มิตรมีใจดี
[๒๖๐] คหบดีบุตร คน ๔ จำพวกนี้ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี (มิตรแท้) คือ
๑.มิตรมีอุปการะ พึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
๒.มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ พึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
๓.มิตรแนะนำประโยชน์ พึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
๔.มิตรมีความรักใคร่ พึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
[๒๖๑] คหบดีบุตร มิตรมีอุปการะ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการ คือ
๑.ป้องกันมิตรผู้ประมาทแล้ว
๒.ป้องกันทรัพย์ของมิตรผู้ประมาทแล้ว
๓.เมื่อมีภัยเป็นที่พึ่งพำนักได้
๔.เมื่อมีกิจที่จำเป็นเกิดขึ้น ก็ช่วยโภคทรัพย์ให้ ๒ เท่าของทรัพย์ที่ต้องการในกิจนั้น
คหบดีบุตร มิตรมีอุปการะ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการนี้แล
[๒๖๒] คหบดีบุตร มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการ คือ
๑.บอกความลับแก่เพื่อน
๒.ปิดความลับของเพื่อน
๓.ไม่ละทิ้งในยามอันตราย
๔.แม้ชีวิตก็อาจสละเพื่อประโยชน์ของเพื่อนได้
คหบดีบุตร มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการนี้แล
[๒๖๓] คหบดีบุตร มิตรแนะนำประโยชน์ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการ คือ
๑.ห้ามมิให้ทำชั่ว
๒.แนะนำให้ตั้งอยู่ในความดี
๓.ให้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
๔.บอกทางสวรรค์ให้
คหบดีบุตร มิตรแนะนำประโยชน์ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการนี้แล
[๒๖๔] คหบดีบุตร มิตรมีความรักใคร่ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการ คือ
๑.ไม่พอใจความเสื่อมของเพื่อน
๒.พอใจความเจริญของเพื่อน
๓.ห้ามปรามคนที่นินทาเพื่อน
๔.สนับสนุนคนที่สรรเสริญเพื่อน
คหบดีบุตร มิตรมีความรักใคร่ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการนี้แล
[๒๖๕] พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสเวยยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
บุคคลที่เป็นมิตรมีใจดี ๔ จำพวกนี้ คือ
(๑)มิตรมีอุปการะ (๒) มิตรร่วมทุกข์ร่วมสุข
(๓)มิตรแนะนำประโยชน์ (๔) มิตรมีความรักใคร่
บัณฑิตรู้อย่างนี้แล้ว
พึงเข้าไปคบหาด้วยความจริงใจ
เหมือนมารดาคบหาบุตรผู้เกิดแต่อกฉะนั้น
บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล
ย่อมสว่างโชติช่วงดังดวงไฟ
เมื่อบุคคลสะสมโภคทรัพย์ย่อมอยู่ดังตัวผึ้งสร้างรัง
โภคทรัพย์ของเขาก็ย่อมเพิ่มพูนขึ้น
ดุจจอมปลวกที่ตัวปลวกก่อขึ้นฉะนั้น
คฤหัสถ์ในตระกูล ผู้สามารถ
ครั้นรวบรวมโภคทรัพย์ได้อย่างนี้แล้ว
พึงแบ่งโภคทรัพย์ออกเป็น ๔ ส่วน
คือส่วนหนึ่งใช้สอย ๒ ส่วนใช้ประกอบการงาน
ส่วนที่ ๔ เก็บไว้ด้วยหมายใจว่าจะใช้ในยามมีอันตราย
จึงผูกมิตรไว้ได้
(ยังมีต่อ)
มิตรแท้ด้วยเมตตาตามหลักพุทธ
เป็นที่สุดแห่งความสุขไม่ทุกข์หนอ
มีแต่ให้ไม่รอรับเพราะเพียงพอ
เพียงจิตขอเธอหลุดพ้นจากวังวน
อ่านแล้ว.. ได้สติไตร่ตรองดีมากครับ เมื่อพิจารณาแล้ว ผมมีมิตรใจดีอยู่จำนวนไม่น้อยเลย
สวัสดีค่ะพี่ณัฐรดา
เป็นคำสอนที่ดีมากค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณณัฐรดามาอ่านสาระ มิตรมีใจดี เพื่อใช้ในการครองเรือน ขอบคุณค่ะนำดอกไม่มาฝากค่ะ
เพื่อนคือสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต
กัลยาณมิตรคือน้ำทิพย์ปลอบโยนใจ
คู่ครองและคนของครอบครัว ก็คือ มิตรแท้นะคะ
ขอบคุณค่ะ