
นายอนุวัฒน์ ไพโรจน์นันทกุล 53116940114 sec.b
นายถิรชน โพธิ์ทอง 5311694096 sec.b
นายนฤดล  พวงสาลี   53116940063  sec B1
น.ส.มณฑา  เกื้อสุข    53116940093  sec B1
อมราวดี ก้องเจริญพาณิชย์   53116940105   SeC  B 1


SEC .A1‏
ปริญญา  แสนสวะ   53116940023
เรวัต  เหลืองสะอาด53116940024
นายกิตติกร  ชัยชนะ       รหัส 53116940036
นางสาวจิราภรณ์  สุภาพ รหัส 53116940056
นางสาววราภรณ์ สนทมิ  รหัส 53116940003
นายรัชพิชญ์ ทัพลา     รหัส 53116940016
นาย มาฆะ เล็บครุฑ 53116940006
 นาย รัชฎา ไชยมาตย์ 53116940026 ห้องA1

นาย สุรชาติ พรหมเเหร่ม รหัส 53116940039
นาย นัฐพงษ์ ภัทรธนเดช รหัส 53116940046
นายชุติพงศ์  กองน้อย        รหัส 53116940053   
นายเอกชัย  สิทธิเวช         รหัส 53116940042    
นาย พชรศร จริยานุสรณ์ 53116940030 
นาย พงศธร หนูผึ้ง 53116940035 
นาย มาฆะ เล็บครุฑ 53116940006
นาย รัชฎา ไชยมาตย์ 53116940026
นายสุรศิลป์  ภู่กิตติวรางกูร  รหัส  53116940097
น.ส.วรรณภา  บุญชิต          รหัส  53116940069
นายสำเร็จ  บุตรรอด    รหัส  53116940001
นางสาววาสนา  แจ้งถิ่นป่า    รหัส 53116940004
นายชัยณรงค์        พุ่มพฤกษ์   รหัส 53116940013
นางสาวศิริวัฒนา  ยอดดี         รหัส 53116940014
นายกิตติกร  ชัยชนะ       รหัส 53116940036 
นางสาวจิราภรณ์  สุภาพ รหัส 53116940056 
นางสาววริษา  อุ่นที 53116940010
นายชัชชัย  สอนสุวรรณ 53116940038
นางสาว กนกวรรณ   ว่องวิบูลย์กิจ  50116940162
นาย  ธนิก   เทพกิจ   53116940037  
ณัฐนันท์  จันทร์เจริญ  53116940019  
ภูชิสส์  เฟื่องเพียร       53116940008  
น.ส.ธันย์ชนก เป้าทอง 53116940051
น.ส.ชนัดดา ติ้วพานิช 53116940052 

 

 1.นาย เรวัตร พิสุทธิ์ศิริ     53116940064
2.นาย ธนธัช อินทร์บำรุง   53116940091

นางสาวสุวิมล ทองวีระ รหัส 53116940119
 นายสืบสกุล เกตุสุวรรณวัฒนา รหัส 53116940110
นายจักรกริช ภารทอง  53116940084   B1
นายธนะชัย  ว่องเกษฎา  53116940090  B1
นายแสนยา   สมสอาด  53116940002
 นายชาญยุทธ เกษราช   53116940025
นางสาวอัจจิมา  รักษาแก้ว รหัส 53119640029
นางสาวอัจฉรา  ศรีเพชร รหัส 5311694004
นายดุนดม์ ศิริวิมลวรรณ  รหัส 53116940089 Sec B1
นายรังสิมันตุ์ งามชลาลัย รหัส 53116940086 Sec B1
น.ส.ปณิดา  ทาริวิก 53116940032      A1

น.ส.ชลลดา  ชินพันธุ์  รหัส ... 53116940015 
 นายพงศกร  มณีรัสยากร   รหัส ... 53116940020

 

นายอัครพันธ์ อินตา
รหัส  53116940040   ตอนเรียน (A-1)
 นายปรัชญา กาหล้า
รหัส  53116940044    ตอนเรียน (A-1)
นายธันวา โชคสินอนันต์  รหัส 53116940012
นายปฤณ ทองศรีพราย    รหัส 53116940050

นาย จิรวัฒน์ แก่นแก้ว รหัส 53116940060 sec A

นาย จักรกริช สกุลลัง รหัส 53116940009 sec A

คำสำคัญ (Tags): #การเรียนการสอน
หมายเลขบันทึก: 388837เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2010 18:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 12:20 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
นายอาณัติ คะเน็ตนอก B1 53116940095 และ นางสาวเบญจพรทองประเสริฐ B1 53116940058

ศาลอนุมัติหมายจับ "เคทอง" ความผิดพรบ.คอมฯ

ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายพรวัฒน์ ทองธนบูรณ์ หรือ “เค ทอง” คนสนิท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก วันนี้ พ.ต.ท.สุพจน์ คำวงค์ษา พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ได้นำหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับนายพรวัฒน์จากศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งศาลพิจารณาแล้วได้อนุมัติหมายจับ ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

ทั้งนี้นายพรวัฒน์ หรือ เค ทอง ถูกตำรวจ บช.น. ขอหมายจับจากศาลจังหวัดมีนบุรี ในข้อหาทำให้ปรากฎให้แก่ประชาชนด้วยวิธีอื่นใดโดยมิใช่การกระทำตามความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร ข้อหาขู่เข็ญให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และข้อหาใช้สื่อยุยงปลุกปั่นทำให้เกิดความวุ่นวาย สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมือง ปลุกระดมการก่อเหตุป่วนเมือง ทำให้หวาดกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 มาแล้ว ต่อมาได้มีการหารือระหว่าง บช.น. และ บช.ก. โดยเสนอให้โอนคดีทั้งหมดของนายพรวัฒน์มาให้ บช.ก. เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นเพื่อรองรับนโยบายของคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง หรือ คตม. ในการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองของทุกกลุ่ม รวมทั้งดำเนินคดีต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงที่เป็นผลสืบเนื่องจากการเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้โอนคดีของนายพรวัฒน์ทั้งหมดมาให้คณะพนักงานสอบสวนชุดนี้ดำเนินการ ภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับนายพรวัฒน์แล้วพนักงานสอบสวนได้ประสานคณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่ง บช.ก.ที่มี พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาราชการแทน ผบก.ป. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนทราบทันที โดย พ.ต.อ.สุพิศาล ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบก.ป. พร้อมทีมงานเข้าทำการสอบสวนรวบรวมหลักฐานคดีทั้งหมดของนายพรวัฒน์ รวมทั้งประสานหมายจับไปยังตำรวจทุกหน่วยให้ติดตามจับกุมแล้ว

http://breakingnews.quickze.com/readnews-168955-+

ดีเอสไอ ลุยใช้ พ.ร.บ.คอมฯ เล่นงานมือป่วนเน็ต เต็มรูปแบบ

นับถอยหลัง "23 สิงหา" ดีเดย์ ประกาศ พ.ร.บ.คอมฯ มีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบ "ญาณพล" เชื่อมั่นสาวถึงตัวมือป่วนเน็ต มือส่งภาพ-คลิปโป๊ เน้นเก็บข้อมูลการจราจรทางเน็ต ขู่ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 5 แสน

หลังจาก 1 ปีที่ พ.ร.บ.คอมฯ มีผลบังคับใช้ มาแล้วนั้น ให้จับตา 23 สิงหาคม นี้ เพราะประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จะมีผลบังคับเต็มรูปแบบ ให้ทุกหย่อมหญ้า ผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ต เล็ก-ใหญ่ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ สถานศึกษา ไม่เว้นร้านเน็ต เกมออนไลน์ ทั่วประเทศ ที่ได้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่บุคคลหรือลูกค้าในองค์กร ต้องเก็บข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ อย่างน้อย 90 วัน "ดีเอสไอ" เชื่อสาวถึงตัวป่วนเน็ต และพวกชอบส่ง-อัพโหลด ภาพลามก เผยองค์กรใดไม่ทำตาม เตรียมรอโทษปรับ 5 แสนบาท

ปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญ ของการประกอบกิจการ และการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมเมืองและโลกการค้า การบริโภคข้อมูลข่าวสาร ที่ต้องการความฉับไวเป็นอันดับต้นๆ แต่ความรวดเร็ว ฉับไวนั้นก็มาพร้อมๆ กับความเสี่ยงและความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจทำให้ "ความลับ" ที่เป็นส่วนตัวของคน และองค์กร ถูกนำมาใช้โดยมิชอบหรือเพื่อประโยชน์ด้านอื่น หรือถูกก่อกวนเพื่อให้เกิดความผิดพลาดเสียหาย นำไปสู่การสูญเสีย ชื่อเสียง ภาพพจน์ ทรัพย์สิน และบางครั้งอาจรวมถึงชีวิตของคนที่เรารักก็เป็นได้ ความเสียหายเหล่านี้กระทบกระเทือนต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน

ดังนั้น ความสำคัญของการใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์และอาจก่อให้เกิดความเสียหายนี้ จึงได้รับความสำคัญจากภาครัฐได้ตราเป็น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ขึ้น และเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่ 18 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้มีประกาศกระทรวงไอซีที ถึงระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับ พ.ร.บ. ดังกล่าวไว้อย่างชัดเจน เมื่อ 23 สิงหาคม 2550

หนึ่งปีเต็มสำหรับผลการบังคับใช้ พ.ร.บ. ดังกล่าว แต่การสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวมารับโทษยังมีข้อจำกัดหลายด้าน โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสืบสวนสอบสวนนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงได้ออกประกาศกระทรวงฯ ให้กลุ่มองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ทยอยดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ไว้ไม่น้อยกว่า 90 วัน ซึ่งคำว่า "ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์" นั้นหมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการหรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น

โดยกลุ่มแรกที่ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.นี้แล้ว คือกลุ่ม ผู้ให้บริการโทรศัพท์ทั้งเคลื่อนที่และระบบไร้สาย ได้เริ่มจัดเก็บข้อมูลของผู้บริโภคที่ใช้โทรศัพท์ติดต่อ หรือส่งข้อความส่งคลิปวีดีโอไปแหล่งใดหรือได้รับจากแหล่งใดผู้ให้บริการจะต้องเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2550 ที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มผู้ให้บริการเข้าถึงระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คือ ISP ไม่ว่าจะเป็น ทรู ซีเอสล็อกอินโฟ สามารถ เคเอสซี เอเน็ต เอเชียเน็ต TOT ได้เริ่มเก็บข้อมูลการให้บริการเหล่านี้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา

ในวันที่ 23 สิงหาฯนี้ "กลุ่มที่ 3" ซึ่งอาจเรียกได้ว่าที่เหลือจากกลุ่มที่หนึ่งและสองทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ให้บริการอินเทอร์เน็ต แก่ข้าราชการหรือพนักงานหรือลูกค้าของตน เช่น หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา โรงแรม แฟลต อพารต์เม้นท์ ห้องเช่า บ้านเช่า ร้านกาแฟ ร้านเน็ตคาเฟ่ จะต้องเริ่มจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ไม่น้อยกว่า 90 วัน เช่นเดียวกัน ยกเว้นแต่ผู้ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตตามบ้านพักอาศัยทั่วไป เท่านั้น

พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน ผู้บัญชาการ สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะการส่งต่ออีเมลล์หรือดาวน์โหลด อัพโหลด เผยแพร่ ภาพลามกอนาจาร หรือการเขียนข้อความหมิ่นประมาทผู้อื่นรวมถึงก่อความไม่สงบสุขต่อบ้านเมืองจำนวนมาก ซึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของผู้กระทำความผิดในรูปแบบต่างๆ พร้อมกับแจ้งเตือนประชาชนเป็นระยะ แต่การสืบหาตัวผู้กระทำความผิดแม้ที่ผ่านมาจะมีการสืบสวนสอบสวนกระทั่งได้ตัวผู้กระทำความผิดมาแล้วหลายราย ขณะเดียวกันยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่สามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดตัวจริงมาดำเนินคดีได้

พ.ต.อ.ญาณพล เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 สิงหาคม 2551 ที่จะถึงนี้จะเป็นวันแรกที่ ประกาศกระทรวงไอซีที ที่อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จะมีผลบังคับใช้ให้ หน่วยราชการ สถานศึกษา องค์กร ร้านค้า บริษัท ห้างร้าน ธนาคาร โรงแรม บ้านเช่า แฟล์ต อพาร์ตเม้นท์ ร้านอินเทอร์เน็ตคาร์เฟ่ ผู้ให้บริการร้านเกมส์ออนไลน์ ต้องเก็บข้อมูลการใช้บริการไม่น้อยกว่า 90 วัน โดยสิ่งที่ผู้ให้บริการร้านอินเทอร์เน็ต ต้องเก็บข้อมูล 3 ส่วน คือ ข้อมูลที่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ เช่น ชื่อ สกุล หรือ หมายเลขบัตรประชาชน เป็นต้น ส่วนที่ 2วันเวลาที่ลูกค้าเข้ามาใช้ และเลิกใช้เครื่อง และ ส่วนที่ 3 หมายเลขเครื่องที่ใช้ IP Address (ภายนอกและภายใน) และ URL ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการตามรอยผู้กระทำความผิด เช่น หากบุคคลในองค์กรไปส่งรูปลามกอนาจาร หรือทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้ จะได้ตรวจสอบผู้กระทำความผิดได้ไม่ยาก

และภายหลังจากที่กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้และพบว่าหน่วยงานใดไม่ดำเนินการตามกฎหมายหน่วยงานหรือองค์กรนั้นๆ จะต้องรับผิดชอบโดยมีโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท

ส่วนการสร้างระบบที่จะจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวเป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน ที่จะดำเนินการหรือสั่งการ เช่น ให้ผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรติดตั้งระบบล็อกอินก่อนเข้าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถระบุผู้ใช้บริการได้ชัดเจน

การดำเนินตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยเฉพาะในการเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ดังกล่าวถือเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานของภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็กหรือใหญ่ หากยังไม่มีมาตรการใดที่จะห้ามมิให้บุคลากรในหน่วยงานของท่าน กระทำผิดกฎหมาย อาทิ ส่งข้อมูลโป๊ ลามก โกหก หลอกลวง สร้างความไม่สงบต่อบ้านเมืองหรือขัดต่อศีลธรรมอันดี ส่งเมลไปให้ผู้อื่นจนทำให้เกิดความเบื่อหน่าย รำคาญใจ ส่งไวรัส สัญญาณก่อกวน แฮ๊กข้อมูลบุคคลอื่น ซึ่งล้วนเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น

"ท่านจะต้องเก็บข้อมูลการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรท่านไว้อย่างน้อย 90 วัน ไม่อย่างนั้นแล้วหากมีการสืบสวนแล้วพบว่า มีบุคคลในองค์กรของท่านได้ใช้คอมพิวเตอร์ของท่านเพื่อกระทำความผิดดังกล่าว แต่หน่วยงานนั้น ไม่ได้จัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ หน่วยงานของท่านจะต้องถูกปรับไม่เกินห้าแสนบาท ซึ่งไม่เพียงหมายถึงทรัพย์สิน งบประมาณ รายได้ที่ขององค์กรที่ต้องสูญเสียไปกับค่าปรับ แต่หากยังรวมถึง หน้าตา ชื่อเสียง ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ของหน่วยงานท่านด้วย" พ.ต.อ.ญาณพล กล่าว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Matichon online

http://icare.kapook.com/content_detail.php?t_id=0&id=541

น.ส.ธันย์ชนก เป้าทอง 53116940051 sec A และ น.ส.ชนัดดา ติ้วพานิช รหัส 53116940052

ดีเอสไอ ลุยใช้ พ.ร.บ.คอมฯ เล่นงานมือป่วนเน็ต เต็มรูปแบบ

นับถอยหลัง "23 สิงหา" ดีเดย์ ประกาศ พ.ร.บ.คอมฯ มีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบ "ญาณพล" เชื่อมั่นสาวถึงตัวมือป่วนเน็ต มือส่งภาพ-คลิปโป๊ เน้นเก็บข้อมูลการจราจรทางเน็ต ขู่ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 5 แสน

หลังจาก 1 ปีที่ พ.ร.บ.คอมฯ มีผลบังคับใช้ มาแล้วนั้น ให้จับตา 23 สิงหาคม นี้ เพราะประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จะมีผลบังคับเต็มรูปแบบ ให้ทุกหย่อมหญ้า ผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ต เล็ก-ใหญ่ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ สถานศึกษา ไม่เว้นร้านเน็ต เกมออนไลน์ ทั่วประเทศ ที่ได้ให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่บุคคลหรือลูกค้าในองค์กร ต้องเก็บข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ อย่างน้อย 90 วัน "ดีเอสไอ" เชื่อสาวถึงตัวป่วนเน็ต และพวกชอบส่ง-อัพโหลด ภาพลามก เผยองค์กรใดไม่ทำตาม เตรียมรอโทษปรับ 5 แสนบาท

ปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้กลายเป็นส่วนสำคัญ ของการประกอบกิจการ และการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมเมืองและโลกการค้า การบริโภคข้อมูลข่าวสาร ที่ต้องการความฉับไวเป็นอันดับต้นๆ แต่ความรวดเร็ว ฉับไวนั้นก็มาพร้อมๆ กับความเสี่ยงและความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้จากการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจทำให้ "ความลับ" ที่เป็นส่วนตัวของคน และองค์กร ถูกนำมาใช้โดยมิชอบหรือเพื่อประโยชน์ด้านอื่น หรือถูกก่อกวนเพื่อให้เกิดความผิดพลาดเสียหาย นำไปสู่การสูญเสีย ชื่อเสียง ภาพพจน์ ทรัพย์สิน และบางครั้งอาจรวมถึงชีวิตของคนที่เรารักก็เป็นได้ ความเสียหายเหล่านี้กระทบกระเทือนต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน

ดังนั้น ความสำคัญของการใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์และอาจก่อให้เกิดความเสียหายนี้ จึงได้รับความสำคัญจากภาครัฐได้ตราเป็น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ขึ้น และเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่ 18 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา โดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้มีประกาศกระทรวงไอซีที ถึงระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับ พ.ร.บ. ดังกล่าวไว้อย่างชัดเจน เมื่อ 23 สิงหาคม 2550

หนึ่งปีเต็มสำหรับผลการบังคับใช้ พ.ร.บ. ดังกล่าว แต่การสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวมารับโทษยังมีข้อจำกัดหลายด้าน โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการสืบสวนสอบสวนนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงได้ออกประกาศกระทรวงฯ ให้กลุ่มองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ทยอยดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ไว้ไม่น้อยกว่า 90 วัน ซึ่งคำว่า "ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์" นั้นหมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการหรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น

โดยกลุ่มแรกที่ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.นี้แล้ว คือกลุ่ม ผู้ให้บริการโทรศัพท์ทั้งเคลื่อนที่และระบบไร้สาย ได้เริ่มจัดเก็บข้อมูลของผู้บริโภคที่ใช้โทรศัพท์ติดต่อ หรือส่งข้อความส่งคลิปวีดีโอไปแหล่งใดหรือได้รับจากแหล่งใดผู้ให้บริการจะต้องเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2550 ที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มผู้ให้บริการเข้าถึงระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต คือ ISP ไม่ว่าจะเป็น ทรู ซีเอสล็อกอินโฟ สามารถ เคเอสซี เอเน็ต เอเชียเน็ต TOT ได้เริ่มเก็บข้อมูลการให้บริการเหล่านี้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา

ในวันที่ 23 สิงหาฯนี้ "กลุ่มที่ 3" ซึ่งอาจเรียกได้ว่าที่เหลือจากกลุ่มที่หนึ่งและสองทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ให้บริการอินเทอร์เน็ต แก่ข้าราชการหรือพนักงานหรือลูกค้าของตน เช่น หน่วยงานภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา โรงแรม แฟลต อพารต์เม้นท์ ห้องเช่า บ้านเช่า ร้านกาแฟ ร้านเน็ตคาเฟ่ จะต้องเริ่มจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ไม่น้อยกว่า 90 วัน เช่นเดียวกัน ยกเว้นแต่ผู้ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตตามบ้านพักอาศัยทั่วไป เท่านั้น

พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน ผู้บัญชาการ สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะการส่งต่ออีเมลล์หรือดาวน์โหลด อัพโหลด เผยแพร่ ภาพลามกอนาจาร หรือการเขียนข้อความหมิ่นประมาทผู้อื่นรวมถึงก่อความไม่สงบสุขต่อบ้านเมืองจำนวนมาก ซึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของผู้กระทำความผิดในรูปแบบต่างๆ พร้อมกับแจ้งเตือนประชาชนเป็นระยะ แต่การสืบหาตัวผู้กระทำความผิดแม้ที่ผ่านมาจะมีการสืบสวนสอบสวนกระทั่งได้ตัวผู้กระทำความผิดมาแล้วหลายราย ขณะเดียวกันยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่สามารถติดตามตัวผู้กระทำผิดตัวจริงมาดำเนินคดีได้

พ.ต.อ.ญาณพล เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 สิงหาคม 2551 ที่จะถึงนี้จะเป็นวันแรกที่ ประกาศกระทรวงไอซีที ที่อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จะมีผลบังคับใช้ให้ หน่วยราชการ สถานศึกษา องค์กร ร้านค้า บริษัท ห้างร้าน ธนาคาร โรงแรม บ้านเช่า แฟล์ต อพาร์ตเม้นท์ ร้านอินเทอร์เน็ตคาร์เฟ่ ผู้ให้บริการร้านเกมส์ออนไลน์ ต้องเก็บข้อมูลการใช้บริการไม่น้อยกว่า 90 วัน โดยสิ่งที่ผู้ให้บริการร้านอินเทอร์เน็ต ต้องเก็บข้อมูล 3 ส่วน คือ ข้อมูลที่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ เช่น ชื่อ สกุล หรือ หมายเลขบัตรประชาชน เป็นต้น ส่วนที่ 2วันเวลาที่ลูกค้าเข้ามาใช้ และเลิกใช้เครื่อง และ ส่วนที่ 3 หมายเลขเครื่องที่ใช้ IP Address (ภายนอกและภายใน) และ URL ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการตามรอยผู้กระทำความผิด เช่น หากบุคคลในองค์กรไปส่งรูปลามกอนาจาร หรือทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้ จะได้ตรวจสอบผู้กระทำความผิดได้ไม่ยาก

และภายหลังจากที่กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้และพบว่าหน่วยงานใดไม่ดำเนินการตามกฎหมายหน่วยงานหรือองค์กรนั้นๆ จะต้องรับผิดชอบโดยมีโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท

ส่วนการสร้างระบบที่จะจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวเป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน ที่จะดำเนินการหรือสั่งการ เช่น ให้ผู้ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรติดตั้งระบบล็อกอินก่อนเข้าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถระบุผู้ใช้บริการได้ชัดเจน

การดำเนินตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยเฉพาะในการเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ดังกล่าวถือเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานของภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็กหรือใหญ่ หากยังไม่มีมาตรการใดที่จะห้ามมิให้บุคลากรในหน่วยงานของท่าน กระทำผิดกฎหมาย อาทิ ส่งข้อมูลโป๊ ลามก โกหก หลอกลวง สร้างความไม่สงบต่อบ้านเมืองหรือขัดต่อศีลธรรมอันดี ส่งเมลไปให้ผู้อื่นจนทำให้เกิดความเบื่อหน่าย รำคาญใจ ส่งไวรัส สัญญาณก่อกวน แฮ๊กข้อมูลบุคคลอื่น ซึ่งล้วนเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น

"ท่านจะต้องเก็บข้อมูลการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรท่านไว้อย่างน้อย 90 วัน ไม่อย่างนั้นแล้วหากมีการสืบสวนแล้วพบว่า มีบุคคลในองค์กรของท่านได้ใช้คอมพิวเตอร์ของท่านเพื่อกระทำความผิดดังกล่าว แต่หน่วยงานนั้น ไม่ได้จัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ หน่วยงานของท่านจะต้องถูกปรับไม่เกินห้าแสนบาท ซึ่งไม่เพียงหมายถึงทรัพย์สิน งบประมาณ รายได้ที่ขององค์กรที่ต้องสูญเสียไปกับค่าปรับ แต่หากยังรวมถึง หน้าตา ชื่อเสียง ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ของหน่วยงานท่านด้วย" พ.ต.อ.ญาณพล กล่าว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Matichon online

http://icare.kapook.com/content_detail.php?t_id=0&id=541

(เมื่อกี้ลืมพิมพ์ชื่อค่ะ) ส่งใหม่

ให้ส่งงานทาง Email ในนี้ให้เข้ามาดูหัวข้อ

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท